หนังคนละม้วน!! สนามบินเตรียมแจ้งความหนุ่มแกร๊ปร้องสื่อว่าถูกทำร้าย

หลังจากหนุ่มแกร๊ปคาร์ร้องสื่อกลุ่มหนึ่งของเชียงใหม่ ว่าถูก รปภ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ทำร้ายร่างกาย กักขังหหน่วงเหนี่ยว แต่ความจริงแล้วเจ้าหน้าที่ทำตามหน้าที่ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยาน เนื่องจากหนุ่มแกร๊บคาร์นอกจากไม่ให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่แล้วมีการส่งเสียงดังโวยวายด่าทอเจ้าหนักงาน แถมข่มขู่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วยอาวุธ จึงต้องควบคุมตัวเพื่อรอให้ตำรวจมานำตัวไปดำเนินคดีไม่ได้มีการกักขังหน่วงเหนี่ยว ซึ่งทางฝั่งท่าอากาศยานเชียงใหม่มีหลักฐานทั้งหมดทั้งวงจรปิด และคลิปวีดีโอไว้ทุกช่วง เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดหนุ่มแกร๊บคาร์แล้ววันนี้
จากกรณีที่มีหนุ่มแกร๊บคาร์ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ของท่อากาศยานเชียงใหม่ ควบคุมตัวไว้

เนื่องจากเป็นระเบียบและข้อกฏหมายที่ไม่อนุญาตให้แกร๊บคาร์ซึ่งผิด พรบ.กรมการขนส่งทางบก เข้ามารับส่งผู้โดยสารภายในท่าอากาศยานเชียงใหม่ แต่พบว่า นายสุชาติ ไชยประยา มารับโดยใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อฟอร์ด หมายเลขทะเบียน งธ 8161 เชียงใหม่ ได้เข้ามารับผู้โดยสารภายในเขตท่าอากาศยานเชียงใหม่ พอเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวพยายามขับรถหลบหนี หลังจากนั้นพอถูกสกัดแล้วควบคุมตัวเพื่อส่งตำรวจดำเนินคดี แต่เรื่องดังกล่าวกลับพบว่า นายสุชาติ ไชยประยา ได้ร้องเรียนกับทางสื่อมวลชนบางแขนง โดยอ้างว่าถูกทำร้ายร่างกายจนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล มีการแสดงร่องรอยพกช้ำตามร่างกาย และนำคลิปวีดีโอที่ตนเองถ่ายให้สื่อดูในบางช่วงของเหตุการณ์ และแจ้งจะเอาผิดกับ รปภ.ท่าอากาศยานเชียงใหม่ให้ถึงที่สุดในข้อหาทำร้ายร่างกาย และกักขังหน่วงเหนี่ยว และเผยแพร่เรื่องนี้ผ่านทางสื่อมวลชนกลุ่มดังกล่าว

ล่าสุดทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ออกหนังสือชี้แจงเรื่องนี้แต่กลับกลายเป็นเหมือนหนังคนละม้วน เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฏหมาย โดยเฉพาะเรื่องของกฏหมายด้านความปลอดภัยของท่าอากาศยานในระดับนานาชาติ โดยคำนึงถึงผู้โดยสาร และผู้ใช้บริการของท่าอากาศยานเชียงใหม่เป็นสำคัญ ทางด้านนายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ ชี้แจงกรณีนายสุชาติ ไชยประยา ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่าถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลว่า ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้คือ เมื่อเวลาประมาณ 17.50 น.ของวันที่ 20 กรกฎาคม 2562 ผู้โดยสารชาวต่างชาติได้ใช้แอพลิเคชั่น Grab Car เรียกนายสุชาติ ไชยประยา มารับโดยใช้รถยนต์เก๋งยี่ห้อฟอร์ด หมายเลขทะเบียน งธ 8161 เชียงใหม่ ซึ่งเป็นรถส่วนบุคคลมารับผู้โดยสารชาวต่างชาติดังกล่าว บริเวณประตูทางออกที่ 11 อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่สายตรวจของท่าอากาศยานเชียงใหม่ 2 นาย ได้แสดงตัวขอตรวจสอบแต่นายสุชาติไม่ยินยอมและขับรถหนี เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตาม และตามทันที่บริเวณประตู 5 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศเมื่อเจ้าหน้าที่ขอเข้าตรวจนายสุชาติได้ด่าทอดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่และมีการขัดขืนข่มขู่ โดยมีอาวุธข่มขู่เจ้าหน้าที่เป็นกระบองเหล็ก

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายสุชาติไปเพื่อแจ้งข้อหา นำยานพาหนะโดยสารที่ไม่มีผู้โดยสารเข้ามาในเขตท่าอากาศยานโดยไม่ได้รับอนุญาต จอดรถกีดขวางทางจราจรภายในเขตท่าอากาศยาน และแนะนำให้ผู้โดยสารใช้ยานพาหนะรับจ้างที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก ทอท.แต่นายสุชาติปฏิเสธการจ่ายค่าปรับและส่งเสียงดังสร้างความรำคาญภายในอาคารผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์มารับตัวไป เพื่อแจ้งข้อหาและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้ขอยืนยันว่ากรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายหรือข่มขู่คุกคามนายสุชาติแต่ประการใด โดยมีภาพทั้งจากกล้อง CCTV และภาพวิดีโอที่เจ้าหน้าที่รวมทั้งผู้พบเห็นเหตุการณ์บันทึกไว้หลายคลิป ซึ่งท่าอากาศยานเชียงใหม่จะได้นำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้มีรายงานว่าทางท่าอากาศยานเชียงใหม่ เตายมส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฏหมายเข้าแจ้งความดำเนินคดี พร้อมทั้งนำหลักฐานต่างๆ โดยเฉพาคลิปจากกล้องวงจรปิด และคลิปภาพจากมือถือที่บันทึกภาพไว้ทุกช่วงของเหตุการณ์ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดี
ล่าสุดทางทีมข่าวประสานไปยัง นายสุชาติ ไชยประยา ทางโทรศัพท์ ปลายสายผู้หญิงบอกว่าเป็นภรรยาของนายสุชาติ ไชยประยา บอกว่านายสุชาติ ไชยประยา ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เป็นวันที่ 2