อย่าประมาท !! ปีนี้คนไทยป่วยไข้หวัดใหญ่ 1.5 แสนราย และเสียชีวิต 10 รายแล้ว

สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่ 1 ม.ค.62 – 8 พ.ค.62 มีรายงานผู้ป่วยทั่วประเทศ จํานวน 152,185 ราย เสียชีวิต 10 ราย โดยผู้ป่วยสวนใหญ่คือกลุ่มเด็กเล็กอายุ ไม่เกิน 9 ปี

โรคไข้หวัดใหญ่ เกิดจากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งก่อให้เกิดอาการ ไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก คัดจมูก รู้สึกอ่อนเพลีย ครั่นเนื้อครั่นตัว หรือปวดเมื่อยตามร่างกาย แต่ละปีจะมีประชาชนทั่วโลกติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ซึ่งบุคคลทุกเพศ ทุกวัย สามารถป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ได้ โดยพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่มากที่สุดในฤดูฝน รองลงมามาคือในฤดูหนาว
โรคไข้หวัดใหญ่มาจากไหน?
-ผู้ป่วยไอหรือจาม ละอองฝอยขนาดเล็กของน้ำลาย หรือน้ำมูกจะล่องลอยในอากาศ และปลิวเข้าสู่ปากหรือจมูกของผู้ที่อยู่ใกล้ หากสูดหายใจเข้าไป ทำให้ละอองฝอยเล็กๆ เหล่านี้ลงสู่ปอดได้
-มือสัมผัสถูกน้ำลายหรือน้ำมูกของผู้ป่วย เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได โต๊ะ เสื้อผ้า เมื่อไม่ได้ล้างมือให้สะอาดแล้วใช้มือจับจมูกและปากของตนเอง ทำให้สามารถติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้

อาการของโรคไข้หวัดใหญ่
-มีไข้
-ไอ เจ็บคอ
-คัดจมูก มีน้ำมูก
-ครั่นเนื้อครั่นตัว
-อ่อนเพลีย หรือเหนื่อยมากขึ้น
-ปวดศีรษะ
-หนาวสั่น
-ปวดเมื่อยตามร่างกาย
การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
1. ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกปี
2. หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่
3. ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสบู่ หากไม่มีให้ใช้แอลกอฮอล์เจล (Alcohol Gel) สำหรับล้างมือแทน
4. หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณดวงตา จมูก หรือปาก เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ สามารถติดต่อได้ตามช่องทางเหล่านี้
5. ควรใส่หน้ากากอนามัย

การดูแลตนเองและคนใกล้ชิด เมื่อเป็นโรคไข้หวัดใหญ่
1. เมื่อเริ่มรู้สึกป่วย ให้หยุดอยู่บ้าน เพื่อลดการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่น
2. ปิดจมูกและปากด้วยผ้า หรือกระดาษทิชชู เวลาไอหรือจาม
3. ทิ้งกระดาษทิชชูที่ใช้แล้ว ลงถังขยะติดเชื้อ
4. ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำสบู่ หากไม่มีให้ใช้แอลกอฮอล์เจล (Alcohol Gel) สำหรับล้างมือแทน
5. เข้ารับการรักษาและรับประทานยา ตามคำสั่งแพทย์
6. สามารถกลับไปดำเนินชีวิตได้ตามปกติ หลังจากหายไข้แล้วอย่างน้อย 1 วัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น