(มีคลิป) ตำรวจภาค 5 จับผู้ต้องหาปลอมไลน์หลอกยืมเงิน ได้แล้ว 1 ยังหลบหนี 1

เมื่อเวลา 09:00 น วันที่ 15 กค 62 ที่กองบังคับการตำรววจ สืบสวน ภาค 5 พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผบก.สส.ภ.5 พ.ต.อ.ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย รอง ผบก.สส.ภ.5 พร้อมกับพวกสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหา ปลอมไลน์หลอกยืมเงินผู้อื่นได้แล้ว นำตัวมาสอบปากคำที่กองบังคับการสืบสวนภาค 5 โดย พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผบก.สส.ภ 5 และ พ.ต.อ.ธวัชชัย วิวัฒน์พงษ์ รอง ผบก สส.ภ 5 ทำการสอบปากคำด้วยตนเอง ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผบก.สส.ภ.5 ได้เปิดเผยว่า ทางตำรวจสืบสวนภาค 5 ได้รับการร้องเรียนจากนายอภินันท์ ศรีมาลา ผู้เสียหายว่าถูกคนร้้ายไม่ทราบเป็นผุ้ใดทำการปลอมแอพพลิเคชั่นไลน์อ้างว่าเป็นนายบิ๊กรุ่นพี่ที่รู้จักกันมานาน คนหนึ่งแอคเข้ามาคุยและหลอกยืมเงินจำนวน 200,000 บาท โดยให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารที่คนร้ายส่งให้ ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าว จากนั้นคนร้ายได้ออกจากระบบแอบพลิเคชั่นหนีหายไป ภายหลังผู้เสียหายได้ติดต่อสอบถามไปยังนายบิ๊กรุ่นพี่ที่รู้จักกันคนดังกล่าว จึงทราบว่าถูกคนร้ายหลอกเอาเงินไป จึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.ช้างเผือก เชียงใหม่ และมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศตำรรจภูธรภาค 5 เพื่อขอให้ทำการสืบสวนหาตัวคนร้ายในคดีนี้

ทางตนจึงงได้สั่งการให้ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศตำรวจภูธภาค 5 ทำการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจนทราบตัวคนร้ายและขออนุมัติศาลจังหวัดเชียงใหม่ ขอหมายจับผู้ต้องหา ทราบชื่อต่อมาว่า นายสิทธิพงษ์ พรมธาดา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเดิมเลขที่ 346 หมู่ 3 ต.บ้านแลง อ.เมือง จ.ลำปาง ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 444/2562 ลงวันที่ 12 กค 62 และนยบุญเป็ง พรมธาดา อายุ 52 ปี อยู่บ้านเดียวกัน ตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่เลขที่ 443/2562 ลงวันที่ 12 กค 62 โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซี่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
ต่อมาเมื่อวันที่ 14 กค 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามจับกุมตัวนายสิทธิพงษ์หรือโอ๋ พรมธาดา ได้บริเวณลานจอดรถปั๊มน้ำมัน ปตท.หมู่ 6 บ้านปงวัง ต.พิชัย อ.เมือง จ.ลำปาง หลังทำการจับกุมนายสิทธิพงษ์ พรมธาดา ให้การว่าตนเองรู้จักกับนายบิ๊กรุ่นพี่ที่ถูกแอบอ้างชื่อและรู้จักกับนายอภันันท์ ศรีมาลา ผู้เสียหายในคดีนี้จริง รับว่าเป็นคนปลอมแอพพลิเคชันไลน์และเอาเงินของผู้เสียหายไปจริงและใช้ไปหมดแล้ว

ส่วนผู้ต้องหาอีกคนคือนายบุญเป็ง พรมธาดา ยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัว โดยพฤติกรรมของผู้ต้องหาทั้งสองนั้น จากการสืบสวน นายสิทธิพงษ์ พรมธาดา จะทำการสร้าง ไลน์ปลอมเป็นรุ่นพี่ของผู้เสียหาย จากนั้นจะแชทหลอกยืมเงิน 200,000 บาท โดยให้โอนไปที่บัญชีของนางสาว ณัฐริกาฯ ผู้เสียหายหลงเชื่อก็จะโอนเงินไป 200,000 บาท เข้าบัญชีของ นส.ณัฐริกา นางสาวณัฐริกา ซึ่งเป็นลูกสะใภัของนายบุญเป็ง พรมธาดา ผู้ต้องหา โดยนายบุญเป็งจะแซทเฟสบุ๊ซ หลอกนางสาวณัฐริกา ให้ส่งเลขบัญชีของลูกสะใภ้ ไปให้ และให้เหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีและให้นางสาวณัฐริกา โอนเงินกลับมาในบัญชีของตนเอง โดยนางสาวณัฐริกา จะไม่รู้เลยว่า เงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีของตนเองนั้นเป็นเงินของผู้เสียหาย และนางสาวณัฐริกา ก็จะโอนเงินกลับไปให้กับนายบุญเป็ง ทางตำรวจตรวจดูแล้ว ผู้ต้องหารายนี้มี 2 คน ส่วนนางสาวณัฐริกา นั้นถือว่าไม่มีส่วนรู้เห็นด้วยถูกหลอกเงินผ่านบัญชีเท่านั้น

พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ผบก.สส.ภ.5 ได้เปิดเผยอีกว่า ทางตำรวจภูธรภาค 5 ขอเตือนประชาชนให้ตรวจสอบดูให้แน่ใจก่อนที่จะให้เพื่่อนยืมเงินผ่านแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ โดยมีข้อสังเกตุ ให้ดูว่าประวัติการสนทนามาก่อนหรือไม่ หากเราคุยกับเพื่อนบ่อย ๆ แต่อยู่ ๆ เพื่อนคนเดิมมาทักแต่ปรากฏว่าไม่มีประวัติการสนทนา ลองเข้าไปตรวจสอบตรงโปรไฟล์หรือไทม์ไลน์ว่ามีประวัติของเพื่อนเราหรือไม่ หรือลองค้นหาหาชื่อเพื่อนของเราในระบบว่ามีชื่อซ้ำกันหรือเปล่่าเพราะอาจมีบางอันเป็นของจริงและบางอันเป็นของปลอมได้, ไม่ควรโอนเงินให้นกว่าจะได้รับการยืนยันตัวตนเช่น การโทรศัพท์หาผ่านเบอร์โทรหรือการเปิดกล้องดูหน้าผ่่านทางระบบโปรแกรมนั้น ๆ เป็นต้น สุดท้าย หากเป็นมิจฉาชีพเบอร์บัญชีหรือหมายเลขบัญชีมักจะไม่ใช่ชื่อของเพื่อนเรา

ร่วมแสดงความคิดเห็น