ครูบาอริยชาติ เผยสวมมงกุฏเป็นประเพณีท้องถิ่นเพื่อนบ้านทำมานับพันปีคนร่วมบริจาคทองสร้างให้

วันที่ 24 ก.พ.62 จากกรณีปรากฎภาพพระภาวนารัตนญาณ (ครูบาอริยชาติ อริยจิตโต) เจ้าอาวาสวัดแสงแก้วโพธิญาณ ต.เจดีย์หลวง อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เข้ารับการประกอบพิธียกยอราชครูแห่งเมืองยอง รัฐฉาน ประเทศเมียนมา โดยมีการสวมมงกุฎที่ทำจากทองคำแท้หนัก 32 บาท แผ่นทองคำบริเวณบ่าซ้ายหรือสังฆาฏิหนัก 10 บาท และสุพรรณบัตร 5 บาท รวมทองคำหนัก 47 บาท และปรากฏในโซเชียลมีเดีย และทางพระรัตนมุนี (ปุณณมี วิสารโท) รักษาการเจ้าคณะ จ.เชียงราย ได้มีคำสั่งให้เจ้าคณะอำเภอแม่สรวย ตั้งคณะทำงานดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงและมีหนังสือชี้แจงโดยให้รายงานผลต่อเจ้าคณะจังหวัดภายในวันจันทร์ที่ 25 ก.พ.นี้ ล่าสุดทางคณะสงฆ์ จ.เชียงราย นำโดยพระรัตนมุณียังคงไม่เปิดเผยเรื่องดังกล่าวใดๆ ต่อสาธารณะโดยให้ทางคณะกรรมการและการชี้แจงไปตามขั้นตอน

โดยแหล่งข่าวพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ใน จ.เชียงราย กล่าวว่าสำหรับพิธีดังกล่าวภาพและข้อความที่ปรากฏในโชลเชียลมีเดียมีตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา ซึ่งพิธีกรรมดังกล่าวก็เป็นประเพณีปฏิบัติที่ในฝั่งของประเทศเพื่อนเมียนมา ในเขตรัฐฉานมานานแล้วแต่ที่ผ่านมาไม่มีพระสงฆ์จากฝั่งไทยเข้าไปร่วมจึงเป็นประเด็นขึ้นมา อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ไม่น่าจะมีปัญหาบานปลายและจะยุติโดยเร็วหลังได้รับการชี้แจงแล้ว

ด้านบรรยากาศที่วัดแสงแก้วโพธิญานพบว่าบรรดาศรัทธา ญาติโยม และนักท่องเที่ยวเดินทางไปกราบสักการะและนมัสการครูบาอริยชาติอย่างเนืองแน่นเช่นเดิม ขณะที่มงกุฏและวัตถุอื่นๆ ที่ได้เกี่ยวข้องได้ถูกนำไปเก็บไว้ที่กุฏิของครูบาภายในวัด โดยทางครูบาอริยชาติได้ออกมารับญาติโยมที่มีความเป็นห่วงและมีทั้งผู้เดินทางไปสอบถามเรื่องราวหรือแม้แต่พระผู้ใหญ่จากเมืองยองหรือในประเทศไทยโทรศัพท์ไปสอบถามกันอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ครูบาอริยชาติพึ่งออกจากการปฏิบัติธรรมเข้าอธิฐานจิตเข้ากรรมฐานในป่านาน 3 วันทำให้พึ่งทราบเรื่องราวดังกล่าว

ครูบาอริยชาติ กล่าวว่า พิธีดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมาเนื่องในวันมาฆบูชา และทางวัดพระธาตุเมืองยองได้จัดขึ้นโดยมีเมืองใหญ่จาก 8 เมืองเข้าร่วม เช่น เมืองไฮ เมืองท่าขี้เหล็ก เมืองเชียงรุ่ง เขตสิบสองปันนา ประเทศจีน เป็นต้น โดยมีพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมหลายหมื่นคน พิธีมีพระสังฆราชาและพระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่รวมทั้งผู้บริหารและพุทธศาสนิกชนที่เมืองยองร่วมกันจัดขึ้น และได้เชิญครูบาไปรับมอบสมณะศักดิ์ชั้นราชครู โดยมีการจัดพิธีเป็นพิเศษ ที่ วัดพระธาตุเมืองยอง และมีการจัดหอเดื่อ การสรงน้ำ จากนั้นมีการมอบมงกุฎ สังฆาฏิและสุรรรณบัตรชั้นราชครู ให้ซึ่งตามประเพณีดังกล่าวก็จะมีการให้สวมมงกุฎด้วยโดยทองคำทั้งหมดได้จากการร่วมกันบริจาคของพุทธศาสนิกชนที่มีศรัทธา แม้แต่พระสังฆราชาก็ร่วมบริจาคด้วยทองคำหนัก 15 บาท หลังจากนั้นก็ไม่ได้มอบให้เพื่อนำไปสวมใส่หรืออย่างไรแต่ให้นำไปต่อบุญและถือเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมานับพันปีแล้ว ในอดีตฝั่งภาคเหนือของไทยก็เคยมีแต่ก็ได้เลือนหายไปตามกาลเวลาเท่านั้น ดังนั้นเรื่องนี้จึงเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีและถือเป็นเกียรติของพระภิกษุฝั่งไทยเสียอีกที่ได้รับสมณะศักดิ์ดังกล่าวจากต่างประเทศและหากว่าไม่ศรัทธาเขาก็คงจะไม่มอบให้แน่นอน

ครูบาอริยชาติ กล่าวอีกว่านอกจากนี้ตามปกติสมณะศักดิ์ชั้นราชครูดังกล่าวจะมอบให้พระภิกษุที่มีพรรษาตั้งแต่ 40 พรรษา ขึ้นไปหรือมีอายุอย่างน้อย 60 ปี แต่ครั้งนี้ทางคณะสงฆ์เมืองยองกลับให้เกียรติสูงสุดมอบให้กับครูบา ที่มีอายุพรรษาได้ 18 พรรษา ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน เพราะตามปกติผู้จะได้รับสมณะศักดิ์ชั้นต่างๆ 7 ขั้นคือพระภิกษุที่พึ่งบวช ภิกษุที่บวชได้ 10 พรรษาเรียกว่าสาธุ ภิกษุที่บวชได้ 20 พรรษาเรียกว่าสาธิ ภิกษุที่บวชได้ 30 ปีเรียกว่าครูบา ภิกษุบวชได้ 40 พรรษาเรียกว่าชั้นราชครู ภิกษุที่บวชได้ 50 พรรษาก็จะเป็นชั้นสังฆราชา และชั้นสูงสุดซึ่งหาได้ยากคือชั้น 70 พรรษาขึ้นไปซึ่งมีอายุ 90 ปี้นไป สำหรับตนนั้นกลับได้รับสมณะศักดิ์ที่เมืองยองให้เป็นขึ้นราชครูซึ่งต่ำกว่าเพียงชั้นสังฆราชาเพียงขั้นเดียว ซึ่งถือว่าได้รับเกียรติอย่างมาก เมื่อได้รับเกียรติดังกล่าวก็จะนำสิ่งที่ได้มาต่อยอดทำบุญเพราะไม่ได้มุ่งหวังสิ่งใดอยู่แล้วแต่บรรดาลูกศิษย์และญาติโยมให้เก็บรักษาเอาไว้เป็นเกียรติประวัติจึงได้เก็บไว้ดังกล่าว

“ฝั่งเมียนมาในพื้นที่รัฐฉานนั้น เป็นชาวไทลื้อ ไทเขิน ไทยอง ที่เป็นพี่น้องกันและใช้ภาษาคล้ายกันสามารถสื่อสารด้วยภาษาไทยได้ รวมทั้งนับถือพระพุทธศาสนาเหมือนกันแล้วเขาก็มีประเพณีเช่นนี้มานับพันปี แม้แต่พระสงฆ์ฝั่งไทยก็เคยเข้ารับสมณะศักดิ์ มาแล้วหลายท่านแต่จะได้รับถึงชั้นสูงสุดแค่ชั้นครูบาเท่านั้นยังไม่มีผู้ได้สูงถึงระดับราชครู ดังนั้นจึงเห็นว่าเป็นเรื่องที่ดีมากกว่าและสาเหตุที่ตนได้รับเลือกเนื่องจากเคยไปทำบุญที่เมืองท่าขี้เหล็กติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และได้รับชักชวนให้ไปเมืองยองซึ่งกำลังจะเปลี่ยนยอดฉัตรจากเงินให้เป็นทองคำพอดีทำให้ได้ร่วมทำบุญและได้รับเชิญให้ไปรับสมณะศักดิ์ดังกล่าว ซึ่งในวันประกอบพิธีก็มีผู้ถวายปัจจัยเป็นเงินบาทกว่า 300,000 กว่าบาท และเงินจั๊ตของเมียนมากว่า 10 ล้านจั๊ตซึ่งก็ถวายทำบุญที่วัดพระธาตุเมืองยองทั้งหมดแล้ว” ครูบาอริยะชาติกล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น