ไปชิมสุดยอดทุเรียน “หลงลับแล” ที่อุตรดิตถ์

สวนผลไม้ที่อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์เป็นสวนผลไม้ที่ไม่เหมือนสวนผลไม้ มันเป็นเหมือนป่าอันอุดมด้วยแมกไม้ ผลไม้นานาชนิดที่ขึ้นแซมกันได้อย่างสมบูรณ์ และเรียกว่าในประเทศไทยมีที่นี่ที่เดียวก็ว่าได้ ใครจะคิดว่า ผืนป่าสีเขียวขจีที่ขึ้นปกคลุมดอยทั้งลูกนั้น เมื่อเข้าไปใกล้ ๆ กลับพบว่า แท้ที่จริงมันคือสวนผลไม้นั่นเอง ด้วยพื้นที่กว้างหลายร้อยไร่ กลางหุบเขาที่แวดล้อมด้วยความเขียวขจีมีทั้งทุเรียน มังคุด ลางสาด ลองกอง ขึ้นสลับกันตามไหล่เขา จนเมื่อมองดูราวกับเป็นผืนป่าขนาดมหึมา
แต่การมีพื้นที่กว้างก็ไม่ได้มีความหมายอะไร ถ้าไร้สภาพแวดล้อมและการจัดการที่ดี จุดเด่นของสวนผลไม้ลับแลก็คือ สวนทั้งสวนจะปลูกผลไม้หลายชนิดปะปนกัน ทำให้ดูราวกับว่าเป็นสวนป่า นอกจากนั้นบริเวณพื้นดินยังมีพืชสมุนไพรขึ้นปกคุลม อันเป็นการสร้างความสมดุลให้กับระบบนิเวศในบริเวณนี้เป็นอย่างดี การเข้าไปสัมผัสสวนเกษตรกลางขุนดอยแห่งอำเภอลับแล จะแตกต่างจากสวนผลไม้ทั่ว ๆ ไปที่มักจะปลูกอย่างเป็นระเบียบ เป็นแถวเป็นแนว มีการทำนุบำรุงใส่ปุ๋ย ฉีดยาฆ่าแมลง

แต่ที่ลับแลจะปลูกเหมือนเป็นสวนป่า ดังนั้นเมื่อเราเข้ามาจะพบว่าต้นลางสาดที่ขึ้นสูงชะลูดนั้น เป็นความพยายามของธรรมชาติที่ต้องแทงยอดขึ้นไปรับแสงแดดแข่งกับต้นมังคุดที่ขึ้นอยู่ใกล้ ๆ ขณะที่ต้นทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองทว่ากับออกผลเป็นหมอนทองเฉยเลย เพียงเพราะเกษตรกรผู้ปลูกได้นำเอากิ่งทุเรียนพันธุ์หมอนทองมาทาบกับกิ่งเดิม อันเป็นเทคนิคด้านการเกษตรที่ทำให้ได้ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง โดยไม่ต้องเสียเวลาปลูกใหม่ ภูมิปัญญาเช่นนี้เราจะพบได้ในสวนผลไม้ที่ลับแล
ด้วยความสมบูรณ์ของสวนป่าผลไม้ กว่าร้อยไร่มีเส้นทางเดินลัดเลาะไปตามไหล่เขาได้หลายเส้นทาง ผ่านสวนโน้น ทะลุสวนนี้ ราวกับไยแมงมุม ซึ่งแม้แต่ไกด์ผู้นำทางยังพาเราหลงทางในบางครั้ง นี่จึงเป็นที่มาของคำว่า “ลับแล” ดินแดนปริศนาที่ใช่ว่าเมื่อเข้าไปแล้วจะออกมาได้ง่าย ๆ

ภายหลังกระแสท่องเที่ยวเชิงเกษตรได้รับความสนใจขึ้นมา ทำให้หลายฝ่ายหันกลับมาทบทวนถึงการโปรโมทแหล่งท่องเที่ยวใกล้บ้าน ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอีกทางหนึ่ง และดูเหมือนว่าสวนผลไม้ลับแลจะเป็นทางเลือกใหม่ในการท่องเที่ยวซึ่งกลายมาเป็นแรงดลใจ ที่ทำให้เกษตรอำเภอลับแลมีแนวคิดที่จะเปิดแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรในสวนผลไม้
สวนผลไม้ลับแลมีความอุดมสมบูรณ์และเหมาะสมมากที่จะเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร โดยทางสำนักงานเกษตรอำเภอลับแลได้ร่วมกับชาวบ้านต้นเกลือ ได้จัดตั้งคณะกรรมการศูนย์บริการท่องเที่ยวเชิงเกษตรขึ้นมา นอกจากนั้นยังได้จัดทำเส้นทางเดินท่องเที่ยวในสวนผลไม้ ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร สำหรับนักท่องเที่ยวท่านใดที่อยากจะพักแรมด้วยทางสำนักงานเกษตรอำเภอลับแลยังจัดบ้านพักแบบโฮมสเตย์ไว้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
เมื่อนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวในสวนผลไม้ก็สามารถเลือกเด็ดกินได้ตามชอบใจชอบทั้ง มังคุด ทุเรียน ลางสาด ลองกอง นอกจากนั้นยังสามารถพบเห็นวิถีชีวิตของเกษตรกรชาวสวนในการเก็บผลไม้ หรือจะเข้าไปมีส่วนร่วมในการเก็บผลผลิตก็ไม่ว่ากัน
ผลไม้ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและถือเป็นสุดยอดทุเรียนของอำเภอลับแล ได้แก่ ทุเรียนพันธุ์หลงลับแล และพันธุ์หลินลับแล ซึ่งออกผลราวเดือนมิถุนายนของทุกปี เป็นทุเรียนที่มีเนื้อนุ่มเมล็ดในบางเล็ก บางคนบอกว่าเนื้อทุเรียนพันธุ์หลงลับแลนั้นรสชาติหอมหวาน เหมือนกับการได้รับประทานนมข้นหวานก็ปานนั้น นอกจากนั้นสวนทุเรียนยังมีทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ซึ่งพัฒนาสายพันธุ์มาจากพันธุ์หมอนทองของจังหวัดจันทบุรี และยังมีสวนลองกองที่ออกลูกเต็มต้นอีกด้วย
ผมดีใจที่เห็นสวนผลไม้ ไม่ได้เป็นแค่สวนผลไม้ เมื่อพอให้ผลผลิตทีคนก็แห่กันมาเที่ยวมากิน หลังจากนั้นก็เงียบเหงากันไปอีก 9 – 10 เดือน วันนี้คุณค่าของมันไม่ได้อยู่ที่ผลไม้ลูกสุกในสวน หากแต่เป็นการแบ่งปันการเรียนรู้ว่า “คน” กับ “ธรรมชาติ” นั้นสามารถอยู่ร่วมกันได้ ที่สำคัญนอกจากจะเป็นการสร้างทักษะให้กับชีวิตแล้ว ยังสร้างวิสัยทัศน์ใหม่ ๆ ให้เราอีกด้วย วิสัยทัศน์อันกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ธรรมชาติ

บทความโดย
จักรพงษ์ คำบุญเรือง

ร่วมแสดงความคิดเห็น