ดอยนี้มีตำนาน “ม่อนอังเกตุ” วิวสวย 360 องศาฯ ใกล้ตัวเมืองเชียงใหม่

“ดอยม่อนอังเกตุ” อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ ไปเที่ยวกันเลย ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจาก นายบุญฤทธิ์ รังษี ประธานชมรมคนรักษ์ป่าเชียงใหม่ 4×4 แนนนำสถานที่ท่องเที่ยว ดอยม่อนอังเกตุ สถานที่แห่งนี้ มีความสูง 1,840 เมตร จากระดับน้ำทะเล วิวสวยๆบนยอดดอย สามารถชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น และพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงาม สามารถมองวิวสวยงามได้รอบยอดดอย ชมวิวได้ 360 องศาฯ ซึ่งอยู่บนจุดสูงสุดของยอดดอยม่อนอังเกตุ

บนยอดดอย ม่อนอังเกตุ สามารถมองเห็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าลีซอ และเผ่ากะเหรี่ยง ผืนป่าฝั่ง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน อ.แม่แจ่ม อ.แม่แตง ห้วยจ้อ ห้วยน้ำดัง ดอยหลวงเชียงดาว และดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ที่สำคัญที่ม่อนอังเกตุ จะมีทะเลหมอกให้ชมตลอดในช่วงฤดูหนาว ท่ามกลางทิวสนในฤดูหนาวยามเช้า

ก่อนถึงยอดดอย ยังมีพื้นที่ป่าสนให้นอนกางเต็นท์ ชมดาวบนดินในช่วงกลางคืน และมีห้องน้ำบริการให้นักท่องเที่ยวด้วย แนะนำนักท่องเที่ยวหากขึ้นไปกางเต็นท์ ขอให้นำผ้าใบไปทำหลังคาในการทำกิจกรรมต่างๆด้วย เพราะยอดดอยแห่งนี้ เมื่อเกิดเมฆลอยมา จะมีเม็ดฝนตกลงมาเป็นช่วงๆ จุดกางเต็นท์ ใกล้บริเวณหน่วยจัดการต้นน้ำ (ดงสน) อยู่ห่างจากยอดดอยม่อนอังเกตุ ประมาณ 2 กม. ซึ่งลานกางเต็นท์แห่งนี้ มีความงดงาม ร่มรื่นของป่าสนอายุหลายสิบปี นักท่องเที่ยวทุกท่านสามารถหาจุดกางเต็นท์ได้ตามชอบ

สำหรับดอยม่อนอังเกตุ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสะเมิง พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสะเมิง อยู่ในท้องที่ ต.ยั้งเมิน ต.แม่สาบ และ ต.สะเมิงเหนือ อ.สะเมิง จุดชมวิวดอยม่อนเกตุถือว่ามีความสวยงามมากอีกแห่งหนึ่งของ จ.เชียงใหม่ จากเรื่องเล่าสืบต่อกันมา ประวัติดอยม่อนอังเกตุ คือ มีแม่นางท่านหนึ่ง นามว่า “อังเกตุ” เป็นหญิงชั้นสูงในวัง มีพระบิดาเป็น “พ่อพญา” ที่มีนิสัยชอบทำลายต่อหลวง หรือ “พญาต่อ” จึงเป็นศัตรูกันมาตลอด ต่อหลวงพอรู้ว่าพ่อพญารักแม่นางอังเกตุ ลูกสาวคนนี้มาก จึงคิดอุบายคาบแม่นางออกจากวัง นำมาทิ้งไว้ที่ม่อนแห่งนี้

พ่อพญาออกตามหาจนเจอ หมายจะรับลูกสาวกลับเวียงวัง แต่แม่นางไม่ยอมกลับ นางอังเกตุบอกว่า จะขออยู่ใช้กรรมให้หมดสิ้นบนนี้ พ่อพญาจึงจัดส่งช้าง เสือ แม่นม และองครักษ์คู่ใจมาดูแล สุดท้ายแม่นางกำชับว่าหากสิ้นบุญแล้ว ก็ให้ฝังร่างของนางไว้ที่นี่ เมื่อถึงคราวสิ้นบุญ ร่างของแม่นางจึงถูกฝังไว้บนม่อนแห่งนี้ตามปรารถนา ชาวบ้านท้องถิ่นจึงได้นำชื่อของแม่นางอังเกตุ มาตั้งเป็นชื่อม่อน นามว่า “ม่อนอังเกตุ” พร้อมกันนั้น ก็ได้สร้างศาลเจ้าแม่อังเกตุ ไว้ เพื่อเป็นที่เคารพสักการะของชาวบ้านตราบจนกระทั่งปัจจุบัน และหากท่านใดมาขอพรที่ศาลมักสัมฤทธิ์ผล

การเดินทางไปยอดดอยม่อนอังเกตุ ออกจากตัวเมืองเชียงใหม่ ไปตามถนนหลวงหมายเลข 107 (เชียงใหม่-ฝาง) ประมาณ 37 กม. ถึงตลาดแม่มาลัยให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1095 ประมาณ 30 กม. จะมีป้ายบอกทางไปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าปางขุม จากนั้นจะเป็นเส้นทางเข้าหมู่บ้าน มีถนนที่พัฒนากว้างขึ้นแล้ว แต่บางช่วงก็ยังมีถนนลูกรัง บางช่วงลาดชันไปจนถึงดอยม่อนอังเกตุ รวมระยะทางประมาณ 15 กม.

ในช่วงการเดินทาง สองข้างทาง จะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ในการประกอบอาชีพทางการเกษตร หลังจากฤดูทำนา เก็บเกี่ยวข้าวแล้ว ก็จะมีการปลูกหอมกระเทียมและพืชผักอื่นๆ และที่ขึ้นชื่อคือ สวนสตรอเบอรี่ ชาวบ้านที่นี้จะปลูกจำนวนมาก ส่งขายทั่วประเทศอีกด้วย วันว่างๆหาโอกาศเดินทางไปเที่ยวกัน “ดอยม่อนอังเกตุ วิวสวย 360 องศาฯ”

ร่วมแสดงความคิดเห็น