เสียหายไม่ต่ำกว่า 2 ล้าน!! เพลิงไหม้กุฏิวัดร่มหลวง ต.แม่แฝก อ.สันทราย เจ้าหน้าที่ช่วยกันดับเพลิงจ้าละหวั่น หวิดลุกลามเป็นวงกว้าง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 29 มีนาคม 2561 โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่แฝก จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้กุฏิพระ ภายในวัดร่มหลวง หมู่ที่ 4 ต.แม่แฝก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ภายหลังทราบเรื่องจึงนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกันกับทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าร่วมระงับเหตุอย่างเร่งด่วน เนื่องจากทราบว่าเพลิงได้ลุกไหม้อย่างหนัก และมีทีม่าว่าจะลุกลามขยายเป็นวงกว้าง

ซึ่งเมื่อทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเดินทางถึงยังที่เกิดเหตุ พบกลุ่มชาวบ้านจำนวนมากในระแวกใกล้เคียงกำลังช่วยกันควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้อย่างหนักหน่วง โดยเพลิงดังกล่าวได้เกิดเปลวเพลิงลุกท่วมกุฏิทั้งหลัง ซึ่งเป็นอาคาร 2 ชั้นโดยชั้นบนเป็นไม้สัก ชั้นล่างเป็นปูน ขนาดความกว้าง 10 เมตร และยาวประมาณ 20 เมตร ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องต้องระดมรถดับเพลิงจำนวนหลายสิบคันเข้าทำการฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามเป็นวงกว้าง พร้อมทั้งเร่งระงับเพลิงที่กำลังลุกไหม้ โดยใช้เวลานานร่วมชั่วโมง จนกระทั่งในที่สุดก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ทั้งหมด แต่ตัวอาคารกุฏิที่ถูกเพลิงไหม้นั้นได้เสียหายทั้งหลังรวมไปถึงทรัพย์สินที่อยู่ภายในที่ไม่สามารถขนออกมาได้ทัน

ต่อมาภายหลังจากที่เพลิงสงบลงแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้เข้าทำการสำรวจที่เกิดเหตุ เบื้องต้นไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด ขณะเดียวกันทราบว่า ช่วงเกิดเหตุนั้นมี พระธำรงค์ กะตะวาโร อายุ 67 ปี เจ้าอาวาสวัดจำพรรษาอยู่เพียงรูปเดียว ส่วนทรัพย์สินภายในกุฏิที่เสียหายรวมไปถึงตัวอาคารเบื้องต้นคาดค่าความเสียหายทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท

จากการสอบสวนทราบว่า ช่วงเวลาดังกล่าวทางพระธำรงค์ กะตะวาโร เจ้าอาวาสวัดกำลังสรงน้ำ หลังจากเสร็จแล้วก็ได้เดินกลับขึ้นไปยังห้องนอน แต่ระหว่างกำลังเดินมานั้นได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นในห้องจากนั้นก็เกิดควันไฟและมีเพลิงลุกไหม้ขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากภายในห้องมีวัตถุที่สามารถติดเพลิงได้ง่ายจนกระทั่งเพลิงลุกไหม้อย่างหนักและลามไปกุฏิทั้งหลัง โดยระหว่างนั้นได้แจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลแม่แฝก และในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็ไม่ทันการจนกระทั่งไฟได้ลุกไหม้เสียหายทั้งหมด อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกข้อมูลในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งจะได้ประสานให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้อย่างแน่ชัดต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น