น้ำอบไทย ภูมิปัญญาไทยคล้ายร้อน ต้อนรับวันสงกรานต์

ย่างเข้าเดือนเมษายน เดือนที่เป็นวันขึ้นปีใหม่ของไทย ในช่วงวันที่ 13, 14, 15 เมษายาน ของทุกปี หรือวันสงกรานต์นั่นเอง นอกจากจะไปสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่  แล้วยังมีการสาดน้ำกันในพื้นที่ต่าง ๆ สิ่งที่เป็นไอเทมรองจาก “ดินสอพอง” ในวันสงกรานต์ คือ “น้ำอบไทย” ที่ใช้ในการผสมกับน้ำเพื่อนำไปสรงน้ำพระ หรือรดน้ำดำหัว เพื่อเพิ่มความหอม

วันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” จะมาเล่าถึงคุณประโยชน์ของน้ำอบไทยที่ในปัจจุบันหาได้ยาก

น้ำอบไทยคืออะไร ?

“น้ำอบไทย” เป็นภูมิปัญญาไทยในสมัยโบราณที่นำมาใช้ดับคลายความร้อนได้อย่างเหมาะสมเข้ากับวิถีชีวิตไทย เพื่อเพิ่มความเย็นสดชื่นให้กับร่างกาย โดยที่ช่างคิดค้นนำรากไม้และกลิ่นหอมของดอกไม้นานาชนิด อบด้วยควันกำยาน หรือเทียนอบ ทำจากผิวมะกรูด กำยาน น้ำตาลแดง ขี้ผึ้ง และจันทน์เทศ และน้ำมาปรุงด้วยเครื่องหอม ผสมผสานกันจนกระทั่งมีกลิ่นหอมละมุนละไม มีลักษณะเป็น น้ำใสสีเหลืองอ่อน ๆ ซึ่งมีความแตกต่างจากน้ำหอม หรือน้ำอบฝรั่ง ทั้งลักษณะของกลิ่นและขบวนการผลิต

น้ำอบของไทยสามารถนำมาใช้ได้หลายโอกาส ไม่ว่าจะเป็นงานมงคล รดน้ำดำหัวขอพรผู้ใหญ่ช่วงวันสงกรานต์ สรงน้ำพระ งานมงคลสมรส กระทั่งถึงงานอวมงคลในงานศพซึ่งจะรดน้ำศพด้วยน้ำอบไทย การใช้น้ำอบไทยนับแต่วันวานถึงปัจจุบันยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แต่ปัจจุบันรูปแบบการใช้จะเห็นชัดเจนในงานประเพณี ไม่ได้นำมาใช้กับร่างกายเหมือนในวันวานซึ่งนิยมใช้น้ำอบประพรมตามร่างกายเพื่อเพิ่มความสดชื่นดับคลายร้อน

คุณประโยชน์ของน้ำอบไทย

ด้วยความที่น้ำอบไทยเป็นสูตรน้ำ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ทำจากธรรมชาติทั้งหมดก็จะไม่สร้างความระคายเคืองให้กับผิว นอกจากนี้ในงานวิจัยที่ศึกษายังพบว่า น้ำอบไทยซึ่งมีส่วนผสมของสมุนไพรยังช่วยดับพิษร้อน บรรเทาอาการแสบคันตามร่างกายหรือผดผื่นคันในช่วงฤดูร้อน โดยน้ำอบไทยสามารถนำมาใช้ได้ทุกวัน

ยังมีคุณสมบัติเฉพาะตัว เพราะประกอบด้วยน้ำมันหอมระเหย ตัวยาสำคัญต่าง ๆ มากมาย เช่น

  • กลิ่นหอมของดอกไม้ เช่น มะลิ ใบเตยหอม กุหลาบ  ช่วยบำรุงหัวใจ แก้อาการวิงเวียน คลื่นไส้อาเจียน ช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น
  • สมุนไพร ชะลูด กำยาน จันทน์เทศ กระเเจะหรือทานาคา มีสารสำคัญช่วยต้านการอักเสบ มีสารแอนติอออซิเเดนท์ ปกป้องผิว ช่วยลดอาการผื่นคัน และแพ้ได้

น้ำอบไทยกับวันสงกรานต์            

ส่วนใหญ่แล้วในวันสงกรานต์ คนเมืองเรามักจะนำน้ำอบผสมกับขมิ้นส้มป่อย เพื่อนำไปสรงน้ำพระ หรือแม้แต่รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ ด้วยความเชื่อที่ว่า จะเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต อีกทั้งส้มป่อยเป็นของขลังที่จะช่วยป้องกันตนจากสิ่งเลวร้าย

สรุป

ปัจจุบันความนิยมของคนรุ่นใหม่ต่อน้ำอบไทยในลักษณะของเครื่องประทินผิวหรือเครื่องสำอางลดน้อยลงมาก แต่น้ำอบไทยก็ยังเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นสำหรับสังคมไทย เพราะจะนำไปใช้ในพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น งานมงคลสมรส งานสงกรานต์ งานขึ้นปีใหม่ สรงน้ำพระ การรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ และใช้ในงานศพ เป็นต้น ซึ่งการใช้น้ำอบไทยในงานประเพณีต่าง ๆ เป็นเครื่องแสดงถึงการสืบทอดวัฒนธรรมและเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของสังคมไทย

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”

ร่วมแสดงความคิดเห็น