ผบช.ภ. 5 ส่งสาส์น ชี้แจงกรณีเหตุการณ์วิสามัญคนร้ายที่เวียงแหง และยืนยันมุ่งมั่นบังคับใช้กฎหมาย ด้วยความเป็นธรรมและเสมอภาค

จากกรณี เมื่อช่วงกลางดึกคืน วันที่ 23 ก.ค. 62 ที่ผ่านมา พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้รับรายงานจาก พ.ต.อ.ทรงกริช ออนตะไคร้ รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ว่า เกิดเหตุ คนร้ายยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะทำการตรวจค้นยาเสพติด ทำให้คนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต จำนวน 1 ราย เหตุเกิด บ้านห้วยใคร้ใหม่ ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำโดย พ.ต.ท.ตรีโลจน์ ปันตี รอง ผกก.สส.สภ.เวียงแหง และ ลูกน้อง อย่างน้อย 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ พร้อมรถยนต์ที่ใช้ในการปฎิบัติการในครั้งนี้ ถูกชาวบ้านทุบทำลายและทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากไม่พอใจ ที่ทำการวิสามัญญาติจนเสียชีวิต ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ข่าวความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ก.ค.62 ทางด้าน พล.ต.ท.มนตรี สัมปุณณานนท์ ผบช.ภ. 5 ได้ ออกหนังสือเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว โดยส่งสาส์นจากผู้บังคับบัญชา ภ.5 ว่าตามที่ได้เกิดเหตุวิสามัญและทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เวียงแหง ขึ้นเมื่อวันที่ 23 ก.ค.62 ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่รวมทั้งบรรดาข้าราชการตำรวจทั้งหลาย ต่างได้รับรู้รับทราบข้อมูลข่าวสารผ่านสื่อประเภทต่าง ๆ ซึ่งต่างนำเสนอข่าวสารโดยมีข้อเท็จจริงบางประการ ที่อาจมีความคาดเคลื่อนไปบ้าง ส่งผลให้เกิดข้อเคลือบแคลงสงสัยและวิตกวิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา ดังนั้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจถูกต้องตรงกันเป็นไปตามข้อเท็จจริงที่มีอยู่จริง จึงใคร่ขอทำความเข้าใจกับพวกเราเสียดังนี้
ยืนยันได้ว่าเรื่องเกิดขึ้นจริง มีการเข้าปฏิบัติการตามหลักยุทธวิธีตำรวจทุกประการ เมื่อเกิดการต่อสู้ขัดขวางและทำร้ายเจ้าหน้าที่ จึงต้องอ้างเหตุป้องกันตามสมควรแก่เหตุ ขณะที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ก็ได้ดำเนินการไปทุกฐานความผิดทุกสำนวนคดีที่เกี่ยวข้อง ทั้งคดีที่ผู้ตายกระทำผิดกฎหมาย, คดีเจ้าพนักงานวิสามัญ และคดีที่เกี่ยวเนื่อง โดยพนักงานสอบสวนผู้เกี่ยวข้องด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมทั้งนี้ได้นำประเด็นการเคลื่อนย้ายศพ และการทำลายพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุมาประกอบการพิจารณา เพื่อพิจารณาดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง เนื่องจากตำรวจถูกทำร้ายเป็นเหตุให้ไม่สามารถรักษาสถานที่เกิดเหตุเอาไว้ได้
สำหรับการหยิบยกเอาเหตุผลบางประการขึ้นมากล่าวอ้าง ทั้งกรณีเหตุเกิดภายในพื้นที่โครงการฯหรือการกล่าวอ้างว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุนั้น วิญญูชนย่อมเล็งเห็นได้โดยแจ้งชัดว่า เป็นกรณีที่ไม่บังควรทั้งเป็นที่ทราบโดยทั่วกันดีอยู่แล้วว่า มีการบังคับใช้กฎหมายควบคู่ไปกับการพัฒนาในพื้นที่โครงการฯ และเป็นการบั่นทอนขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ในพื้นที่เสียมากกว่า อีกทั้งหากพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบทำคดีอย่างหละหลวม ไม่กระทำอย่างตรงไปตรงมาอย่างรอบคอบรัดกุมตามพยานหลักฐานตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ย่อมจะเกิดความเสียหายที่ยากจะเยียวยาได้ในอนาคต ซ้ำจะเกิดผลร้ายอย่างมิอาจคาดหมายขึ้นได้ กับตำรวจผู้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ราชการอย่างเต็มกำลังความสามารถหากเกิดเหตุการณ์หรือกิจกรรมในลักษณะการปฏิบัติการจิตวิทยา อาทิ การรวมตัวก่อเหตุโดยฝูงชน เพื่อสร้างข้อเรียกร้องต่อทางการ ก็ขอให้พี่น้องตำรวจมีความมั่นคง อย่าได้หวั่นไหวจงพึงตระหนักว่าผู้บังคับบัญชาทุกระดับอยู่เคียงข้างพวกท่านเสมอ เพื่อสร้างหลักประกันแห่งความยุติธรรมให้กับสังคม โดยการอำนวยความยุติธรรมตามหลักกฎหมาย ตามหลักจริยธรรมที่มีมาตรฐานแห่งความเป็นสากล เป็นที่ยอมรับได้ของส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม
ในโอกาสนี้ ขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันว่าในวันนี้ พล.ต.ท.มนตรี สัมบุณณานนท์ ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุเดช บุญเรือง รอง ผบช.ภ.5 และพล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ จะได้เข้าพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่ออำนวยการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกับภาคส่วนต่างๆให้บังเกิดความยุติธรรมในประการที่สำคัญ เพื่อให้สังคมได้ประจักษ์ว่าตำรวจภูธรภาค 5 มุ่งมั่นบังคับใช้กฎหมายด้วยความเป็นธรรมอย่างเสมอภาค ด้วยความโปร่งใสอย่างแท้จริง

ร่วมแสดงความคิดเห็น