187

ชาวเชียงใหม่ร่วมลงทุน ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ 

ชาวเชียงใหม่ร่วมลงทุน ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ธุรกิจแกร่ง มั่นใจได้รับการตอบรับดีจากนักลงทุน ผู้สื่อข่าวรายงาน เมื่อวันที่ 15 ต.ค.68 ที่ห้องจัดเลี้ยงโรงแรมเชียงใหม่แกรนด์วิว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นักลงทุนชาวเชียงใหม่ รวมงานเลี้ยง จากการลงทุนซื้อหุ่น SMO จับมือ APM และ FSS ปูพรมโรดโชว์ 11 จังหวัด ประเดิม จ.ชลบุรีมั่นใจพื้นฐานธุรกิจแกร่ง นักลงทุนตอบรับดี “กลุ่มสมอทอง” ปักหมุดโรดโชว์ 11 จังหวัด ประเดิมที่ชลบุรี ราชบุรี นครปฐม พิษณุโลก นครสวรรค์ นครราชสีมา ขอนแก่น เชียงใหม่ สงขลา(หาดใหญ่) สุราษฎร์ธานี และปิดท้ายที่กรุงเทพฯ เสนอขาย IPO 231.60 ล้านหุ้น โชว์พื้นฐานธุรกิจแกร่ง มั่นใจได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ดร.สมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ […]

ทิศทางราคาข้าวตลาดโลก ปี 2023 – 2024 มีความเสี่ยงพุ่งสูง?

ราคาข้าวในตลาดโลกยังมีความเสี่ยงพุ่งสูง? อินเดียสั่งงดส่งออกข้าวเพื่อที่จะรักษาเสถียรภาพราคาข้าวให้กับคนในประเทศ แต่ก็ทำให้ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงทำสถิติในรอบ 10 ปี ถ้ามองในแง่ดีบรรดากลุ่มผู้ส่งออกข้าว ซึ่งรวมถึงไทยด้วยน่าจะได้อานิสงส์ แต่ราคาที่พุ่งขึ้นคือภาระของคนในประเทศ และนักวิเคราะห์หลายคนออกมาแสดงความกังวลถึงสถานการณ์ที่จะส่งผลต่อเงินเฟ้อทั่วโลกที่อาจจะพุ่งสูงขึ้นตามอีกระลอกเป็นไปได้ ปัจจุบันราคาข้าวในตลาดโลกผันผวนพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากอินเดียประกาศระงับการส่งออกข้าวเมื่อปลายเดือนที่แล้ว เพียง 3 วัน หลังจากข้อตกลงส่งออกธัญพืชรัสเซียล่ม รัฐบาลอินเดียก็เริ่มบังคับใช้คำสั่งห้ามส่งออกข้าว เพื่อรับมือกับปัญหาในประเทศ ทั้งราคาอาหารที่พุ่งสูง อัตราเงินเฟ้อถีบตัวสูงขึ้นและความกังวลถึงผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนินโญ ที่อาจจะทำให้ผลผลิตทางการเกษตรลดลงในช่วงที่ตรงกับการเลือกตั้งพอดี  แต่การแก้ปัญหาในครั้งนี้ของอินเดียกลับยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางอาหารของโลกให้ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก โดยราคาข้าวในตลาดโลกทะยานขึ้นสูงสุดในรอบมากกว่า 10 ปี ท่ามกลางความกังวลว่าข้าวในฐานะอาหารหลักของคนมากกว่าครึ่งโลกจะกลายเป็นโดมิโน่ตัวแรกที่ล้มก่อนที่ราคาอาหารประเภทอื่นๆ จะพุ่งสูงตามไปด้วยซึ่งแน่นอนว่าย่อมส่งผลไปถึงราคาพลังงานและค่าครองชีพในที่สุด  นับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมาอินเดียในกระโดดแซงหน้าไทยและก้าวขึ้นเป็นประเทศผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่ที่สุดของโลก ข้อมูลจากองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือ เอฟเอโอ(FAO) ชี้ว่า เมื่อปีที่แล้วอินเดียครองส่วนแบ่งการส่งออกข้าวมากถึง 40% ของทั้งโลกทิ้งห่างไทยที่เป็นอันดับ 2 เกือบ 3 เท่า ตามมาด้วย เวียดนามปากีสถาน และ สหรัฐฯ ข้าวจากอินเดียถูกส่งไปขายยัง 140 ประเทศทั่วโลก ดังนั้นประเทศที่พึ่งพิงการนำเข้าข้าวอินเดีย อย่าง บังกลาเทศ เนปาล เบนินโตโกและมาลี ต้องรับแรงกระแทกจากนโยบายข้าวของอินเดียไปแบบเต็มๆแต่อาจจะมีทางออกอยู่บ้าง เพราะว่ารัฐบาลอินเดียยังเปิดโอกาสให้ชาติอื่นๆ สามารถเข้าไปขอเจรจาซื้อข้าวแบบจีทูจี(G2G) หรือว่ารัฐต่อรัฐได้ซึ่งหลายประเทศเริ่มมีติดต่อเข้าไปแล้ว แต่อินเดียไม่ใช่ผู้ส่งออกข้าวเจ้าเดียวที่ทำให้ตลาดโลกกังวล นั้นเพราะตอนนี้เมียนมากลายเป็นประเทศล่าสุดที่ออกมาประกาศระงับการส่งออกข้าวนาน 45 วัน เพื่อควบคุมราคาในประเทศ โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้สิ้นเดือนนี้และแม้ว่าเมียนมาจะไม่ติด 5 อันดับแรกของประเทศผู้ส่งออกข้าวมากที่สุดในโลกในปัจจุบัน แต่หลายคนกังวลเขาว่าประเทศอื่นๆ อาจจะเคลื่อนไหวตามเมียนมา เพื่อชะลอผลกระทบในประเทศและเตรียมตัวรับมือกับผลกระทบจากปรากฏการณ์เอลนีโญที่วนกลับมาเกิดอีกครั้งในรอบ 7 ปีก็เป็นไปได้ สถานการณ์นี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อปี 2008 ตอนนั้น เวียดนาม เริ่มจำกัดการส่งออกข้าวตามมาด้วยอินเดีย กัมพูชา และอีกหลายประเทศ จนกลายเป็นวิกฤตข้าวโลกและทำให้ราคาข้าวพุ่งทะลุ 3 เท่าในเวลาเพียงไม่กี่เดือน แต่สถานการณ์ในตอนนี้อาจย่ำแย่และต่างออกไป เพราะว่าวิกฤติโลกร้อนและสงครามรัสเซียยูเครน  เอฟเอโอ รวบรวมข้อมูลราคาส่งออกข้าวรายเดือนในหลายประเทศมาจัดทำเป็นดัชนีราคาข้าวในตลาดโลก พบว่านับตั้งแต่ สองยักษ์ใหญ่ผู้ส่งออกธัญพืชอย่างรัสเซียและยูเครนเปิดฉากทำสงครามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ราคาข้าวในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามความต้องการข้าวที่เพิ่มสูงขึ้นเพื่อทดแทนธัญพืชที่มีลดลงในตลาดโลก สถานการณ์ในปีนี้กระโดดขึ้นไปเลวร้ายกว่าเก่า โดยเฉพาะหลังจากอินเดียระงับส่งออกข้าวราคาข้าวพุ่งสูงขึ้นประมาณ 20% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วหรือสูงที่สุดในรอบ 12 ปี และดูจากแนวโน้มในปัจจุบันนักวิเคราะห์บางส่วนบอกว่าสถานการณ์นี้อาจจะยังไม่ดีขึ้นในเร็วๆ นี้ แต่อย่าพึ่งวิตกกังวลมากเกินไป เพราะว่าเกษตรกรและพ่อค้าในเวียดนามเองก็เล็งเห็นถึงโอกาสจากราคาส่งออกข้าวของประเทศที่ปรับตัวกระโดดขึ้นสูงถึง 35% ถือว่าสูงที่สุดในรอบ 15 ปี ก็เลยหันมาเร่งปลูกข้าวเพื่อป้อนความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดโลก แต่ในไทยยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนเรื่องข้าวที่ราคาภายในประเทศนั้นตกต่ำลงจนเหลือไม่ถึง 10 บาท ขณะที่กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ ประเมินว่าในปีหน้าประเทศผู้ส่งออกข้าวรายอื่นๆ เช่น บราซิล ปากีสถาน และเวียดนาม น่าจะเพิ่มการส่งออกทดแทนส่วนต่างของข้าวอินเดียที่หายไป ส่วนปลายปีนี้ไปจนถึงปีหน้ามีการคาดการณ์ว่าผลผลิตข้าวของทั้งโลกน่าจะเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยโดยเฉพาะในรัสเซีย ยูกันดา และสหรัฐอเมริกา ธนาคารโลกคาดการณ์ว่า ภาพรวมราคาอาหารในปีนี้จะต่ำกว่าปีที่แล้วแม้ว่าจะเจอคำสั่งห้ามส่งออกข้าวของอินเดียก็ตาม เพราะว่าผลผลิตข้าวรวมไปถึงธัญพืชอื่นๆ น่าจะเพิ่มขึ้นหลังจากนี้ เพราะสภาพอากาศไม่เลวร้ายมากอย่างที่คิด   ท้ายที่สุดแล้วฟ้าฝนเกิดไม่เป็นใจขึ้นมาหรือว่าปรากฏการณ์เอลนีโญเองก็มีผลกระทบที่ร้ายแรงมากขึ้นก็ต้องมาประเมินสถานการณ์กันใหม่ เรียบเรียงโดย : บ่าวหัวเสือ อ่านข่าวเพิ่มเติม : ชาวนาเจียงใหม่น้ำตาตกขายข้าวนึ่งได้กิโล 9 บาท…

ชาวนาเจียงใหม่น้ำตาตกขายข้าวนึ่งได้กิโล 9 บาท…

ชาวนาหลายอำเภอในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ยื่นเรื่องเจรจากับนายวีรพงษ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากราคาข้าวเหนียวสันป่าตองส่งขายได้แค่กิโลกรัมละ 9 บาท จากเดิมกิโลกรัมละ 14 บาท ด้านอธิบดีกรมการค้าภายในบอกว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและกำชับให้แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เบื้องต้นได้มีการเปิดจุดรับซื้อใน 7 จังหวัดได้แก่ เชียงราย, เชียงใหม่, แพร่, น่าน, พะเยา, ลำพูน, ลำปาง จำนวน 16 จุด พร้อมกับประสานสหกรณ์โรงสีและผู้รับซื้อจากนอกพื้นที่ให้ช่วยซื้อ โดยช่วยค่าบริการการจัดการค่าขนส่ง ซึ่งคาดว่าจะสามารถพยุงราคาข้าวเปลือกเหนียวใหม่ได้ ส่วนมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ กรมการค้าภายในจะทำแผนเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว ให้กรมบังคับภายในการเปิดจุดรับซื้อถ้ามีความจำเป็นก็พร้อมที่จะเชื่อมโยงผู้ซื้อในต่างจังหวัดเข้ามาเพิ่มเติม เช่น ชัยนาท, พิจิตรและสิงห์บุรี ราคาข้าวเปลือกเหนียวในตอนนี้ทางอธิบดีกรมการค้าภายในบอกว่ายังถือว่าไม่ต่ำกว่าช่วงปีที่ผ่านมาและจากการลงพื้นที่ติดตามการเปิดจุดรับซื้อข้าวเหนียวพบว่าชาวนานั้นเริ่มทยอยเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกเหนียวปี 2566 – 2567 ออกสู่ตลาดผลผลิตข้าวเหนียวในภาพรวมปีนี้มีอยู่ 5.85 ล้านตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาประมาณ 4% แต่ผลผลิตกระจุกตัวในช่วง ตุลาคม – ธันวาคม มากถึง 80%  ถ้าดูแล้วในภาพรวมทางภาคเหนือก็จะมีผลผลิต 1.46 ล้านตันมากที่สุดคือ เชียงราย 0.43 ล้านตันเชียงใหม่ 0.20 ล้านตัน ส่วนสถานการณ์ด้านราคาปีนี้ถือว่าข้าวเปลือกเหนียวที่เกษตรกรได้รับอยู่ในเกณฑ์ดีมาตลอด เฉลี่ยปีนี้ราคาข้าวเปลือกเหนียวแห้ง 12,800 บาทต่อตัน เดือนกันยายนสูงถึง 15,300 บาทต่อตัน แต่จากการที่ผลผลิตออกกระจุกตัวในช่วงนี้ทำให้ราคามีแนวโน้มเริ่มต่ำลง ข้าวเปลือกเกี่ยวสดอยู่ที่ 9,300 บาท ถึง 9,500 บาทตามคุณภาพข้าวที่เกษตรกรเก็บเกี่ยวแต่ก็ยืนยันว่ายังไม่ใช่ราคาที่ถือว่าต่ำกว่าปีที่ผ่านมา จากสถานการณ์ในปัจจุบัน ข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตองที่ครบกำหนดอายุเก็บเกี่ยวจนเหลืองอร่ามครบกำหนดอายุที่ต้องเก็บเกี่ยวเต็มทุ่งนา ส่งผลให้ชาวนาในพื้นจังหวัดเชียงใหม่ เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตประเด็นหลัก คือ ราคาไม่แน่นอนไม่สามารถคำนวณราคาต้นทุนการผลิตได้ นั้นทำให้กลุ่มชาวนา จังหวัดเชียงใหม่ พยายามเรียกร้องขอให้กรมการค้าภายในและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องช่วยมาแก้ไข ขณะที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ใช้พื้นที่สหกรณ์การเกษตรแม่ริมเป็น หนึ่ง ใน 3 จุดรับซื้อข้าวเหนียวสันป่าตองจากเกษตรกรแต่ก็ไม่สามารถช่วยเกษตรกรได้มากนัก เนื่องจากราคารับซื้อยังต้องอิงกับโรงสีตามกลไกตลาด จากการลงพื้นที่พบว่าชาวนาในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวเหนียวพันธุ์สันป่าตองเนื่องจากเกรงว่าราคาข้าวจะตกลงไปมากกว่าตอนนี้  ชาวนาบอกว่าสาเหตุที่ต้องเร่งเก็บเกี่ยวเนื่องจากไม่มั่นใจเรื่องราคา ถ้าราคาถูกกว่านี้จะยิ่งขาดทุนและข้าวก็ถึงเวลาที่จะต้องเก็บเกี่ยวแล้วถ้าเกี่ยวช้ากว่านี้ก็จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพ สภาพอากาศที่แปรปรวนหากเกิดฝนตกลงมาอีกก็จะยิ่งทำให้ผลผลิตเสียหาย ประเด็นหลักคือราคาไม่แน่นอน เราไม่สามารถคำนวณราคาหรือพยุงราคาหรือประวิงราคาไม่ให้ขึ้นลงได้มันอยู่ที่นายทุนทั้งนั้นอีกอย่างก็คือระยะเวลาเก็บเกี่ยวต้องเกี่ยว […]

ค้าปลีกจำกัดการซื้อน้ำตาลทรายบรรจุถุงก่อนปรับราคาอีก 4 บาท

ค้าปลีกขนาดใหญ่ขึ้นป้ายจำกัดการจำหน่ายน้ำตาลทรายบรรจุถุงขนาด 1 กิโลกรัม ทุกยี่ห้อระบุเอาไว้ว่าซื้อได้ไม่เกิน 6 ถุงต่อ หนึ่ง ใบเสร็จ โดยราคาขณะนี้ยังอยู่ที่กิโลกรัมละ 24 ถึง 25 บาท ก่อนที่จะปรับขึ้นอีก 3 บาท ในวันพรุ่งนี้  ขณะที่ร้านสะดวกซื้อบางแห่งพบว่าน้ำตาลทรายบางยี่ห้อไม่มีจำหน่าย จากการสอบถามพนักงานขายระบุว่าสินค้าหมดสต็อก ลูกค้ามาซื้อกันอย่างต่อเนื่อง ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุว่าจากการส่งเจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบการจำหน่ายน้ำตาลทรายตาม ห้างค้าส่ง ค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ เพราะมีน้ำตาลทรายวางจำหน่ายและยืนยันสต็อกยังมีของอยู่ ส่วนกรณีที่ห้างจำกัดการซื้อไม่เกิน 6 ถุงต่อ 1 ใบเสร็จ เพื่อป้องกันการกักตุน เพียงแต่ว่าการที่จำกัดการซื้อเนื่องจากมีข่าวออกมาว่าน้ำตาลจะขึ้นราคา 4 บาท ต่อกิโล อาจจะทำให้ผู้บริโภคส่วนหนึ่งที่ทำการซื้อเก็บไว้ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะไม่เกิดผลดีจึงอยากจะขอความร่วมมือว่าไม่จำเป็นต้องซื้อเก็บไว้มากๆ เพราะว่าของไม่ได้ขาด เพราะบริโภคในประเทศแค่ 2.5% ส่งออก 7.5% ในเรื่องของปริมาณคงไม่มีปัญหาอะไร ในส่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างผู้ประกอบการที่ทำขนมที่ใช้น้ำตาลทรายในทุกๆ วัน วันละกว่า 150 กิโลกรัม ในการผลิต การขึ้นราคาน้ำตาลทรายสร้างความกังวลให้กับผู้ประกอบการอย่างมาก เพราะว่ากระทบกับต้นทุนการผลิตมาก แต่ไม่สามารถปรับขึ้นราคาขนมได้ แต่ต้นทุนสูงขึ้นและไม่ใช่เฉพาะตัวน้ำตาลอย่างเดียว วัตถุดิบตัวอื่นๆ ที่มันมีส่วนประกอบของความหวานก็จะขึ้นมาอีกเท่าตัวนั้นคือปัญหาที่จะตามมากระทบต่อผู้ประกอบการอย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้ ตอนนี้จะปรับราคาขึ้นหรือจะแก้ไขปัญหาอย่างไรก็ต้องยอมรับตรงนี้ไปก่อน ส่วนผู้ประกอบการโรงงานผลิตซอสหวานในจังหวัดเชียงใหม่บอกว่าราคาน้ำตาลทรายที่สูงขึ้นทำให้ทางโรงงานต้องปรับราคาสินค้าขึ้นตามราคาวัตถุดิบ เพราะฉะนั้นผลกระทบถามว่ามีหรือไม่ก็ต้องตอบว่าไม่ได้มีผลกระทบเพราะต้องขึ้นราคาตามวัตถุดิบที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้น และเราก็ปรับขึ้นราคาสินค้าเรา ดังนั้นผู้บริโภคคือผู้แบกรับรายจ่ายที่แท้จริง ถ้าพูดกันแบบตรงๆ ก็คือ ผู้บริโภคต้องเป็นผู้จ่ายเงินในส่วนต่างพวกนี้ ให้เราผู้บริโภคก็ต้องแบกรับภาระตรงนี้ไป ในส่วนของชาวไร่อ้อย อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี บอกว่าการปรับราคาน้ำตาลในประเทศที่สูงขึ้นจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับชาวไร่เพราะว่าปีนี้ผลผลิตอ้อยน้อยคุณภาพอ้อยต่ำซึ่งเป็นผลกระทบจากภัยแล้งและต้นทุนการเพาะปลูกสูง ค่าน้ำมัน ค่าจ้างแรงงานที่สูงขึ้นแล้วก็ยังมีค่าเช่ารถตัดอ้อยเพราะที่ไร่ตัดอ้อยสด คาดหวังว่ารัฐบาลจะช่วยค่าตัดอ้อยสด 120 บาท ต่อตัน รวมไปถึงประกาศราคาอ้อยขั้นต่ำอยู่ที่ 1,300 ถึง 1,400 บาท ต่อตัน อ้อยจะครอบคลุมต้นทุนการผลิต ถ้าหากว่ามีการปรับขึ้นก็คือจะมีต้นทุนต่อไป สำหรับปริมาณผลผลิตอ้อยปีนี้คาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายเหลือ 75 […]

กรมวิชาการเกษตรแจ้งเกิดส้มโอพันธุ์ใหม่ กวก.พิจิตร 1

นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ส้มโอเป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่สำคัญ มีแหล่งปลูกที่สำคัญในจังหวัด พิจิตร สมุทรสงคราม เชียงราย นครปฐม นครศรีธรรมราช ปราจีนบุรี ชัยภูมิ กาญจนบุรี ชัยนาท และสุราษฎร์ธานี พันธุ์ที่เกษตรกรนิยมปลูก ได้แก่ ทองดี ขาวใหญ่ ขาวแตงกวา ขาวน้ำผึ้ง ท่าข่อย และทับทิมสยาม โดยทั่วไปส้มโอให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี ส่วนใหญ่บริโภคภายในประเทศ และมีการส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ได้แก่ จีน เวียดนาม และฮ่องกง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่าสายพันธุ์ส้มโอมีการกระจายตัวอย่างหลากหลายในแต่ละแหล่งปลูก ทำให้ส่งผลต่อคุณภาพและปริมาณผลผลิตในบางพื้นที่ไม่ได้คุณภาพและผลผลิตต่ำ ผลผลิตไม่สม่ำเสมอ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตร กรมวิชาการเกษตร จึงพัฒนาปรับปรุงพันธุ์ส้มโอเพื่อให้มีความหลากหลายในด้านของสีเนื้อและรสชาติ ทนทานต่อโรคและแมลง ให้ผลผลิตสูง ผลมีคุณภาพดี เหมาะสำหรับส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกเป็นการค้า เพิ่มโอกาสทางการตลาดตลอดจนการส่งออกในอนาคต เพื่อตอบสนองของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรพิจิตรได้คัดเลือกสายต้นจากการเพาะเมล็ดซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งในการปรับปรุงพันธุ์ส้มโอ โดยขั้นตอนการปรับปรุงพันธุ์เริ่มในปี 2545 – 2549 คัดเลือกพันธุ์ส้มโอพันธุ์ทองดีจากการเพาะเมล็ดจำนวน 200 ต้น สามารถคัดเลือกได้สายต้นส้มโอที่มีรสชาติดี […]

เปิดรายชื่อพืช 57 ชนิด ปลูกแค่ไหน ต้องจ่ายภาษีที่ดินปีหน้า

รู้หรือไม่ วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2567 นี้ จะมีการบังคับใช้เกณฑ์การใช้ที่ดินแบบใหม่ เพื่อเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเพื่อป้องกันการแอบอ้างการทำเกษตรกรรมเพื่อลดภาษี ได้มีการกำหนดสัดส่วนใหม่ในการปลูกพืชเอาไว้แล้ว โดยภาษีที่ดินนั้น หรือชื่อเต็มคือ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เป็นภาษีที่จัดเก็บรายปีตามมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ครอบครอง โดยมีองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการจัดเก็บ และเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562  ก่อนหน้านี้ หลายท่านอาจจะทราบถึงข่าวคราวของการปลูกพืชในที่ดินเปล่า เพื่อแอบอ้างการทำเกษตรสำหรับการลดหย่อนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เนื่องจากอัตราภาษีในส่วนของผู้ใช้ที่ดินสำหรับการเกษตรมีอัตราต่ำสุด โดยได้กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง ซึ่งอัตราภาษีที่ดินที่กำหนด สำหรับการประกอบเกษตรกรรม ตามมูลค่าที่ดิน มีดังต่อไปนี้ 0-75 ล้านบาท เสียภาษีในอัตรา 0.01% หรือคิดเป็นล้านละ 100 บาท 75-100 ล้านบาท เสียภาษีในอัตรา 0.03% หรือคิดเป็นล้านละ 300 บาท 100-500 ล้านบาท เสียภาษีในอัตรา 0.05% หรือคิดเป็นล้านละ 500 บาท 500-1,000 ล้านบาท เสียภาษีในอัตรา 0.07% หรือคิดเป็นล้านละ […]

ข้าวไทยมาแรง หลังราคาข้าวโลกดันพุ่งทะยานในรอบ 12 ปี

ถือเป็นข่าวที่น่าจับตา เมื่อดัชนีราคาข้าวทั่วโลกพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี โดยเฉพาะดัชนีราคาข้าวในประเทศไทยที่พุ่งขึ้นแรงสุด มีปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลให้ราคาข้าวเพิ่มสูงขึ้น และภาครัฐของไทยได้มีการวางแผนรับมือสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นแล้วหรือไม่ ? เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่านมา องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ได้รายงานว่า ดัชนีราคาข้าวทั่วโลกในเดือนกรกฎาคมพุ่งขึ้น ร้อยละ 2.8 มาอยู่ระดับที่ 129.7 จุด ซึ่งปรับขึ้นจากปีที่แล้วอยู่ที่ร้อยละ 19.7 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน พ.ศ. 2554 นอกจากนี้ FAO ยังเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า ราคาข้าวที่พุ่งขึ้นรุนแรงสุดนั้น มาจากประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ส่งออกข้าวอันดับ 2 ของโลก โดยในช่วงสองสัปดาห์นี้ ราคาเฉลี่ยเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ข้าว 100% เกรด B (ข้าวขาว 100% ชั้น 2 ) ของไทย อยู่ที่ 562 เหรียญสหรัฐฯ ต่อตัน ปรับขึ้นจากเดิม 38 เหรียญสหรัฐฯ ถือเป็นราคาข้าวสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 […]

ปศุสัตว์จังหวัดแพร่ ตรวจประเมินศูนย์รวบรวมไข่

ปศุสัตว์จังหวัดแพร่ ตรวจประเมินศูนย์รวบรวมไข่ เพื่อต่ออายุการรับรองในโครงการไข่อนามัย (QMark) สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค เมื่อวันอังคารที่ 10 มกราคม 2566 นายสัตวแพทย์.ดร.สมพร พรวิเศษศิริกุล ปศุสัตว์จังหวัดแพร่ มอบหมายให้ นายชัยรัตน์ บัวเลิศ นายสัตวแพทย์ชำนาญการ เข้าร่วมสังเกตการณ์กับเจ้าหน้าที่สำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ ดำเนินการตรวจประเมินต่ออายุศูนย์รวบรวมไข่อนามัย(Q Mark) ให้กับศูนย์รวบรวมไข่ของ “บริษัทเบทาโกรเกษตรอุตสาหกรรม จำกัด” ในพื้นที่จังหวัดแพร่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การดำเนินการต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพและยกระดับมาตรฐานการผลิตไข่ไก่ที่มีคุณภาพ ปลอดภัยต่อผู้บริโภค

งานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี ฯ ณ ต.แม่นะ อ.เชียงดาว

“งานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day)ขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ด้วย BCG model ที่เชียงดาว” วันที่ 27ธันวาคม 2565 เวลา 11.00 น. นายเจริญ พิมพ์ขาล เกษตรจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมด้วยนายเจษฏา กาพย์ไชย หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และสารสนเทศ ขับเคลื่อนดำเนินงานงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) และบริการการเกษตรเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ โดยนายสงัด บูรณภัทรโชติ นายอำเภอเชียงดาวกล่าวเปิดงาน นายชินโชติ ลาภพระแก้ว รักษาราชการแทนเกษตรอำเภอเชียงดาว กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ดำเนินการ พร้อมหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมสนับสนุนการจัดนิทรรศการการถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกร เกษตรจังหวัดเชียงใหม่เปิดเผยว่าการดำเนินงานวันถ่ายทอดเทคโนโลยี (Field Day) และบริการการเกษตรเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลผลิตใหม่ มีแนวคิดในการการจัดงาน “เพื่อถ่ายทอดความรู้แบบเห็นของจริง” ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้รับทราบเทคโนโลยีการผลิตใหม่ ๆ ช่องทางการตลาด แหล่งข้อมูล การเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ของตนเอง ตลอดจนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเกษตรกรด้วยกันเอง รวมทั้งนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา ซึ่งเป็นตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นหน่วยงานหลักในการจัดงาน และใช้ […]

“การเกษตรไม่ใช่ใครจะทำได้ ต้องศึกษาและตั้งใจถึงจะไปต่อได้”

“การเกษตรไม่ใช่ใครจะทำได้ ต้องศึกษาและตั้งใจถึงจะไปต่อได้” ผบ.พล.ร.7 นำกำลังพลศึกษาดูงาน ณ ม.แม่โจ้ เมื่อ 12 ธ.ค. 65 เวลา 08.30 – 12.30 น.พล.ต. ชายแดน กฤษณสุวรรณ ผบ.พล.ร.7 , คุณฐิติมา กฤษณสุวรรณ ประธานแม่บ้านทหารบก สาขา พล.ร.7 พร้อมด้วยคณะนายทหาร, นายสิบ และทหารกองประจำการ ได้เดินทางไปศึกษาดูงานหน่วยงานภายในกำกับของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย จว.ช.ม. จำนวน 2 หน่วยงาน ได้แก่ 1.ศูนย์ปรับปรุงพันธุ์และผลิตเมล็ดพันธุ์ผักอินทรีย์ สำนักฟาร์ม ม.แม่โจ้2.คณะผลิตกรรมการเกษตรเพื่อรับทราบถึงขั้นตอนการทำเกษตรแบบพื้นฐาน ,เพิ่มพูนทักษะและพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านการเกษตรและสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในโครงการเกษตรในพื้นที่ พล.ร.7 และต่อยอดนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน ทั้งการปลูกพืชผักสวนครัวในครัวเรือน หรือทำการเกษตรเพื่อหารายได้เสริมให้กับครอบครัว ผลการปฏิบัติ กำลังพลได้รับการต้อนรับและได้รับความรู้จากเจ้าหน้าที่ของ ม.แม่โจ้ ตรงตามวัตถุประสงค์ของการดูงาน เหตุการณ์ทั่วไปปกติ

เกษตรแพร่ ติดตามดูแลฯ โครงการยกระดับแปลงใหญ่ฯ

เกษตรแพร่ ติดตามดูแลกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ ที่เข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาด เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 เวลา 15.30 น. นายสมเกียรติ ทะฤาษี หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช รักษาราชการแทนเกษตรจังหวัด มอบหมายให้ นายณัฐพงษ์ วงค์สายแก้ว นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยข้าวแพร่ ลงพื้นที่ติดตามดูแลกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ที่เข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาดของกลุ่มเกษตรกรแปลงใหญ่ข้าว หมู่ที่ 5 ตำบลวังหงส์ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ซึ่งได้เข้าร่วมโครงการยกระดับแปลงใหญ่ด้วยเกษตรสมัยใหม่และเชื่อมโยงตลาดและได้รับงบประมาณอุดหนุนในการจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรและวัสดุการเกษตร โดยมีนายเรืองกิตติ์ พันธุ์เลิศเมธี เกษตรอำเภอเมืองแพร่ และเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองแพร่ ร่วมติดตามและให้ข้อมูล ณ ที่ทำการกลุ่มแปลงใหญ่ฯ เพื่อติดตามการดำเนินกิจกรรม และให้คำชี้แนะแก่กลุ่ม โดยมีนายสุระพล จองแก ประธานกลุ่มฯ และคณะกรรมการกลุ่มฯ ได้ร่วมให้ข้อมูล ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำการดำเนินงาน การใช้ประโยชน์เครื่องจักร ครุภัณฑ์ วัสดุต่างๆ ที่ได้รับจากโครงการให้เกิดความคุ้มค่า มีความยั่งยืน สร้างรายได้แก่ชุมชน รวมถึงการบริหารจัดการกลุ่ม การบริหารจัดการรายได้ของกลุ่มที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการฯ

“จุรินทร์” มอบนโยบายอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ ทั่วประเทศ

“จุรินทร์” มอบนโยบายอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ ทั่วประเทศ ย้ำพร้อมเดินหน้าสนับสนุนภารกิจ กฟก. เพื่อแก้ปัญหาให้เกษตรกร วันที่ 14 ธันวาคม 2565 เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมริชมอนด์แกรนด์ จังหวัดนนทบุรี รองนายกรัฐมนตรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เป็นประธานเปิดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการแนวทางการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัด โดยมีคณะกรรมการ กฟก. คณะกรรมการบริหาร กฟก. คณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร ผู้แทนเกษตรกร คณะอนุกรรมการ กฟก. จากทั่วประเทศ พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงาน กฟก. หัวหน้าสำนักงานสาขาจังหวัด พนักงาน ลูกจ้าง และเกษตรกรสมาชิกเข้าร่วมโครงการกว่า 1,400 คน นายจุรินทร์ กล่าวว่า กองทุนฯ ตั้งขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรเรื่องหนี้สิน และสนับสนุนให้เกษตรกรมีรายได้จากการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ตนในฐานะประธานกรรมการกองทุนฯ ได้ผลักดันนโยบายให้ กฟก. แก้ไขปัญหาให้เกษตรกรมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งผลักดันแก้ไขกฎหมายกองทุนฯ จนได้รับการแก้ไขเป็นครั้งที่ 3 สามารถปลดล็อกให้มีการช่วยเหลือเกษตรกรที่เป็นหนี้บุคคลค้ำประกันได้ในวงกว้าง เกษตรกรที่เป็นหนี้ค้างชำระกับสถาบันการเงินแล้วไม่สามารถใช้หนี้ได้ ต้องถูกยึดที่ดินทำกิน รัฐบาลมีความห่วงใยเรื่องนี้มาก จึงให้กองทุนฯ เข้ามาดูแล […]

1 2 3 15