ราคาเงินบาทและทองคำ ประจำวันจันทร์ที่ 9 ตุลาคม 2566

สัปดาห์ก่อนหน้านี้ทองคำปรับตัวลงแรงทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ปัจจัยลบมาจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี บอนด์ยีลด์ สหรัฐอาเมริกาอายุ 10 ปี ก็ปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 16 ปี แตะที่4.88% ซึ่งตลาดก็ยังกังวลเรื่องเดิม ในเรื่องของเฟดน่าจะเป็นดอกเบี้ยในระดับสูงที่ยาวนานมากขึ้น 

ขณะที่ตลาดแรงงานของอเมริกาก็ยังแข็งแกร่งตัวเลขออกมาดีเกือบทุกตัว ยกเว้นการจ้างงานภาคเอกชน จำนวนตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัครเดือน สิงหาคม เพิ่มขึ้นเป็น 9.61 ล้าน ตำแหน่ง มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้จำนวนผู้ขอการว่างงาน ตัวเลขก็ออกมาน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ตัวเลขจริง 207,000 ราย

ส่วนวันศุกร์ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรนอนฟาร์มเฟโร เดือนกันยายน ออกมาเซอร์ไพรส์ทีเดียวเพิ่มขึ้น 336,000 ตำแหน่ง มากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เยอะ ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 171,000 ตำแหน่ง

ทองคำวันศุกร์มีเห็นย่อตัวลงไปที่ 1,810 ดอลลาร์ แต่ในที่สุดก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาปิดตลาดคืนวันศุกร์ ที่ 1,832 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 12ดอลลาร์แต่ทั้งสัปดาห์นี้ลดลง 15 ดอลลาร์

ทางด้านกองทุน SPDR ยังคงขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 5 ขายทองคำออกมา 7.79 ตัน แล้วก็ถือทอง 865.85 ตัน ถือว่าต่ำที่สุดเลยนับตั้งแต่ เดือน สิงหาคม ปี 2562

ประเด็นที่ต้องติดตาม วันเสาร์ที่ผ่านมามีสงครามระหว่าง อิสราเอลและฮามาส เมื่อเช้าวันเสาร์ กลุ่มฮามาส มีการโจมตีอิสราเอลระดมยิงจรวดหลายพันลูกจากฉนวนกาซาแล้วก็มีการส่งกองกำลังติดอาวุธเข้าไปแทรกซึมทางภาคใต้ของอิสราเอล อิสราเอลก็โจมตีกลับ ส่งเครื่องบินถล่มแล้วก็ประกาศสงครามกับกลุ่มฮามาส

ประเด็นตรงนี้คงส่งผลบวกกับราคาทองคำเนี่ยแน่นอน เวลาเกิดสงครามขึ้นก็จะมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ต้องติดตามต่อไปว่าประเด็นตรงนี้ อิหร่านนั้นเป็นกลุ่มสนับสนุนกลุ่มฮามาสหรือไม่อย่างไรถ้าใช่ก็อาจจะโดนคว่ำบาตรแล้วก็จะกระทบกับอุปทานราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันเมื่อเช้านี้พุ่งขึ้นกว่า 4% จากประเด็นตรงนี้ แล้วก็ถ้าเกิดสงครามขึ้นก็จะกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก เศรษฐกิจไม่ดีเกิดความไม่แน่นอนก็จะมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ส่วนประเด็นอื่นๆที่ต้องติดตาม มีการเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดในคืนวันพุธการแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดและสุดท้ายก็คือเงินเฟ้อของสหรัฐเดือน กันยายน เมื่อวันพุธ เป็นPPI (ดัชนีราคาผู้ผลิต) แล้วก็วันพฤหัสบดีเป็น CPI( ดัชดีราคาผู้บริโภค)ของเดือนกันยายน

แนวโน้มราคาทองคำคาดว่าจะปรับตัวขึ้น กับเรื่องประเด็นสงครามอิสราเอล ฮามาส ที่ประเมินไว้ว่าคงจะมีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แล้วก็ราคาทองคำก็ลงไปเยอะปรับตัวลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือน 

ในส่วนทางด้านของเทคนิคเห็นมีแรงซื้อกลับเข้ามาแล้ว ตั้งแต่วันศุกร์ ทองคำให้

แนวรับ 1,830 ดอลลาร์ และ 1,820 ดอลลาร์

แนวต้าน 1,850 ดอลลาร์ และ $1,860 ดอลลาร์

สำหรับทองแท่งขายออกวันเสาร์ 32,050 บาท เพิ่มขึ้น 100 บาท

แนวรับ 32,100 บาท 32,000 บาท

แนวต้าน 32,300 บาทและ 32,400 บาท

กลยุทธ์การลงทุน ไม่ว่าจะมีทองแท่งหรือฟิวเจอร์ถือต่อไปได้ แล้วถ้าทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นเราก็รอดูแล้วกันว่าถ้าเริ่มมีแรงเทขายเราก็อาจจะขายตามก็ได้

โกลด์ฟิวเจอร์ถ้าอยากเข้าซื้อเก็งกำไร จริงๆ ถามว่าจะมีปรับฐานลงมาใกล้ 1,830 ดอลลาร์ ให้เห็นหรือไม่ก็อาจจะไม่ถึง ให้เผื่อไว้ถ้าเกิดมีการปรับฐานลงมาก็ซื้อเก็งกำไรที่ 1,830 ดอลลาร์ คัทลอส 1820 ดอลลาร์ โกล์ไลน์ฟิวเจอร์ซื้อเก็งกำไร ที่ 1,857 ดอลลาร์ คัทลอส 1,850 ดอลลาร์

ส่วนเงินบาทสัปดาห์ที่แล้วอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 1 ปี ทะลุ 37 บาทแตะ 37 บาท 24 สตางค์ สัปดาห์ที่แล้วอ่อนค่า รวม 40 สตางค์ ถึงแม้ว่าวันศุกร์อาจจะเห็นมีแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยก็ตาม วันศุกร์ปิดอยู่ประมาณ 36 บาท 90 สตางค์

แนวโน้มเงินบาทน่าจะอ่อนค่าลงได้ต่อแล้วก็ให้

แนวรับ 36 บาท 80 สตางค์

แนวต้าน 37 บาท 20 สตางค์

สำหรับการลงทุนในยูเอสดีฟิวเจอร์สตัวนี้อาจจะมีต่ำกว่าเงินบาทจริงๆ ประมาณ 33 สตางค์ เทดดิ้งตามกรอบได้ 36 บาท 50 สตางค์ ถึง 36 บาท 90 สตางค์

เรียบเรียงโดย : บ่าวหัวเสือ

ร่วมแสดงความคิดเห็น