กกท.จ่อคว้าลิขสิทธิ์ จัดกีฬาใหญ่ระดับโลก ดึงเอกชนร่วม 5 รายการ

กกท.จ่อคว้าลิขสิทธิ์จัดกีฬาใหญ่ระดับโลก ดร.ก้อง นายใหญ่กีฬาค่ายหัวหมาก เผย กกท. จ่อคว้าลิขสิทธิ์ 5 มหกรรมกีฬาระดับทวีปและโลก อาทิ โอลิมปิก และพาราลิมปิก 2020, เอเชียนเกมส์ และเอเชียนพาราเกมส์ 2022 รวมถึงโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ชี้กำลังเจรจากับเจ้าของลิขสิทธิ์ คาดใช้เม็ดเงินจากภาครัฐลงทุน รวมถึงเตรียมผนึกภาคเอกชนที่ร่วมลงขัน
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เวลานี้การกีฬาแห่งประเทศไทยกำลังดำเนินการเจรจาเพื่อขอซื้อและเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์มหกรรมกีฬารายการใหญ่ระดับทวีปและโลกในประเทศไทย อย่าง ศึกเอเชียนเกมส์ กับเอเชียนพาราเกมส์ 2022 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน และศึกโอลิมปิกเกมส์ กับพาราลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่กรุงปักกิ่ง ของจีน
”บิ๊กก้อง” ยังกล่าวอีกว่า กระบวนการต่างๆ ยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์ โดยเหลือกระบวนเจรจาและดูในเรื่องรายละเอียดข้อสัญญา รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ อยู่ ซึ่งก็คาดว่าอาจะได้เกมกีฬาในมหกรรมอื่นที่เจ้าของลิขสิทธิ์อาจจะพ่วงแถมมาด้วยในลิขสิทธิ์ที่เราจะเข้าไปซื้อ ส่วนแหล่งเม็ดเงินที่จะนำมาใช้ ทาง กกท. จะขอรับการอนุมัติงบกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ และจะมีการเปิดให้ภาคเอกชนร่วมลงขันด้วย

”ในมหกรรมกีฬาที่ผ่านๆ มา ไม่ว่าจะเป็นโอลิมปิกเกมส์ 2016 ต่อด้วยพาราลิมปิกเกมส์ 2016 รวมไปถึงฟุตบอลโลก 2018 เราค่อนข้างมีปัญหาในเรื่องของการซื้อ-ขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดมหกรรมกีฬาเหล่านี้มาโดยตลอด โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่กล้าดำเนินการซื้อลิขสิทธิ์เพราะเกรงว่าจะไม่คุ้มทุน”

ดร.ก้อง กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กกท. องค์กรกีฬาที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และรัฐบาล ก็จะเข้าไปช่วยติดต่อประสานในเรื่องลิขสิทธิ์กีฬาเหล่านี้ เพื่อให้แฟนๆ กีฬาคนไทยได้ดูได้ชมกันตามกฎ ”มัสต์แฮฟ” 7 มหกรรมกีฬาที่คนไทยต้องได้ดู และในครั้งนี้ กกท. ต้องการรีบเข้าไปดำเนินการในเรื่องนี้ เพราะไม่อยากให้เกิดความคลุมเครือหรือไม่ชัดเจนเหมือนกับเหตุการณ์ที่ผ่านๆ มา โดยคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะได้ข้อสรุปทั้งหมด

ร่วมแสดงความคิดเห็น