179

ราคาทองคำและเงินบาท ประจำวันที่ 12 ตุลาคม 2566

ทองคำเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาในช่วงบ่ายอย่างต่อเนื่องถึงช่วงกลางคืน ขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่  1,877 ดอลลาร์ แล้วก็ปิดตลาดที่ 1,874 ดอลลาร์เพิ่มขึ้น 14 ดอลลาร์ ปัจจัยบวกหลายประเด็นเลยไม่ว่าจะเป็นสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาสก็ยังทำให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย บอนด์ยีล (Bond Yield ) สหรัฐอเมริกา ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ เฟด หลายท่านแถลงยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย  รายงานการประชุมเฟดก็สะท้อนให้เห็นว่า ส่วนใหญ่ก็เห็นควรให้ระมัดระวังในการขึ้นดอกเบี้ย รายงานการประชุมเฟด ครั้งที่ประชุมวันที่ 19 ถึง 20 กันยายนที่ผ่านมาถึงแม้ว่า FOMC สะท้อนให้เห็นว่าเฟดจะระมัดระวังในการขึ้นดอกเบี้ยต่ออีกหนึ่งครั้งก็ตาม  อย่างไรก็ดีอัตราเงินเฟ้อ PPI ดัชนีราคาหุ้นปิด เดือน กันยายน ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ทั้งเทียบ รายเดือน แล้วก็ รายปี เพิ่มขึ้น 0.5% มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบรายปี เป็นการขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่ เดือน เมษายน แล้วก็มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.6%  ส่วนกองทุน SPDR เข้ามาซื้อทองคำ 0.86 ตัน เป็นสัญญาณที่ดี เพราะถือว่าเป็นการเข้าซื้อครั้งแรกนับตั้งแต่ วันที่ 2 ตุลาคม  คืนนี้ติดตามดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ CPI ของสหรัฐฯ เดือนกันยายน ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบหลายเดือนแล้วเพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบรายปี  จำนวนผู้ขอรับการว่างงานตลาดคาดการณ์ว่ารอบนี้ จะเพิ่มขึ้น 4,000 ราย เป็น 211,000 ราย ทั้ง 2 ตัวส่งผลสำคัญต่อเงินเฟ้อว่าจะสูงขึ้น คนตกงานลดน้อยลงหรือไม่ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะมีแรงเทขายทองคำ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์เป็นตรงข้ามก็จะมีแรงซื้อทองคำต่อไป แนวโน้มราคาทองคำทางด้านเทคนิคคาดว่าจะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ 1,880 ดอลลาร์ ถ้าผ่านขึ้นไปได้ แนวต้านถัดไป 1,890 ดอลลาร์ ซึ่ง 1,880 ดอลลาร์ ถือว่าเป็นแนวต้านสำคัญเป็นจุดสูงสุดของทองคำที่ทำไว้ช่วงปลายเดือนกันยายน อาจมีแรงเทขายออกมาถ้าชนแนวต้านตรงนี้  แนวรับ 1,860 ดอลลาร์ และ 1,850 ดอลลาร์ แนวต้าน 1,880 ดอลลาร์ และ 1,890  ดอลลาร์ ราคาทองแท่งของสมาคมเมื่อวานปรับเปลี่ยน 5 ครั้ง ขายออกช่วงเย็น 32,250 บาท ลดลง 150 บาท  แนวรับ 32,200 บาท และ 32,100 บาท แนวต้าน 32,400 […]

ราคาทองคำและเงินบาท ประจำวันพุธที่ 11 ตุลาคม 2566

ทองคำเริ่มเห็นแรงเทขายทำกำไรออกมาเมื่อวานนี้ในช่วงบ่าย หลังจากที่ วันจันทร์ ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 1.5% เป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน หลังจากที่เกิดสงครามระหว่างอิสราเอลและฮามาส ทำให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเข้ามา แต่ว่าในที่สุดก็มีแรงเทขายออกมา อย่างไรก็ดีทองคำก็ยังมีปัจจัยบวก บอนด์ยีลด์ (Bond Yield) อเมริกาปรับตัวลดลง หลังจากที่ประธานเฟด สาขา แอตแลนตา แถลงว่าเฟด ไม่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป สอดคล้องกับความเห็นของเจ้าหน้าที่เฟดใน วันจันทร์ ที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน ส่วนกองทุน SPDR ยังคงขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 เมื่อวานขายออกมา 0.30 ตัน ซึ่งก็เป็นการขายทองคำต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 6 แล้ว  สำหรับคืนนี้ติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดครั้งล่าสุดวันที่ 19 ถึง 20 กันยายน ที่ผ่านมาตรงนั้น สังเกตว่าพอร์ตก็คือส่งสัญญาณว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยต่อ แล้วก็จะขึ้นดอกเบี้ยในระดับที่สูงยาวนานมากขึ้นเป็นปัจจัยลบ แต่ว่าการเปิดเผยครั้งนี้ก็อาจจะเห็นมุมมองของเจ้าหน้าที่เฟด ในรายละเอียดที่มากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นผลลบแต่ว่าเข้าใจว่าตลาดก็ตอบรับประเด็นตรงนี้ไปแล้ว แล้วก็ตอนนี้กลายเป็นว่าเป็นไปได้เหมือนกันว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยต่อไปด้วย  ส่วนอัตราเงินเฟ้อ PPI หรือดัชนีราคาผู้ผลิต เดือน กันยายน ตลาดประเมินว่ารอบนี้จะเพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือนชะลอตัวลงหลังจากที่เดือน สิงหาคม เพิ่มขึ้น 0.7% แล้วก็เพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบปลายปี เท่ากับเดือนก่อน ตัวเลขอัตราเงินเฟ้อดูเหมือนจะชะลอตัวลง ตรงนี้อาจจะเป็นปัจจัยในการหนุนราคาทองคำได้ แนวโน้มราคาทองคำคาดว่าจะเริ่มแกว่งตัวในกรอบที่แคบลง กรอบการเคลื่อนไหวอาจจะประมาณ 1,850 ดอลลาร์ ถึง 1,865 ดอลลาร์ ทองคำซึมชับไปกับข่าวสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสไปพอสมควรตอนนี้ตลาดจะให้ความสนใจกับการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดและอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯมากกว่า ราคาทองคำวันนี้ให้ แนวรับ 1,850 ดอลลาร์ และ 1,830 ดอลลาร์ แนวต้าน 1,865 ดอลลาร์ ผ่านขึ้นไปได้เจอแนวต้านสำคัญที่ 1,880 ดอลลาร์ เป็นจุดสูงสุดของทองคำที่ทำไว้ช่วงปลายเดือนกันยายนและเป็นเส้น SMA 20 วัน  สำหรับราคาทองคำแท่งขายออกของสมาคมปรับเปลี่ยนประมาณ 4 ครั้งขายออกช่วงเย็น 32,400 บาทลดลง 100 บาท ปัจจัยจากเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้น  แนวรับ 32,100 บาท และ 31,900 บาท แนวต้าน 32,255 บาท ผ่านขึ้นไปได้ที่ 32,400 บาท กลยุทธ์การลงทุนถ้ามีทองคำอยู่อาจจะแบ่งขายทำกำไรได้ ประเด็นเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทำให้ราคาทองคำอาจจะดูไม่ค่อยดีเท่าไร ในส่วนของราคาทองแท่งในประเทศ โกลด์ฟิวเจอร์แนะนำเปิดฝั่งซื้อที่ 1,850 ดอลลาร์ คัสลอส 1,840 ดอลลาร์ ส่วนโกล์ไลด์ฟิวเจอร์แนะนำเปิดเก็งกำไรที่ 1,888 ดอลลาร์ คัสลอส1,870 ดอลลาร์ […]

นโยบายกู้มาแจก 10,000 บาท กับ ดอกเบี้ย 14,000 ล้านบาท ต่อปีคุ้มไหม?

คุณรู้หรือไม่ 26 ปีที่แล้ว รัฐบาลไทยทำให้เรามีหนี้จากวิกฤตการเงิน 1,000,000 ล้านบาท ทยอยคืนเงินต้นและดอกเบี้ยไปแล้วก็ยังเหลือหนี้เงินต้นอีกกว่า 600,000 ล้านบาท ที่เป็นหนี้อยู่ ในตอนนี้ต้องบอกเลยว่าการแจกเงิน 10,000 บาท นั้นถือเป็นประเด็นที่หลายคนกำลังจับตามอง หลายคนกำลังตั้งคำถามว่าการแจกเงินด้วยวงเงินสูงถึง 560,000 ล้านบาท ในตอนนี้นั้นอาจเป็นความเสี่ยงต่อระบบเศรษฐกิจไทยได้ ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? โลกเราในตอนนี้นั้นเรากำลังพบกับเหตุการณ์ที่อัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบกว่า 10 ปี ซึ่งสาเหตุที่อัตราดอกเบี้ยมาเร็วและแรงแบบนี้ก็คือ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ซึ่งเขาให้เหตุผลว่า “เขาจำเป็นที่จะต้องเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อที่จะสกัดกั้นเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูงก่อนหน้านี้นั่นเอง” เหตุการณ์นี้ต้องบอกว่าเกิดขึ้นด้วยความรวดเร็ว จากที่ก่อนหน้านี้ 2 ปี ถ้าเราเอาเงินไปฝากพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เราจะได้ดอกเบี้ยอยู่ที่ 0%  แต่วันนี้ถ้าเรานำฝากอัตราดอกเบี้ยนั้นจะสูงขึ้นไปเป็น 5.4%  แต่ก่อนหน้านี้หลายๆ คนยังคงคุ้นชินกับบรรยากาศที่เงินในระบบมีอยู่ล้นเหลือจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐนั้นพิมพ์เงินผ่านการทำคิวอีเข้ามา ซึ่งพอเงินในระบบมีเยอะก็จะกดให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ แต่ว่าสภาพเวลานี้แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง สำหรับประเทศไทย ที่ผ่านมามีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามสหรัฐฯ ไปบ้างแล้ว โดยล่าสุดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยนั้นอยู่ที่ 2.5%  ก็ต้องบอกว่ายังต่ำกว่าดอกเบี้ยสหรัฐถึงเท่าตัวเลยทีเดียว  แน่นอนว่าเมื่อเป็นแบบนี้เงินที่ปกติแล้วก็จะไหลไปหาที่ให้ดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนสูงกว่าและภาพนี้มันก็สะท้อนให้เห็น ว่าค่าเงินบาทของไทยนั้นอ่อนค่าลงอย่างมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา จนถึงตอนนี้ หลายคนคงจะพอเห็นภาพแล้ว ว่าเรานั้นกำลังอยู่ในยุคที่ดอกเบี้ยไม่ต่ำอีกต่อไปแล้ว ยิ่งมีเรื่องใหญ่มากระทบหลังจากนี้อัตราดอกเบี้ยของบ้านเรามีสิทธิที่จะปรับตัวสูงขึ้นไปอีก คำถามก็คือว่าแล้วเรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับการแจกเงิน 560,000 ล้านบาท ? คำตอบ […]

ราคาเงินบาทและทองคำ ประจำวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2566

สัปดาห์ก่อนหน้านี้ทองคำปรับตัวลงแรงทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ปัจจัยลบมาจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี บอนด์ยีลด์ สหรัฐอาเมริกาอายุ 10 ปี ก็ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 16 ปี แตะที่4.88% ซึ่งตลาดก็ยังกังวลเรื่องเดิม ในเรื่องของเฟดน่าจะเป็นดอกเบี้ยในระดับสูงที่ยาวนานมากขึ้น  ขณะที่ตลาดแรงงานของอเมริกาก็ยังแข็งแกร่งตัวเลขออกมาดีเกือบทุกตัว ยกเว้นการจ้างงานภาคเอกชน จำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเดือน สิงหาคม เพิ่มขึ้นเป็น 9.61 ล้าน ตำแหน่ง มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้จำนวนผู้ขอการว่างงาน ตัวเลขก็ออกมาน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ตัวเลขจริง 207,000 ราย ส่วนวันศุกร์ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรนอนฟาร์มเฟโร เดือนกันยายน ออกมาเซอร์ไพรส์ทีเดียวเพิ่มขึ้น 336,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เยอะ ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 171,000 ตำแหน่ง ทองคำวันศุกร์มีเห็นย่อตัวลงไปที่ 1,810 ดอลลาร์ แต่ในที่สุดก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาปิดตลาดคืนวันศุกร์ ที่ 1,832 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12ดอลลาร์แต่ทั้งสัปดาห์นี้ลดลง 15 ดอลลาร์ ทางด้านกองทุน SPDR ยังคงขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 ขายทองคำออกมา 7.79 ตัน แล้วก็ถือทอง 865.85 ตัน ถือว่าต่ำที่สุดเลยนับตั้งแต่ เดือน สิงหาคม ปี 2562 ประเด็นที่ต้องติดตาม วันเสาร์ที่ผ่านมามีสงครามระหว่าง อิสราเอลและฮามาส เมื่อเช้าวันเสาร์ กลุ่มฮามาส มีการโจมตีอิสราเอลระดมยิงจรวดหลายพันลูกจากฉนวนกาซาแล้วก็มีการส่งกองกำลังติดอาวุธเข้าไปแทรกซึมทางภาคใต้ของอิสราเอล อิสราเอลก็โจมตีกลับ ส่งเครื่องบินถล่มแล้วก็ประกาศสงครามกับกลุ่มฮามาส ประเด็นตรงนี้คงส่งผลบวกกับราคาทองคำเนี่ยแน่นอน เวลาเกิดสงครามขึ้นก็จะมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ต้องติดตามต่อไปว่าประเด็นตรงนี้ อิหร่านนั้นเป็นกลุ่มสนับสนุนกลุ่มฮามาสหรือไม่อย่างไรถ้าใช่ก็อาจจะโดนคว่ำบาตรแล้วก็จะกระทบกับอุปทานราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันเมื่อเช้านี้พุ่งขึ้นกว่า 4% จากประเด็นตรงนี้ แล้วก็ถ้าเกิดสงครามขึ้นก็จะกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก เศรษฐกิจไม่ดีเกิดความไม่แน่นอนก็จะมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ส่วนประเด็นอื่นๆที่ต้องติดตาม มีการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดในคืนวันพุธการแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดและสุดท้ายก็คือเงินเฟ้อของสหรัฐเดือน กันยายน เมื่อวันพุธ เป็นPPI (ดัชนีราคาผู้ผลิต) แล้วก็วันพฤหัสบดีเป็น CPI( ดัชดีราคาผู้บริโภค)ของเดือนกันยายน แนวโน้มราคาทองคำคาดว่าจะปรับตัวขึ้น กับเรื่องประเด็นสงครามอิสราเอล ฮามาส ที่ประเมินไว้ว่าคงจะมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แล้วก็ราคาทองคำก็ลงไปเยอะปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน  ในส่วนทางด้านของเทคนิคเห็นมีแรงซื้อกลับเข้ามาแล้ว ตั้งแต่วันศุกร์ ทองคำให้ แนวรับ 1,830 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์ แนวต้าน 1,850 ดอลลาร์ และ $1,860 ดอลลาร์ สำหรับทองแท่งขายออกวันเสาร์ 32,050 บาท เพิ่มขึ้น 100 บาท แนวรับ 32,100 บาท […]

เปิดแผน ททท. ปี‘67 กระตุ้นเที่ยวเหนือคึกคัก

ท่ามกลางความท้าทายและอุปสรรคต่างๆ ต่อธุรกิจการท่องเที่ยวในเชียงใหม่และภาคเหนือ ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำเป็นที่ต้องมีแผนการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวให้คึกคัก ตลอดปีหน้าฟ้าใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้ วันที่ 5 ตุลาคม ที่ผ่านมา ณ กาดจริงใจมาร์เก็ต ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้จัดกิจกรรมงานแถลงแผนปฏิบัติการด้านการตลาดการท่องเที่ยว ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ประจำปี 2567 โดยได้รับเกียรติจาก คุณณัฐพรรณ ตรีเดชา ผู้อำนวยการกองส่งเสริมสินค้าท่องเที่ยว ททท. , คุณภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ททท. และ คุณสุลัดดา ศรุติลาวัลย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท.สำนักงานเชียงใหม่ โดยในปัจจุบัน เทรนด์การท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยม ได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ , การท่องเที่ยวเชิงอาหาร , การท่องเที่ยวเชิงความยั่งยืน เน้นการรักษาสิ่งแวดล้อมและเป็นมิตรกับโลก , การท่องเที่ยวเชิงรำลึกถึงอดีตและความหลัง , การตามรอยร้านกาแฟ และการเที่ยวสายมูเตลู เป็นต้น ซึ่งสอดรับกับจุดเด่นของการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือของประเทศไทย ทั้ง วัฒนธรรมขนบธรรมเนียมประเพณีที่สวยงาม งานเทศกาลต่างๆ สินค้าหัตถกรรมท้องถิ่นที่เลื่องชื่อ รวมทั้งการเป็นแหล่งปลูกชา กาแฟ […]

ราคาทองคำและเงินบาท ประจำวันวันศุกร์ที่ 6 ตุลาคม 2566

ราคาทองคำสปอตปิดตลาดยังคงปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 ปิดตลาดที่ 1,819 ดอลลาร์ ลดลง 1.1 ดอลลาร์ ถือว่าปิดตลาดค่อนข้างทรงตัวเพราะทองคำก็มีปัจจัยบวกเข้ามา เงินดอนลาร์ยังอ่อนค่าลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2เช่นเดียวกับ Bond yield สหรัฐอายุ 2 ปีและอายุ 10 ปีก็ปรับตัวลงเป็นวันที่ 2 แต่ว่าประเด็นที่เป็นปัจจัยลบเข้ามาก็คือ เมื่อคืนสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอสมัครว่างงานเพิ่มขึ้น 2,000 ราย เป็น 207,000 ราย ตัวเลขตรงนี้ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 2011,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ยังมีความแข็งแกร่งคนตกงานก็ถือว่าน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่วนตัวเลขอีกตัวเลข หนึ่ง ก็คือดุลการค้าขาดดุลลดลงด้วย เดือนสิงหาคม ลดลงเหลือ 5.83 หมื่นล้านดอลลาร์ น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้  กองทุนเอสพีดีอาร์ยังคงขายทองคำต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เมื่อวานขายออกมาอีกแล้วก็ทำให้ถือทองคำ 867 ตัน ถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุด นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2562 คืนนี้ที่พลาดไม่ได้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรหรือว่านอนฟราม์เพโล เดือนกันยายน ตลาดประเมินว่าจะเพิ่มขึ้น 171,000 ราย ตัวเลขตรงนี้เรียนว่าส่วนใหญ่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ เดือนหน้าและมียกเว้นอยู่ 2 เดือนคือ เดือนมิถุนายน  เดือนกรกฎาคม ที่ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ระวังนิดนึงว่าตัวเลขจะออกมายังไงดีกว่า อะไรแย่กว่าตลาดคาดการณ์ไว้ ส่วนอัตราการว่างงาน เดือน กันยายน ตลาดประเมินว่าจะลดลงจาก 3.8% เป็น3.7%  แนวโน้มราคาทองคำคืนนี้คงจะผันผวนตามตัวเลขการจ้างงานถ้าเกิดออกมาดีเกินคาด ระวังแรงเทขายจะเกิดขึ้นอีกรอบ กรณีตรงข้ามออกมาแย่กว่าที่คาดกันไว้ราคาทองคำก็มีโอกาสกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,830 ดอนลาร์ อีกครั้งหนึ่ง  ทองคำระยะสั้นให้แนวรับ 1,813 ดอลลาร์ และ 1,805 ดอลลาร์ แนวต้าน 1,830 ดอลลาร์ ดูเหมือนเป็นแนวต้านที่แข็งแกร่งอยู่ แต่ถ้าตัวเลขการจ้างงานออกมาย่อมแย่มากก็มีโอกาสที่จะทะลุ แล้วเราจะเห็นแนวต้านถัดไปที่ 1,840 ดอลลาร์ ราคาทองแท่งของสมาคมเมื่อวานปรับเปลี่ยน 3 ครั้ง ขายออกช่วงเย็น 31,950 บาท ลดลง 100 บาท แนวรับ 31,850 บาทและ 31,750 บาท แนวต้าน 32,000 บาทและ 32,100 บาท แนวรับจะเท่ากับเมื่อวานนี้ เพราะว่าทองสปอตให้แนวรับแนวต้านใกล้เคียงกับเมื่อวาน  […]

หมัดเด็ด ททท. ดึงนักท่องเที่ยวมาเหนือ ส่งท้ายปี 66

เมื่อสายฝนเริ่มจาก และลมหนาวพัดเข้ามา ถือเป็นการเริ่มต้นฤดูหนาว และช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวของภาคเหนือของเราอย่างเป็นทางการ ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนสุดท้ายของปี 2566 นี้ โดยข้อมูลจากทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศจนถึงเดือนกรกฎาคม พบว่า มีนักท่องเที่ยวในประเทศ เดินทางเข้ามาในภาคเหนือแล้ว 20 ล้านคน และสร้างรายได้ให้แก่ในพื้นที่แล้ว 85,485  ล้านบาท ในขณะที่เป้าหมายตลอดทั้งปี 2566 ได้คาดการณ์ให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา 34 ล้านคน และมีรายได้จากการท่องเที่ยว 155,000  ล้านบาท ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่เข้ามา เป็นชาวไทยร้อยละ 85 รองลงมาได้แก่ชาวต่างชาติร้อยละ 15 จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ ททท.เน้นตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นหลัก  พร้อมทั้งคาดว่า จำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ที่ขาดหายไป และยังไม่เป็นไปตามเป้า จะไหลเข้ามาในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะถึงนี้ เพราะฉะนั้นแล้ว เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ในฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะมาถึง จึงจำเป็นต้องงัดกลยุทธ์เด็ด ในการดึงนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้นในปลายปีนี้ คุณภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ททท. ได้เปิดเผยถึงแผนงานในการกระตุ้นการท่องเที่ยวภาคเหนือปลายปีนี้ ในงานแถลงปฏิบัติงานด้านการตลอดท่องเที่ยว ททท.สำนักงานเชียงใหม่ ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี […]

รู้จัก “บินโจตัน” (Bincho-tan) ถ่านสำหรับปิ้งย่างกิโลละ 1,200 บาท

ปกติถ้าพูดถึงถ่านหลายคนน่าจะนึกถึงถ่านที่กิโลละไม่กี่บาท แต่เชื่อไหม? ว่า ถ่าน“บินโจตัน” (Bincho-tan) กลับมีราคาสูงถึงกิโลละ 1,200 บาท เลยทีเดียว ซึ่งราคาที่สูงนี้มีที่มาที่ไป “บินโจตัน” มีมานานหลายร้อยปีแล้ว ตั้งแต่ยุคเอโดะของประเทศญี่ปุ่น โดยมีช่างฝีมือญี่ปุ่นคนหนึ่งคิดค้นขึ้นมา  โดยเริ่มจากการเอากิ่งไม้โอบาเมชนิดแข็งพิเศษที่เติบโตบนเนินเขาในป่าของ จังหวัดวากายามะ มาเก็บไว้ในเตาเผาชนิดพิเศษจากนั้นก็เอาไปเผาต่ออีกเป็นเวลาหลายสัปดาห์เพื่อควบคุมการไหลเวียนของออกซิเจน จนกระทั่งควันเริ่มมีสีจางลงเราถึงจะเอาออกมาได้ เพราะนั่นหมายความว่าสิ่งสกปรกต่างๆภายในถ่านถูกเผาออกไปเกือบหมดแล้ว ภายในถ่านต้องมีคาร์บอนสูงถึง 98% หรือเรียกง่ายๆก็คือเป็นฐานที่มีความบริสุทธิ์สูงแล้วนั่นเอง ทีนี้นอกจากเรื่องของที่มาที่หาได้ยากแล้ว กระบวนการผลิตที่ค่อนข้างพิถีพิถัน ยังมีเรื่องของคุณสมบัติเฉพาะตัวของ “ถ่านบินโจตัน” ที่เหมือนกับถ่านชนิดอื่นๆ ที่จะมาเสริมคุณค่าให้ “ถ่านบินโจตัน” มีมูลค่าสูงถึงกิโลละ 1,200 บาท ได้ ด้วย “ถ่านบินโจตัน” เป็นถ่านที่มีความบริสุทธิ์สูงพอถูกนำมาทำอาหาร มันก็เลยทำให้รสของอาหารไม่ตกหรือผิดเพี้ยนไป หรือแม้แต่สารก่อมะเร็งก็แทบจะไม่มีเลย ซึ่งเรียกได้ว่าปลอดภัยกับผู้บริโภคมากอย่างมาก และจัดว่าเป็นถ่านที่ร้านอาหารญี่ปุ่นทั้งในไทยและต่างประเทศนิยมใช้ หลายแห่งเชฟจะใช้ “ถ่านบินโจตัน” ร้อนๆ มานาบลงบนเนื้อปลาเพื่อเพิ่มเรื่องของกลิ่นหอม ถัดมาก็คือเรื่องของคุณภาพของตัวถ่าน ที่จุดแค่ครั้งเดียวก็สามารถอยู่ได้นานถึง 5 ชั่วโมงและยังใช้ ได้ต่อเนื่องได้ถึง 3 ครั้ง แถมยังให้ความร้อนที่สม่ำเสมอกว่าถ่ายทั่วไปอีกด้วย  นอกจากนี้ “ถ่านบินโจตัน” ยังช่วยให้อาหารมีรสชาติที่อร่อยขึ้นได้ เพราะสามารถทำความร้อนได้สูงถึง 1,000°C ซึ่งก็จะทำให้ด้านนอกกรอบส่วนเนื้อด้านในยังคงชุ่มฉ่ำอยู่ ลองนึกดูว่าถ้าเราเอาปลาไปย่างหนังที่เกรียมกรอบกำลังดี ส่วนเนื้อข้างในยังชุ่มฉ่ำอยู่ จะอร่อยขนาดไหน สุดท้ายก็คือการที่ “ถ่านบินโจตัน” ควันน้อยแล้วก็ไร้กลิ่น ทำให้อาหารที่ถูกนำไปย่างจะไม่ถูกกลิ่นของควันที่เกิดจากถ่านกลบรสชาติของอาหารไป ด้วยคุณสมบัติพิเศษทั้งหมดนี้เองก็เลยทำให้ “ถ่านบินโจตัน”กลายเป็นถ่านที่มีมูลค่าสูงถึงกิโลละพันซึ่งนอกจากเรื่องของราคาแล้วมันยังสะท้อนให้เห็นถึงความพิถีพิถันของชาวญี่ปุ่นที่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ที่หลายคนอาจจะมองข้าม ซึ่งตรงจุดนี้เองก็เลยทำให้พวกเขาสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับทั้งสินค้าบริการแถมยังสร้างความไว้วางใจให้กับผู้คนมาได้เสมอมา เชียงใหม่ จัดว่าเป็นอีกเมืองหนึ่งที่ยังคงมีอาชีพเผาถ่านเป็นการเลี้ยงชีพ ซึ่งสังเกตได้จากในหลายๆ เส้นทางที่มุ่งตรงเข้าอยู่ตัวเมืองเชียงใหม่ จะมีกระสอบถ่านวางขายอยู่ แต่ทั้งกระสอบ 20 – 50 กิโล ขายได้ไม่ถึง 200 บาท แต่ “ถ่านบินโจตัน” เพียง 1 กิโลกรัม ขายได้ 1,200 บาท ถึงเวลาหรือยังที่เราจะมาพัฒนา เศรษฐกิจพื้นบ้าน ให้ชาวบ้านพัฒนาสินค้าคุณภาพ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น … เรียบเรียงโดย : บ่าวหัวเสือ

นักท่องเที่ยวจีนมาเยือนเชียงใหม่ยังไม่เป็นไปตามเป้า

แก๊งม่วนป่วนไทยแลนด์ภาพยนตร์จีนชื่อดังออกฉายปลายปี 2555 ช่วยปลุกกระแสการท่องเที่ยวแบบปากต่อปาก ชาวจีนจำนวนมากสนใจจะมาสัมผัสบรรยากาศเมืองไทยตามรอยภาพยนตร์ โดยเฉพาะสถานที่ที่ใช้เป็นฉากถ่ายทำในจังหวัดเชียงใหม่ จำนวนนักท่องเที่ยวจีนมาไทยในช่วงปี 2556 เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเช่นเดียวกับรายได้จากการท่องเที่ยวโดยภาพรวมเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า โดยก่อนเกิดการระบาดของโควิด 19 นักท่องเที่ยวชาวจีนมาไทยทะลุ 10 ล้านคน เช่นเดียวกับคลิปวีดีโอติ๊กต๊อกของอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ชาวจีนที่อยู่ไทยมาหลายปี รีวิวการใช้ชีวิตในไทย ท่องเที่ยว, กินอาหารในคอนเซ็ปต์ “แม้พูดไทยไม่ได้ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต” ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตจีนเป็นอย่างมาก และเชื่อว่ากระตุ้นชาวจีนให้อยากมาไทยได้เช่นกัน แต่ช่วงที่ไทยกำลังปลุกความเชื่อมั่นเปิดเมืองต้อนรับนักท่องเที่ยวกลับเกิดคลิปข่าวลือแก๊งลักพาตัวและขโมยควักไตในไทยที่พุ่งเป้าไปที่นักท่องเที่ยวจีนและกลายเป็นไวรัล ในสื่อสังคมออนไลน์ของจีน รวมถึงความโด่งดังของภาพยนตร์ลอร์ดอินเดอะสตาร์ “เมียผมหายในหมู่ดาว”( Lost in the Stars) พูดถึงคดีอาชญากรรมในอาเซียนและโนมอเบส เข้าโรงฉายเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเนื้อหาเกี่ยวกับชาวจีนถูกแก๊งค้ามนุษย์หลอกมาทำงานที่ ศูนย์บงการอาชญากรรมแห่ง หนึ่ง พาดพิงว่าอยู่ในอาเซียนบางฉากเป็นภาพสถานที่คล้ายประเทศไทย  สื่อเหล่านี้ส่งผลต่อความรู้สึกของชาวจีนถึงความไม่ปลอดภัยหากจะเดินทางมาไทยผนวกกับเศรษฐกิจจีนที่ไม่เติบโตอย่างที่คาดการณ์ไว้ รัฐบาลจีนสนับสนุนให้ชาวจีนเที่ยวในประเทศทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางมาไทยหลังเปิดประเทศไม่ถึงครึ่งหนึ่งจากที่คาดหมายเอาไว้  มาตรการวีซ่าฟรีเข้าไทยชั่วคราว 5 เดือนเป็นมาตรการสำคัญที่รัฐบาลจะหยิบยกมาใช้เร่งการตัดสินใจของชาวจีนให้เดินทางมาไทยดีเดย์ เมื่อ 25 กันยายน 2566 หวังให้ทันวันหยุดยาว 12 วัน ต้นเดือนตุลาคม  เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ในสื่อออนไลน์ส่วนตัว ระบุว่ารายงานของซีเอ็นเอ็น ชาวจีนตอบรับนโยบายวีซ่าฟรี และมีข้อมูลจากผู้ให้บริการท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของจีน รายงานว่ายอดจองทริปมาไทยสูงกว่าเทศกาลวันชาติจีนปีที่แล้ว 20 เท่า จองโรงแรมในไทยมากขึ้นถึง 6,220% ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว  ข้อมูลนี้อาจยังไม่สอดคล้องหนักกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว กล่าวว่า ก็ต้องดูอีกทีช่วงเดือนพฤศจิกายน ตอนนั้นตัวเลขก็น่าจะดีขึ้น และคิดว่าก็น่าจะต้นต้นปีหน้า ไตรมาสที่ 3 ของปีหน้าน่าจะดีขึ้นอย่างเห็นผล ในส่วนของตอนนี้ก็ดีกว่าปกติอยู่แล้ว เพราะว่าปกติเนี่ยถ้าเราไม่ไปทำอะไรมีอะไรมากระตุ้นนักท่องเที่ยว ก็มีแค่กลุ่มที่เขาเดินทางเที่ยวปกติเท่านั้นที่มา บริษัททัวร์ฝั่งจีนก็เร่งโหมโปรโมตมากขึ้นและสามารถสื่อสารถึงลูกค้าได้ว่าเที่ยวไทยปลอดภัยสะดวกสบายและวีซ่าฟรี ท่ามกลางกระแสข่าวว่าจีนจะหันมาใช้มาตรการวีซ่าฟรีเปิดรับนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นเช่นกัน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของไทยเตรียมไปเยือนจีน 16 ถึง 19 ตุลาคม 2566 นี้ ภาคเอกชนคาดหวังว่าการหารือกับผู้นำจีนจะทำให้เกิดการผลักดันการท่องเที่ยวร่วมกัน ขณะเดียวกันยังต้องผลักดันความร่วมมือประเทศอื่นๆ ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวไปพร้อมๆ กับจีนด้วยเช่นกัน เรียบเรียงโดย : บ่าวหัวเสือ

ราคาทองคำและเงินบาท ประจำวันอังคารที่ 3 ตุลาคม 2566

ราคาทองคำสปอตปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ปิดตลาดที่จุดต่ำสุดของวัน 1,827 ดอลลาร์ ลดลง 20 ดอลลาร์หรือว่าลดลง 1% สะท้อนให้เห็นว่าแรงเทขายทองคำยังมีอย่างต่อเนื่องแล้วก็ยังมากอยู่  เมื่อคืนสหรัฐเปิดเผยดัชนีไอเอสเอ็มภาคการผลิตเดือนกันยายนออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เพิ่มขึ้น 49.0 มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 47.8  ผู้ว่าการเฟด มิเชล โบว์แมน แถลงสนับสนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยต่อถ้าเกิดเงินเฟ้อยังไม่ลดลง  เงินดอลลาร์เมื่อวานแข็งค่าขึ้นต่อ บอนด์ยีลด์ (Bond Yield) สหรัฐฯ อายุ 10 ปี แตะ 4.7%  ส่วนกองทุน SPDR เมื่อวานเข้ามาซื้อทองคำแต่ว่าน้อยมาก 1.44 ตันหลังจากที่ขายทองคำติดต่อกันมา 4 สัปดาห์ ตอนนี้ก็ถึงทองต่ำที่สุด นับตั้งแต่ เดือน มกราคม ปี 2020 คืนนี้สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร เดือนสิงหาคม ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 8.85 ล้านตำแหน่ง 3 เดือนที่ผ่านมาตัวเลขตรงนี้ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ช่วยหนุนทองคำได้รอบนี้มาลุ้นกันว่าจะออกมาดีกว่าหรือแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก็จะมีผลกับราคาทองคำอย่างแน่นอน แนวโน้มราคาทองคำสปอตเป็นขาลง ราคาทองคำปิดที่จุดต่ำสุดของวันมาหลายวันแล้ว ถึงแม้ว่าเครื่องมือทางเทคนิคจะส่งสัญญาณว่าขายมากเกินไปหรือโอโซ่ก็ยังไม่มีการรีบาวขึ้นไป 1,827 ดอลลาร์ ก็ยังมีโอกาสที่จะหลุดได้อยู่ แนวรับถัดไป 1,820 ดอลลาร์ และ 1,810 ดอลลาร์ ส่วนแนวต้าน 1,840 ดอลลาร์ และ 1,848 ดอลลาร์ ราคาทองแท่งของสมาคมเมื่อวานปรับเปลี่ยน 3 ครั้งขายออกช่วงเย็น 32,150 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันเสาร์ แนวรับ 32,000 บาท 31,900 บาท แนวต้าน 32,200 บาทและ 32,300 บาท  คำแนะนำการลงทุนหลายท่านอาจจะอยากเข้าซื้อลงทุนในทองแท่ง แนะนำทองคำยังเป็นขาลงอยู่อย่าพึ่งเข้าซื้ออาจจะดูที่ 1,800 ดอลลาร์ ถึง 1,810 ดอลลาร์ ค่อยเข้าชื้อสะสมบางส่วน […]

ราคาทองคำและเงินบาท ประจำวันจันทร์ที่ 2 ตุลาคม 2566

สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์ที่ไม่ส่งผลดีกับทองคำ ราคาทองคำปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 6 เดือน แตะที่ 1,810 ดอลล่าร์ มีแรงเทขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่อง คือตั้งแต่หลังการประชุมเฟดในวันที่ 19 ถึง 20 กันยายน 2566 ที่ผ่านมาที่เฟดจะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อแล้วก็จะตรึงดอกเบี้ยในระดับที่สูงยาวนานมากขึ้นกว่าเดิม ยังคงเป็นประเด็นที่มากดดันราคาทองคำในสัปดาห์ที่แล้วถือว่าเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำมากกว่าในช่วงที่ประชุมเฟด ก่อนหน้านั้นด้วย เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบ 10 เดือน บอนด์ยีลด์ (Bond Yield) สหรัฐฯ อายุ 10 ปีก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดในรอบ 16 ปี  สัปดาห์ที่แล้วประธานเฟดมีการกล่าวสนทนาในงานสำนักงานหนึ่ง แต่ว่าก็ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องทิศทางดอกเบี้ยแต่อย่างใด จำนวนผู้ขอว่างงานของอเมริกาสัปดาห์ที่แล้วออกมาดี เพิ่มขึ้นเป็น 204,000 รายน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เยอะมากสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังมีความแข็งแกร่งอยู่  ส่วนข้อมูลอื่นๆ GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 2 ขยายตัว 2.1% น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าใช้จะขยายตัว 2.2% ก็ไม่ได้มีผลกระทบกับทองคำเท่าไร  ส่วนวันศุกร์ตัวเงินเฟ้อพื้นฐานดัชนี PC พื้นฐานเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 3.9% เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ตัวเลขชะลอตัวลงจากที่เดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 4.3%  สำหรับเงินเฟ้อเดือนธันวาคมมีการปรับเพิ่มจาก 4.2% เป็น 4.3% กลายเป็นว่าไม่ได้ช่วยทองคำเท่าไหร่ ทองคำกลายเป็นสิ่งที่ต้องการสำหรับการป้องกันเงินเฟ้อในเมื่อเงินเฟ้อชะลอตัวลง คือ ปกติเฟ้อลดลงก็น่าจะดีกับทองคำ  ปัจจัยทางเทคนิคก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ทองคำลงแรงด้วยนะคะสัปดาห์ที่แล้วเนี่ยเกิดสัญญาที่เขาเรียกว่า Three Crows หรือ อีกา 3 ตัว ก็มีแรงเทขายอย่างออกมาอย่างต่อเนื่อง  กองทุน SPDR สัปดาห์ที่แล้วขายทองคำออกมาเป็นสัปดาห์ที่ 4 แล้วก็ขายออกมา 3.75 ตัน ถือทอง 873 ตันเป็นการถือทองต่ำที่สุดเลยนับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2563 วันศุกร์ราคาทองคำปิดตลาดที่ 1,848 ดอลล่าร์ ลดลง 16 ดอลล่าร์ ทั้งสัปดาห์ลดลงไป 76 ดอลล่าร์ สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ […]

ราคาทองคำและเงินบาทประจำวันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566

ราคาทองคำปรับตัวลงแรงทำจุดต่ำสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง ราคาทองคำสปอตยังคงปรับตัวลงแรงอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 หลุดแนวรับ 1,866 ดอลลาร์ ที่เป็นจุดต่ำสุดที่ทำไว้ในวันที่ 13 มีนาคม2566 ทำให้ราคาทองคำยังอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือนอยู่ ปิดตลาดเมื่อคืน 1,864 ดอลลาร์ ลดลง10 ดอลลาร์ พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี สูงขึ้นที่สุดในรอบ 16 ปีและเป็นปัจจัยที่กดดัน ราคาทองคำ  ในส่วนของตัวเลขจีดีพีสหรัฐประมาณการครั้งสุดท้ายขยายตัว 2.1% น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อยว่าจะขยายตัว 200,000 จำนวนผู้ขอสมัครงานออกมาดีทีเดียวเพิ่มขึ้นเพียง 2,000 รายเป็น 204,000 ราย น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะออกมา 214,000 ราย  ที่สำคัญน่าจะเป็นการแถลงของประธานเฟด ช่วงตี 3-4 เวลาประเทศไทย ปรากฏว่าไม่ได้มีการพูดถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยแต่อย่างใด  ส่วนกองทุนเอสพีอาร์โกพลัสถือครองทองเท่าเดิม คืนนี้ติดตามอัตราเงินเฟ้อเป้าหมายของเฟด คือ ดัชนีพีซีอีพื้นฐานเดือนสิงหาคม ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือนและเพิ่มขึ้น 3.9% เมื่อเทียบรายปี ดูเหมือนจะชะลอตัวลงหลังจากที่เดือนก่อนเพิ่มขึ้น 4.2% มีลุ้นเหมือนกันว่าช่วยหนุนทองคำได้ ส่วนตัวเลขอื่นๆอีก 2 ตัว ดัชนี พีซีอีพื้นฐาน เขตชิคาโกเดือนกันยายนตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลงเหลือ 47.5% และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกันยายนตลาดคาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ 67.7% แนวโน้มราคาทองคำแน่นอนว่าเป็นขาลงชัดเจน ทองคำปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง หลุด 1,866 ดอลลาร์ที่เป็นจุดต่ำสุดของทองคำที่ทำไว้วันที่ 13 มีนาคม 2566 อย่างไรก็ดีเครื่องมือทางเทคนิคอาร์เอสไอเริ่มส่งสัญญาณว่าขายมากเกินไปแล้วขนาดเดียวกันอาจจะรีบาวน์ในวันนี้แล้วถ้าเกิดได้อัตราเงินเฟ้อเป้าหมายเดือนสิงหาคมของสหรัฐถ้าออกมาชะลอตัวลงก็น่าจะช่วยหนุนราคาทองคำได้  แนวรับ 1,857 และ 1,850 ดอลลาร์ แนวต้าน 1,870 ดอลลาร์และ 1,880 ดอลลาร์ ราคาทองแท่งเมื่อวานปรับเปลี่ยน 2 ครั้ง ขายออกช่วงเย็น 32,650 บาท ลดลง 200 […]

1 4 5 6 7 8 24