“จาย” เบิ้ลแชมป์คีรินที่อิตาลี ฉลองรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม “เสธ.หมึก” ชี้มีลุ้นโควต้า อลป.

“จาย” คว้าดับเบิ้ลแชมป์คีริน ในศึกจักรยานประเภทลู่ ที่ประเทศอิตาลี ฉลองตำแหน่งนักกีฬาสมัครเล่นชายยอดเยี่ยมของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย เจ้าตัวสุดปลื้มได้คะแนนสะสมเพิ่ม 200 คะแนน อันดับโลกน่าจะขยับจากอันดับที่ 35 ขึ้นไปอยู่ที่ 30 ด้าน “เสธ.หมึก” มั่นใจ “จาย” ได้สิทธิ์ลงแข่งขันรายการ เวิลด์ คัพ ซีรีส์ ทั้ง 5 สนาม เป็นโอกาสที่จะเก็บแต้มลุ้นโควต้าไปโอลิมปิกเกมส์ 2020

“เสธ.หมึก” พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการที่ “ทีเจ” จาย อังค์สุธาสาวิทย์ นักปั่นประเภทลู่ทีมชาติไทย ซึ่งไปเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก ของสหพันธ์จักรยานนานาชาติ (ยูซีไอ) ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเพิ่งได้รับรางวัลนักกีฬาสมัครเล่นชายยอดเยี่ยม ของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันเสาร์ที่ 20 ก.ค. ที่ผ่านมา ล่าสุด จาย ทำผลงานได้อย่างสุดยอด ด้วยการคว้า 2 แชมป์ คีริน ประชาชนชาย จากการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ 2 รายการใหญ่ ที่ประเทศอิตาลี ถือเป็นการฉลองตำแหน่งนักกีฬาสมัครเล่นชายยอดเยี่ยม ที่เพิ่งได้รับมาหมาด ๆ

พล.อ.เดชา กล่าวต่อไปว่า ทั้งสองรายการ จาย ลงแข่งขันในนามทีมศูนย์ฝึกจักรยานโลก โดยได้แชมป์คีริน ประชาชนชาย รายการแรก จากการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ “3° อินเตอร์เนชั่นแนล พิเซโน สปรินท์ คัพ” ที่เวลโลโดรม เมืองอัสโคลี ประเทศอิตาลี เมื่อกลางดึกของคืนวันศุกร์ที่ 19 ก.ค. ตามเวลาในประเทศไทย ส่วนรายการที่สอง ได้จากรายการ “2° กรังด์ ปรีซ์ ซิตตา ดิ อัสโคลี พิเซโน” เมื่อกลางดึกของคืนวันเสาร์ที่ 20 ก.ค. ที่เวลโลโดรม เมืองอัสโคลี เช่นกัน

สำหรับการแข่งขันรายการ “2° กรังด์ ปรีซ์ ซิตตา ดิ อัสโคลี พิเซโน” นั้น จาย ผ่านรอบแรกด้วยการคว้าอันดับ 1 ในฮีตที่ 3 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศสำเร็จ ในขณะที่ “เปตอง” วรยุทธ คะปัญญา นักปั่นทีมชาติไทยอีกคนที่เก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก ต้องขี่รอบแก้ตัว แต่ก็ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเช่นกัน และทั้งสองหนุ่มไทยก็ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศได้ทั้งคู่ ส่วนการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ จาย อาศัยจังหวะระเบิดพลังจากข้างหลังกลุ่มในรอบสุดท้าย เข้าเส้นชัยคว้าแชมป์ไปครอง โดยทิ้งห่างนักปั่นโปแลนด์ ที่ได้อันดับ 2 หลายช่วงตัว เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมรอบสนาม ส่งผลให้ จายคว้าแชมป์คีริน ในอิตาลีเป็นรายการที่ 2 ติดต่อกัน ส่วน วรยุทร คว้าอันดับ 3 ไปครอง

“ทีเจ” กล่าวภายหลังการแข่งขันว่า ขอขอบคุณสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ภายใต้การนำของ พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมฯ ที่ส่งตนเองไปฝึกซ้อมที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก และตระเวนแข่งขันรายการต่าง ๆ ทั่วโลก จนได้รับรางวัลนักกีฬาสมัครเล่นชายยอดเยี่ยม ของสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาฯ และที่สำคัญต้องขอขอบคุณ คุณเอกชัย เศวตสมภพ อุปนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีโน-แปซิฟิค เทรดดิ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ยาอมบรรเทาอาการเจ็บคอ ฟิชเชอร์แมนเฟรนด์ ที่ให้การสนับสนุนงบประมาณในการเดินทางมาเก็บตัวฝึกซ้อม และตระเวนแข่งขันทุกรายการ ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูงมาก รวมทั้งขอขอบคุณ ธนาคารออมสิน, การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และผู้สนับสนุนรายอื่น ๆ ที่ไม่ได้เอ่ยนาม

“ผมขอขอบคุณสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาฯ ที่พิจารณามอบรางวัลนักกีฬสมัครเล่นชายดีเด่นประจำปี 2562 ผมรู้สึกเสียดายที่ไม่สามารถเดินทางกลับไทยไปรับรางวัลด้วยตัวเอง เนื่องจากติดภารกิจสำคัญ คือการทำคะแนนสะสมรักษาอันดับ ที่ปัจจุบันผมอยู่ในอันดับ 35 ของโลกไว้ให้ได้ สำหรับการคว้าแชมป์ 2 รายการดังกล่าวจะทำให้มีคะแนนสะสมเพิ่มขึ้น 200 คะแนน น่าจะขยับขึ้นไปอยู่ในท็อป 30 ของโลก และได้สิทธิ์ลงแข่งขันรายการ เวิลด์ คัพ ซีรีส์ ในปลายปีนี้ ซึ่งจะเป็นโอกาสที่จะเก็บแต้มลุ้นโควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2020 ต่อไป” จาย กล่าว

พล.อ.เดชา กล่าวพิ่มเติมอีกว่า หลังจากนี้ จาย จะกลับไปที่ศูนย์ฝึกจักรยานโลก เพื่อฝึกซ้อมต่อ และจะเดินทางกลับมาเมืองไทย ในช่วงเดือนสิงหาคม เพื่อตระเวนแข่งขันเก็บคะแนนในประเทศแถบทวีปเอเชีย รวมทั้งเข้าร่วมการแข่งขันจักรยานประเภทลู่ชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศเกาหลีใต้ ในเดือนตุลาคม ซึ่งตนเองเชื่อว่าจากคะแนนสะสมปัจจุบัน จาย มีโอกาสสูงที่จะเป็นหนึ่งใน 36 นักปั่นที่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน “เวิลด์ คัพ ซีรี่ส์” ทั้ง 5 สนามในช่วงปลายปี 2562 รวมไปถึงสิทธิ์ในการเข้าแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกที่กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 เพื่อลุ้นในการได้โควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2020 หรือ “โตเกียวเกมส์” ที่ประเทศญี่ปุ่น ต่อไป

“จากการที่ จาย ขึ้นแท่นรับรางวัล 2 ครั้งติดต่อกัน โดยมีการเชิญธงไตรรงค์ขึ้นสู่ยอดเสา และเปิดเพลงชาติไทยดังกระหึ่มไปทั่วทั้งสนาม และทำให้คนทั่วโลกรู้จักนักกีฬาไทย รู้จักประเทศไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งสมาคมกีฬาจักรยานฯ มีเจตนารมณ์ในการบริหารงานที่ว่า มุ่งมั่นพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ เราจะก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย” พล.อ.เดชา กล่าวในตอนท้าย