ฤาอิทธิปาฎิหาริย์ พญายักษาราช 2 ตน ในเชียงใหม่ ที่มีอิทธิฤทธิ์แรงกล้า

ในวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร ยักษ์ผู้รักษาเมืองเชียงใหม่ เคยรู้หรือไม่ ตนไหนหน้าดุดัน ตนไหนหน้าตายิ้มแย้ม และควรขอพร องค์ไหน ปฎิบัติ อย่างไร เพื่อให้สัมฤทธิ์ผล
ผู้สื่อข่าวรายานงานว่า หากเอ่ยถึงวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่มายาวนาน ในฐานะลูกหลาน ชาวเชียงใหม่และชาวไทยทั่วโลก ทุกคนก็อยากจะรู้อยากจะทราบว่า ทำไมถึงมีพญายักษราช ยืนเฝ้าเสาหลักเมือง ดูหน้าตาดุดัน 1 ตน และดูหน้าตามีเมตตายิ้มแย้ม 1 ตน หากคนสังเกตแล้วจะเห็นทันที ยักษาทั้ง 2 ตน ในวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร นั้น มีที่มาที่ไปอย่างไร วันนี้ เชียงใหม่นิวส์ออนไลน์จะพาไปไขข้อข้องใจ และเชื่อว่าทุกคนจะเกิดแรงศรัทธาอันแรงกล้าแน่นอน ที่วัดเจดีย์หลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีเสาอินทขีล หรือ เสาหลักเมือง ตั้งอยู่ และมียักษ์เฝ้าดูแลรักษาวัดและเสาอินทขีลอยู่ 2 ตน มีอยู่หลายคนนักที่ยังไม่รู้ประวัติความมีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ของยักษาทั้ง 2 ตน
ปัจจุบันมีผู้คนมากหน้าหลายตา ที่ทราบข่าวก็แวะมากราบไหว้บูชา พญายักราชทั้ง 2 ตน โดยเชื่อกันว่า พญายักษา นั้น มี 1 ตน หน้าตาดุดัน น่าเกรงขาม จะตั้งอยู่ด้าน ( ทิศใต้ ) ของเสาหลักเมือง ตนนี้จะมีอิทธิฤทธิ์ในการขจัดปัดเป่า จากร้ายให้กลายเป็นดี ใครที่คิดร้ายใส่ความเล่นของหากได้ไปกราบไหว้แล้วจากร้ายจะกลายเป็นดี ที่ผ่านมา มีนักธุรกิจ และบุคคลมีชื่อเสียงระดับมหาเศรษฐีพันล้าน ไปกราบไหว้บูชาแก้ไขปัญหาชะตาชีวิตมาแล้ว จากที่มีเรื่องแย่ๆ ก็กลายเป็นดีวันดีคืนอย่างไม่น่าเชื่อ จนต้องถวายตัวเป็นลูกศิษย์กันเลยทีเดียว
ส่วนอีกตน ตั้งอยู่ทาง (ทิศเหนือ) ชื่อยักษ์อมรเทพ พญายักษาตนนี้หน้าตาออกยิ้มแย้มแจ่มใส ใจดี แต่มีอิทธิฤทธิ์ในการดลบันดาลให้ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่และผู้ที่เพิ่งได้รับการบรรจุในตำแหน่งหน้าที่การงาน จะเข้าไปกราบขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลกับชีวิตการทำงานมีทั้งราชการ และพนักงานทั่วไป ทุกคนก็จิตใจเบิกบานและประสบความสำเร็จ ไปตามกัน เรื่องลี้ลับ ที่ทุกคนไม่คาดคิด
นายชัยพินธ์ ขัติยะ ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเชียงใหม่ เล่าว่า ตนเองนั้นมีความเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ของยักษาทั้ง 2 ตน มานานแล้ว ที่ผ่านมาเคยพาผู้หลักผู้ใหญ่ รวมทั้งนักธุรกิจระดับมหาเศษรฐี เข้าไปกราบไหว้บูชา เพื่อให้ประสบความสำเร็จ รวมทั้งขจัดปัญหา
 โดยจะมีเคล็ดลับบางประการ ที่ตนเองมีความเชื่อว่า หากได้กราบไหว้บูชาด้วยของสิ่งนี้แล้ว แทบทุกรายจะดีวันดีคืน ส่วนจะเป็นอะไร นั้น มันเป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ในฐานะตนที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองและมีความเชื่อต่อองค์กุมภัณฑ์ ตนจะมีเคล็ดลับสิ่งของเซ่นไหว้ไว้ ซึ่งไม่สามารถที่จะบอกได้ เนื่องจากเป็นความเชื่อส่วนบุคคล หากบอกผิดไปไม่ตรงกับความเชื่อของคนอื่น ก็จะไม่ดีต่อตัวของตนด้วย
ดังนั้นสิ่งที่ดีงามทุกอย่างก็เป็นสิ่งดีทั้งสิ้น สำหรับประวัติศาลกุมภัณฑ์หรือพญายักษราชนี้ สร้างขึ้นเมื่อพศ.2352 สมัยพระเจ้ากาวิละ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์แรก ให้ก่อสร้างรูปกุมภัณฑ์ 2 ตนไว้ หน้าวัด เพื่อคอยพิทักษ์เสาอินทขีล หรือเสาหลักเมืองไว้ มีอยู่ 2 ตน 2 ศาล และจะมีต้นยางขนาดใหญ่ปลูกอยู่ข้างศาล สำหรับต้นยางที่กิ่งหักโค่นลงมานั้น ชื่อต้นยางนาปลูกในสมัยพระเจ้ากาวิละเช่นเดียวกัน สูง 45 เมตร ใหญ่ที่สุดใน จ.เชียงใหม่
เคยมีเรื่องเล่าว่าเมื่อก่อนมีพ่อค้า มายืนฉี่ตรงใกล้ศาลกุมภัณฑ์ ขณะกำลังจะฉี่ปรากฎว่ามีฝูงผึ้งที่ทำรังอยู่บนต้นไม้รุมต่อยจนเข็ดหลาบไปเลยก็มี ที่ผ่านมา เคยมีโจรผู้ร้ายเข้าไปขโมยควักลูกตา ตัดเศียรกุมภัณฑ์ แต่ก็มีอันเป็นไปทุกราย หลังก่อเหตุก็ถูกตำรวจตามจับได้ดำเนินคดี

ร่วมแสดงความคิดเห็น