รวบ ผญบ.ติดสินบนค้าไม้ชิงชัน ยึดเงินกว่า 1 แสน รถยนต์ 2 คัน

ช่วงระหว่างวันที่ 8 ต.ค.2561 เวลา 23.30 น. ต่อเนื่องกัน จนถึงวันที่ 9 ต.ค.2561 เวลา 21.35 น. นายเกรียงศักดิ์ ถนอมพันธ์ ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 แพร่, นายยศวัฒน์ เทียนสวัสดิ์ ผอ.ส่วนอุท ยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 แพร่, นายฉัตรชัยโยธาวุธ หน.อุทยานแห่งชาติดอยภูคา, นายวิสุทธิ์ ใสสะอาด หน.ขุนน่าน, นายสุริยา กาละสุข หน.อช.แม่จริม, นายลอยใจจุน หน่วยป้องกันรัก ษาป่าที่ นน.8 แม่จริม จนท.อุทยานแห่งชาติดอยภูคา, จนท.สายตรวจปราบปราม สบอ.13 แพร่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ นน.8 กรมป่าไม้
ได้ร่วมกันออกตรวจปราบปรามในพื้นที่ อ.แม่จริม จ.น่าน, ร่วมกับ พ.ต.ท.ชวลิต ค าตื้อ ผบ.ร้อย ตชด. 324 ร.ต.ท.อดุลย์ ใชยา หน.ชป.คร.ร้อย ตชด.324 และจนท.ตชด.จำนวนหนึ่ง ร่วมกันออกตรวจพื้นที่ในเขตรับผิดชอบ ซึ่งสืบทราบมาว่าจะมีกลุ่มนายทุนร่วมกับชาวบ้าน ในพื้นที่ ต.น้ำพาง ลอบขนไม้ชิงชัน จึงได้จัดชุดลาดตระเวณในพื้นที่รับผิดชอบ ตามถนนเส้นทางแนวชายแดน อ.แม่จริม จ.น่าน (ในเขต อช. ดอยภูคา) เมื่อมาถึงบริเวณที่เกิดเหต พบรถยนต์กระบะบรรทุกต้องสงสัย จำนวน 2 คัน โดยมีผ้าใบสีดำคุมที่กระบะท้าย วิ่งออกมาจากพื้นที่ จนท.จึงไล่ติดตามและจับกุมได้ที่บริเวณป่าข้างทางหลวงหมายเลข 1168 บ้านน้ำตวง หมู่ 9 – บ้านน้ำพระทัย หมู่ 8 และศาลาริมทางบ้านน้ำว้า หมู่ 5 ต.น้ำพาง
เมื่อรถหยุดจึงขอตรวจค้นรถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อ อีซูซุ สีบรอนซ์ ทะเบียน บฉ 887 น่าน พบที่กระบะท้ายรถมีไม้ชิงชันแปรรูปมาเต็มคันรถ โดยใช้ผ้าฟางสีดำปกคลุมปิดบังอำพรางไว้ จากการตรวจสอบที่ไม้ชิงชันแปรรูป พบเป็นไม้ที่มีลักษณะใหม่สด ไม่มีร่องรอยว่าเคยผ่านสิ่งปลูกสร้างหรือเครื่องใช้อื่นใดมาก่อน และไม่มีรูปรอยดวงตาของเจ้าพนักงาน จนท.ของรัฐตีประทับตราไว้แต่อย่างไร จำนวน 18 แผ่น, เหลี่ยม ปริมาตร 0.89 ลบ.ม. คิดเป็นค่าเสียหายของรัฐเป็นเงิน 267,000 บาท และรถยนต์กระบะบรรทุกยี่ห้อ โตโยต้า สีน้ำเงิน ทะเบียน บต 5422 น่าน
จึงได้จับกุม 1.นายนเรศ มูลยะ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 บ้านกาใส ม.8 ต.สะเนียน อ.เมือง จ.น่าน 2.นายชัยวัฒน์ แซ่โซ้ง อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 208 บ้านน้ำตวง ม.9 ต.น้ำพาง อ.แม่จริม จ.น่าน 3.นายสมชาย แซ่โซ้ง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 บ้านน้ำตวง ม.9 ต.น้ำพาง อ.แม่จริม จ.น่าน ซึ่ง ผญบ. พร้อมโทรศัพท์ จำนวน 3 เครื่อง และธนบัตร ฉบับ 1,000 บาท จำนวน 100 ฉบับ รวมเป็นมูลค่า 100,000 บาท
จากการสอบสวน นายนเรศ มูลยะ ผู้ต้องหาในเบื้องต้น ทราบว่าตนได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากนางฝน ไม่ทราบนามสกุล คน อ.ทุ่งข้าง จ.น่าน ให้นำรถยนต์ของกลางมาขนไม้ขิงชัน จากนายสมชาย แซ่โซ้ง และนายชัยวัฒน์ แซ่โซ้ง ที่บริเวณป่าข้างทางก่อนถึงหมู่บ้านน้ำตวง หมู่ 9 ต.น้ำพาง ประมาณ 3 กม.ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา
ขณะที่กำลังสอบสวนและบันทึกการจับกุมอยู่นั้น นายสมชาย แซ่โซ้ง และนายชัยวัฒน์ แซ่โซ้ง ได้พยา ยามติดสินบน จนท.ชุดจับกุม เพื่อมิให้ดำเนินคดี จนท.จึงได้วางแผนและจับกุม นายสมชาย แซ่โซ้ง และนายชัยวัฒน์ แซ่โซ้ง ในการติดสินบนพนักงาน จนท.
สำหรับไม้ชิงขันแปรรูปดังกล่าว ไม่ทราบตัดและแปรรูปมาจากที่ใด เนื่องจากผู้ต้องหาให้การว่ามีการนำไม้มากองไว้และแจ้งให้ผู้ต้องหามาขนไม้จากจุดดังกล่าว จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องทั้งหมดพร้อมของกลางที่ทำการตรวจยึด ส่งต่อ รตอ.กฤษดิกร กันบุญ พงส.สภ.แม่จริม โดยกล่าวหา1) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 144 ฐานผู้ใดให้ ขอให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแก่ จนท.พนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เพื่อจูงใจให้กระทำการ ไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำอันมีชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 ฐาน ร่วมกันมีไม้ชิงชันแปรรูปไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาต มาตรา 70 ฐาน ผู้ใดรับไว้ด้วยประการใด ซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้หรือของป่าที่ตนรู้อยู่แล้วว่า เป็นไม้หรือของป่าที่มีผู้ได้มาโดยการกระทำผิดต่อบทแห่ง พ.ร.บ.นี้ มีความผิดฐานเป็นตัวการในการกระทำผิดนั้น และ มาตรา 73 ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐาน ร่วมกันทำไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาต และมาตรา 31 ตาม พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 16 (2) ฐานร่วมกันเก็บหา นำออกไป ทำด้วยประการใดๆให้เป็นอัน ตราย หรือทำให้เสื่อมสภาพ ซึ่งไม้ยาง น้ำมันยาง นำมันสน เพื่อเร่งติดตามหาตัวผู้ที่กระทำผิด เพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น