(มีคลิป) รอง ผบ.ตร.ลงสอบมือฆ่าสาว อสม. เผยเจ้าตัวรับสารภาพ!! สาเหตุลงมือมาจากผู้ตายตามราวี หลังพยายามจะเลิกกัน เกรงจะโดนฆ่า เลยชิงลงมือก่อน 

เมื่อเวลา 15:30 น. วันที่ 22 ก.ค.62 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่ห้องประชุม สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบช.ภ.5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ , เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.5 ได้ร่วมกันดำเนินการควบคุมตัว ร.ต.ทองพูล สุวรรณกันทา อายุ 68 ปี ที่อยู่ 35/87 หมู่ที่ 7 ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.วิลาวัลย์ บุญเรือง อายุ 50 ปี แล้วได้นำศพมาทิ้งที่บริเวณป่าหญ้าข้างทางถนนห้วยธาร (เส้นทางสะเมิง-แม่ริมสายเก่า) หมู่ที่ 10 ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ หลังจากที่ช่วงสายวันเดียวกันนี้เวลาประมาณ 11.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันนำหมายศาลเข้าทำการตรวจค้นและควบคุมตัวผู้ต้องหาภายในบ้านเลขที่ 161 หมู่ที่ 6 ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ และจากการสอบสวนเบื้องต้นทางผู้ต้องหาได้ยอมรับสารภาพว่าเป็นผุ้ลงมือก่อเหตุฆ่า น.ส.วิลาวัลย์ จริงรวมทั้งเป็นคนนำศพไปโยนทิ้งเพื่ออำพรางคดีด้วยตัวเอง

โดยทางด้าน  พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า สำหรับคดีนี้ หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนพบศพถูกนำมาโยนทิ้งไว้ริมทาง เมื่อวันที่ 18 ก.ค.62 ที่ผ่านมา โดยจากการตรวจสอบก็พบว่ามีร่องรอยบาดแผลของการถูกทำร้าย จนกระทั่งจากการสอบสวนติดตามสืบสวนจับกุมตัวคนร้าย และจากการรวบรวมหลักฐานทำให้ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ ร.ต.ทองพูล สุวรรณกันทา ซึ่งเป็นอดีตทหารที่เกษียนอายุราชการแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการรวบรวมหลักฐานเข้าทำการตรวจค้นและจับกุมตัว โดยจากการสอบสวนทางผู้ต้องหาก็ได้ให้การรับสารภาพและให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี ไม่ได้มีการขัดขืนหรือหลบหนีหลังจากที่ก่อเหตุแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นไปตามการดำเนินการของทางพนักงานสอบสวน และดำเนินคดีต่อตามกฎหมายต่อไป

ขณะที่ทางด้าน พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่า จากการจับกุมตัวผู้ต้องหาคือ  ร.ต.ทองพูล สุวรรณกันทา และจากการตรวจสอบหลักฐานของกลางก็พบทรัพย์สินคือรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิต และจากการสอบสวนทางผู้ต้องหาก็ให้ความร่วมมือ และให้การรับสารภาพ โดยสาเหตุคือ ผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุนั้นได้มีการคบหากันในลักษณะเชิงชู้สาว แต่ต่อมาได้เกิดการทะเลาะกัน โดยทางผู้ต้องหานั้นระบุว่า ทางผู้เสียชีวิตพยายามจะมาราวีและพยายามจะมาทำร้ายร่างกาย จึงทำให้เกิดความกลัวว่าอาจจะถูกผู้เสียชีวิตลงมือฆ่าก่อน และในวันเกิดเหตุนั้นก็ทราบว่าผู้เสียชีวิตมีอาการเมาสุรา แล้วมีเรื่องทะเลาะกันสุดท้ายทางผู้ต้องหาจึงใช้ขวดตีเข้าที่บริเวณใบหน้าก่อนจะใช้เชือกรัดคอจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตามหลังจากการรับสารภาพของผู้ต้องหาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะมีการดำเนินการตามกฎหมายต่อไป