สนามดวลแข้งทั้ง 4 สนาม ในศึกลูกหนังเอเซีย ยู 23 ปี ต้องเร่มซ่อมแซมให้เสร็จทัน

ความคืบหน้าการที่ประเทศไทย เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ซึ่งกำหนดจัดต้นปีหน้า รายการนี้คัดตัวแทนทวีปเอเชีย ไปแข่งขันฟุตบอลโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น
ทั้งนี้ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย(เอเอฟซี) ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบสนามที่เตรียมแข่งขัน เมื่อปลายเดือน พ.ค. ได้ตรวจ 4 สนามคือ สนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี, สนามภายใน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, ราชมังคลากีฬาสถาน และ ติณสูลานนท์ จ.สงขลา
ซึ่ง จิน โฮ ยุน หัวหน้าคณะตรวจสนาม ระบุว่า ในเดือน ต.ค. จะมาตรวจเป็นครั้งสุดท้าย หากมีความเป็นไปได้ที่สนามจะเสร็จไม่ทันเวลา เอเอฟซีมีสิทธิ์เลือกสนามใหม่ในไทย และหากไม่มีสนามใดในไทยพร้อม สิทธิการเป็นเจ้าภาพจะถูกริบคืน
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย
เอเอฟซี ได้แจ้งข้อมูลไปยังแต่ละสนามแล้ว ว่าต้องปรับปรุงอะไรบ้าง ทั้งนี้การเลือกสนามของไทย ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) มีความประสงค์จะใช้สนามที่อยู่ภายใต้การดูแล เพื่อนำงบประมาณที่ได้อนุมัติจาก บอร์ด กกท.ไปปรับปรุง ซ่อมแซมให้ได้มาตรฐาน เพราะหลังจากใช้แข่งขันชิงแชมป์เอเชียแล้ว จะใช้ประโยชน์อื่นต่อไป ซึ่ง ราชมังคลากีฬาสถาน กับ สนามสมโภชเชียงใหม่ นั้น อยู่ในความรับผิดชอบดำเนินการปรับปรุงจาก กกท. รวมทั้งสนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา ก็อยู่ในโครงการปรับปรุงด้วย
ประมุขลูกหนังไทย พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อไปว่า ส่วนสนามภายใน ม.ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้ทราบมาว่า มีงบประมาณซ่อม 5 ล้านบาท จุดต้องปรับคือไฟส่องสว่าง สนามนี้ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของ กกท. จึงนำงบมาไม่ได้ ขณะที่สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา เอเอฟซี ค่อนข้างพอใจมากกับการตรวจไปล่าสุด และทราบว่าองค์กรบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้นำงบประมาณปรับปรุงแล้ว ตนจึงไม่ห่วงความพร้อมของ สนามติณสูลานนท์
บิ๊กอ๊อด กล่าวต่อไปว่า ต้องบอกว่า เอเอฟซี ยังไม่ได้ลงนามสัญญากับประเทศไทย และจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจขั้นสุดท้ายอีกครั้ง ซึ่งผู้รับผิดชอบแต่ละสนาม ต้องปรับให้อยู่ในระดับที่เอเอฟซีพอใจ จึงจะมีการเซ็นสัญญา แต่หาก เอเอฟซี เห็นว่า ทำไม่ได้อย่างที่ต้องการ ทาง เอเอฟซีมีสิทธิ์ย้ายสนาม หรือขั้นต่อไปคือริบสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพ
“ถ้าถึงขั้นริบสิทธ์การเป็นเจ้าภาพ จะส่งผลเยอะ นอกจากไทยไม่ได้จัดรายการนี้แล้ว ข้อต่อไปคือทีมชาติไทยจะไม่ได้เล่นรอบสุดท้ายในฐานะเจ้าภาพ เพราะผลงานในรอบคัดเลือก เราตกรอบ หมดโอกาสลุ้นไปโอลิมปิกเกมส์ และยังส่งผลถึงความเชื่อมั่น
กระทบการร่วมมือกับเมียนมา ขอเป็นเจ้าภาพฟุตบอล 20 ปี ชิงแชมป์โลก ปี 2021 แน่นอน ดังนั้นผู้รับผิดชอบแต่ละสนาม ต้องเร่งปรับปรุงให้ได้ตามมาตรฐาน ช่วงวันที่ 26-27 ก.ย. ที่มีการจับสลากแข่งขัน  ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต้องนำเสนอสนามแข่งขันและโรงแรมที่พักแก่ชาติสมาชิกที่เข้าร่วมการแข่งขันด้วย
ด้าน “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. กล่าวถึงความคืบหน้าการปรับปรุงราชมังคลากีฬาสถาน รองรับศึก 23 ปี เอเชีย ว่า อยู่ในระหว่างการทำตามขั้นตอน ซึ่งได้ผู้รับเหมาที่จะเข้ามาซ่อมแซมสนามแล้ว เพื่อปรับปรุงสนามให้ได้ทันเวลา นอกจากนี้กกท. กับ สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คุยกันอย่างต่อเนื่อง ติดตามงานตลอดเวลา และจะสามารถรายงานความคืบหน้าให้กับคณะตรวจสนามของเอเอฟซีในเดือน ต.ค.62 นี้

ร่วมแสดงความคิดเห็น