“เสาวรส” หรือที่ภาคเหนือเรียกว่า “บะคกรก” เป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่มีกลิ่นเฉพาะตัว และก็มีหลายคนที่ไม่ชอบเสาวรสเพราะกลิ่นเหมือนกัน แต่เพราะคุณประโยชน์ที่หลากหลาย เสาวรสจึงถูกนำไปเป็นส่วนผสมในหลายๆ เมนู ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่ม อาหาร และขนมหวาน
วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะเล่าเรื่อง ประโยชน์ของเสาวรส ให้ฟัง
เสาวรส คืออะไร
เสาวรส (Passionfruit) มีต้นกำเนิดมาจากแถบทวีปอเมริกาใต้ ผลมีลักษณะกลม ผิวเรียบ เปลือกหนา ผลสุกมีสีม่วง สีส้ม หรือสีเหลืองตามสายพันธุ์ ให้รสชาติเปรี้ยวอมหวาน หรือเปรี้ยวจัด และมีกลิ่นเฉพาะตัว จนทำให้ใครหลายคนไม่อยากลิ้มลอง
ประโยชน์จากเสาวรส
1.เสาวรสช่วยบำรุงสายตา
เป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยวิตามินเอ และเบต้าแคโรทีน ซึ่งถือว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง และยังป้องกันเซลล์ประสาทตาจากการถูกทำลาย
2.เสาวรสช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย
เสาวรสเต็มไปด้วยไฟเบอร์ เหมาะสำหรับการดีท็อกซ์ร่างกาย ช่วยขจัดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดี และยังช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้ด้วย
3.เสาวรสช่วยป้องกันหวัด และอาการภูมิแพ้
เสาวรสมีวิตามินซีสูงถึง 30 กรัม ทำให้ร่างกายได้รับปริมาณวิตามินซีอย่างเพียงพอ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ร่างกายแข็งแรง
4.เสาวรสช่วยบำรุงหัวใจ
เสาวรสมีธาตุโพแทสเซียมสูงถึง 384 มิลลิกรัม เมื่อร่างกายได้รับโพแทสเซียมในปริมาณที่พอ จะทำให้การทำงานของหัวใจและความดันเป็นไปอย่างปกติ
5.เสาวรสช่วยป้องกันกระดูกพรุน
ในเสาวรสมีแคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง และยังช่วยป้องกันโรคเหงือกอักเสบ ทำให้ฟันแข็งแรงอีกด้วย
6.เสาวรสช่วยทำให้นอนหลับง่าย
น้ำเสาวรสช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกาย ทำให้นอนหลับง่ายขึ้น
7.เสาวรสช่วยลดน้ำหนัก
เสาวรสมีแคลอรี่ต่ำ ให้สารอาหารที่ดีต่อร่างกาย มีกากใยสูง ช่วยลดความอยากอาหาร ลดการสร้างไขมันใหม่ และช่วยสลายไขมันเก่าได้เป็นอย่างดี
4 โทษร้ายจากเสาวรส
1.เสาวรสไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ เพราะในเสาวรสมีสารเคมีบางตัวที่ทำให้มดลูกหดตัวได้
2.สำหรับคนที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ควรงดทานเสาวรส 2 สัปดาห์ก่อนทำการผ่าตัด เพราะเสาวรสอาจไประงับฤทธิ์ยาสลบ หรือยาตัวอื่นๆ ต่อสมองในช่วงที่กำลังผ่าตัด และหลังผ่าตัดได้
3.เสาวรสเป็นเป็นผลไม้รสเปรี้ยวที่มีน้ำตาลสูง เมื่อทานเสาวรสไม่ควรเติมน้ำตาลมาก เพราะจะทำให้ปริมาณน้ำตาลในร่างกายสูงขึ้น
4.บางคนทานเสาวรส อาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ทำให้รู้สึกสับสน วิงเวียนศีรษะ กล้ามเนื้อทำงานผิดปกติ ระดับของความรู้สึกเปลี่ยนแปลง ง่วงซึม คลื่นไส้ อาเจียน หัวเต้นเร็วและผิดปกติได้
สรุป
เสาวรส เป็นผลไม้ที่ให้คุณประโยชน์มากมาย แต่สำหรับคนที่จะเข้ารับการผ่าตัดวครงดทานเสาวรสก่อน 1-2 สัปดาห์ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการดื้อยาที่อาจเกิดขึ้นในตอนผ่าตัด อย่างไรก็ตามเราควรทานเสาวรสสลับกับการบริโภคผัก ผลไม้ และอาหารเพื่อสุขภาพอื่นๆ เพื่อให้ได้ประโยชน์ที่หลากหลายยิ่งขึ้น
เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”
ขอบคุณข้อมูลจาก honestdocs
บทความที่เกี่ยวข้อง
• กลืนเมล็ดผลไม้ อันตรายมากกว่าที่คิด
• ไขมันทรานส์ ความเสี่ยงที่มากับอาหาร
• น้ำเปล่า ดื่มน้อย เสี่ยงติดเชื้อในท่อปัสสาวะ
• หนักเค็ม! ทำให้ไตพัง เสี่ยงเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
• โซเดียมสูง! เสี่ยงโรค ปรับวิถีการกินเลี่ยงเกิดโรค
• ควรรู้ เคี้ยวช้า ส่งผลดีต่อร่างกายมากกว่าที่คิด
• เบาหวานเป็นโรคของคนอ้วนจริงหรือ?
• มะเร็งตับ…โรคร้ายที่ไม่มีสัญญาณเตือน!!!
ร่วมแสดงความคิดเห็น