เที่ยวธรรมชาติที่บ้านแม่กำปอง

ชื่อเสียงของบ้านแม่กำปองเป็นที่รู้จักมักคุ้นในหมู่นักท่องเที่ยวธรรมชาติ ด้วยฐานะที่บ้านแม่กำปองเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติแวะเวียนเข้ามาสัมผัสไอดินกลิ่นธรรมชาติของชุมชนแห่งนี้มากที่สุด
บ้านแม่กำปอง เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขา ระหว่างรอยต่อของอำเภอแจ้ห่มจังหวัดลำปางกับกิ่งอำเภอแม่ออนจังหวัดเชียงใหม่ การเดินทางที่ยากลำบากในอดีตจึงทำให้หมู่บ้านนี้ตัดขาดจากโลกภายนอก ธรรมชาติ วิถีชีวิตและประเพณีวัฒนธรรมของคนในชุมชนจึงอบอวลหอมกรุ่นไม่เคยจางหาย ด้วยวิถีชีวิตอันเรียบง่าย ธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ อากาศที่บริสุทธิ์ ทำให้ไม่แปลกใจที่ชุมชนแห่งนี้จะเปิดประตูต้อนรับผู้มาเยือนจากต่างถิ่นไม่เคยขาดสาย และยิ่งภายหลังการปิดหมู่บ้านเป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างเต็มตัวเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2543 จึงทำให้จำนวนนัก

ท่องเที่ยวมาเยือนบ้านแม่กำปองเพิ่มมากขึ้น หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 5 – 6 ปีที่แล้ว เมื่อกลุ่มอาสาสมัครนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เข้ามาทำกิจกรรมกับชุมชนแล้วกลับออกไปพร้อมกับความประทับใจในบรรยากาศและน้ำใจของคนในชุมชน ครั้งนั้นนับเป็นครั้งแรกที่ชื่อเสียงของบ้านแม่กำปอง แพร่หลายออกไปในหมู่นักศึกษา มีนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เดินทางเข้ามาทำกิจกรรมที่หมู่บ้านแห่งนี้ ผนวกกับในเวลานั้นนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติพากันเข้ามาสัมผัสธรรมชาติของแม่กำปอง จึงทำให้บ้านแม่กำปองกลายเป็นจุดหมายปลายทางของนักเดินทางจากทั่วสารทิศ

บ้านแม่กำปอง ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,300 เมตร ทำให้ที่นี่มีบรรยากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีขุนดอยม่อนล้านเป็นต้นกำเนิดธารน้ำหลายสาย ได้แก่ น้ำตกแม่กำปอง น้ำตกแม่ลาย น้ำตกตาดเหมย น้ำตกแม่มอญ นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมที่อยู่ใกล้เคียงเป็นจำนวนมาก อาทิ ถ้ำเมืองออน น้ำพุร้อนสันกำแพง น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน หินมหัศจรรย์ ในอดีตว่ากันว่าบริเวณแห่งนี้เคยเป็นพื้นที่สีชมพู เป็นถิ่นหลบซ่อนของกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่เคลื่อนไหวประชาธิปไตยและร่วมเรียงเคียงไหล่กับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ต่อสู้กับรัฐบาลเผด็จการในการเรียกร้องระบอบประชาธิปไตย เมื่อปี พ.ศ.2519 ทว่าปัจจุบันบ้านแม่กำปองพลิกฟื้นจากอดีตอันโหดร้ายสู่หมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ดีเด่นของภาคเหนือ ซึ่งได้รับตราสัญลักษณ์มาตราฐานหมู่บ้านโฮมสเตย์ไทย ประจำปี 2547 เมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่ผ่านมาจากสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นายพรมมินทร์ พวงมาลา ผู้ใหญ่บ้านแม่กำปองบอกว่า จุดเด่นของบ้านแม่กำปองอยู่ที่สภาพธรรมชาติและวิถีชีวิตซึ่งได้รับการอนุรักษ์จากคนในชุมชน นอกจากนั้นยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย เช่นน้ำตกแม่กำปอง การทำสวนเมี่ยงซึ่งเป็นอาชีพดั้งเดิมของคนที่นี่ และยังสามารถพบดอกเอื้องดิน ซึ่งเป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่นมีที่บ้านแม่กำปองแห่งเดียว จนดอกไม้ชนิดนี้ได้รับสมญาว่าเป็นราชีนีแห่งดอกไม้ของบ้านแม่กำปอง ความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแม่กำปอง ยังคงเป็นจุดสนใจจากบรรดานักท่องเที่ยว เส้นทางทัวร์ป่าก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ดึงดูดให้คนเดินทางมาเที่ยวบ้านแม่กำปองเป็นจำนวนมาก เส้นทางทัวร์ป่าที่ได้รับความนิยมก็คือ เส้นทางเดินขึ้นสู่ยอดดอยม่อนล้าน จะพบกับพรรณไม้นานาชนิดนับร้อย เช่น นางพญาเสือโคร่ง หรือ ซากุระเมืองไทย ต้นสนสวนสมเด็จย่า พืชตระกูลกล้วยไม้ป่า พืชสมุนไพร รวมถึงพรรณไม้ในเขตหนาวชื้น นอกจากนั้นบนยอดดอยม่อนล้านยังมีจุดชมวิวที่สวยงามหลายจุด สามารถมองเห็นพื้นที่รอยต่อ 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน ยามรุ่งสางจะพบทะเลหมอก มีสถานที่กางเต็นท์พักแรม ในเวลากลางคืนบนยอดดอยม่อนล้านจะมองเห็นแสงไฟจากตัวเมืองเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน

ในหมู่บ้านแม่กำปองยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจคือ วัดคัณธาพฤกษา เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2473 มีอุโบสถโบราณตั้งอยู่กลางน้ำที่เหลือยู่เพียง 2 แห่ง คือที่วัดพุทธเอ้น อ.แม่แจ่มกับอุโบสถวัดคัณธาพฤกษาบ้านแม่กำปองเท่านั้น ชุมชนบ้านแม่กำปองเป็นหมู่บ้านที่ตั้งชื่อมาจากชื่อดอกไม้คือ ดอกกำปอง ผนวกกับบริเวณหมู่บ้านแห่งนี้มีแม่น้ำไหลผ่าน ชาวบ้านจึงตั้งชื่อหมู่บ้านแห่งนี้ว่า บ้านแม่กำปอง ผู้เฒ่าผู้แก่ของหมู่บ้านเล่าถึงประวัติการก่อตั้งบ้านแม่กำปองว่า ผู้ที่อพยพเข้ามาตั้งรกร้างที่บ้านแม่กำปองเป็นคนแรกคือ พ่ออุ้ยปา กิ้งแก้ว ซึ่งเป็นชาวบ้านดอกแดง อ.ดอยสะเก็ด ได้เข้ามาทำสวนป่าเมี่ยง จนปัจจุบันอาชีพหลักของชาวบ้านแม่กำปองคือการปลูกเมี่ยง หลังจากนั้นเริ่มมีชาวบ้านอพยพเข้ามาตั้งบ้านเรือนอยู่บ้านแม่กำปองเพิ่มมากขึ้นจนจัดตั้งเป็นหมู่บ้านในเวลาต่อมา
ปัจจุบันบ้านแม่กำปอง เปิดเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงนิเวศ นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวได้ทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับ หรือจะพักค้างแรมในหมู่บ้าน (Home Stay) โปรแกรม 2 วัน 1 คืน อาหาร 3 มื้อ ราคา 550 บาทต่อคน โปรแกรม 3 วัน 2 คืน อาหาร 6 มื้อ ราคา 900 บาทต่อคน ส่วนราคาบ้านพักให้เช่นเป็นหมู่คณะ ราคาตั้งแต่ 100 – 1,200 บาท สำหรับโปรแกรมท่องเที่ยวดังกล่าวมีกิจกรรมเดินป่าสำรวจธรรมชาติ ชมสวนสมุนไพร พิธีบายศรีสู่ขวัญ การแสดงทางวัฒนธรรมและกิจกรรมปลูกป่า

นักท่องเที่ยวสนใจท่องเที่ยวบ้านแม่กำปอง สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สหกรณ์ไฟฟ้าโครงการหลวงแม่คำปอง 0-5322-9526 บ้านผู้ใหญ่บ้าน สหกรณ์และโรงเรียนวัดแม่กำปอง 089-559-4797

บทความโดย
จักรพงษ์ คำบุญเรือง

ร่วมแสดงความคิดเห็น