หลังจากที่เกิดเหตุคนร้ายลักพาตัวนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ อายุ 54 ปี บ้านเลขที่ 382 หมู่ 10 ต.นางแล อ.เมืองเชียงราย ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน อ.เชียงแสน ไปขณะเดินทางข้ามแม่น้ำโขงไปติดต่อธุรกิจที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด09:00 น.วันที่ 29 ก.ค. นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน สั่งการให้ฝ่ายปกครองร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เชียงแสน ร.อ.โกมินทร์ บุญภา ผบ.ร้อย ทพ.3103 ฉก.ทพ.31 กองกำลังผาเมือง นำนางศรีวรรณ วงศ์ใหญ่ ภรรยา อายุ 45 ปี ภรรยา น.ส.รสริน วงศ์ใหญ่ อายุ 27 ปี บุตรสาว และนายประภาส วงศ์ใหญ่ อายุ 22 ปี บุตรชาย มาสอบถามข้อมูล เดินทางข้ามไปให้ข้อมูลที่กองบัญชาการตำรวจเมืองต้นผึ้งโดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมืองต้นผึ้งให้การต้อนรับ ณ ห้องว่าการเมืองต้นผึ้ง
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ได้สอบถามข้อมูลจากญาติแล้วจึงได้สรุปสถานการณ์ว่า นายสิงห์แก้วได้ทำธุรกิจที่เมืองต้นผึ้งแล้วได้รับการติดต่อจากชาย 2 คนชื่อว่านายเหว่ยและนายจุ๋ม ให้ไปพบเจ้าหน้าที่ สปป.ลาวที่เมืองห้วยทราย ซึ่งเป็นเมืองเอกของแขวงบ่อแก้วตั้งอยู่ตรงกันข้าม อ.เชียงของ จ.เชียงราย ห่างจากเมืองต้นผึ้งไปตามแม่น้ำโขงประมาณ 58 กิโลเมตร แต่เมื่อกำลังผ่านหมู่บ้านดอนสวรรค์ เมืองต้นผึ้ง ได้ถูกลักพาตัวไปไปจนกระทั่งมีการส่งข้อความและคลิปไปเรียกค่าไถ่กับญาติ สาเหตุคาดว่าเกิดจากขัดผลประโยชน์ธุรกิจการค้าชายแดนที่นายสิงห์แก้วได้เข้าไปประกอบธุรกิจโรงฆ่าสัตว์ให้กับชาวจีนในฝั่งลาว
ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุคาดว่ามีจำนวนทั้งหมด 5 คน ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเอาไว้แล้วจำนวน 2 คนโดยหนึ่งในนั้นคือคนขับรถให้กับนายสิงหแก้วโดยอยู่ระหว่างสอบปากคำว่าเกี่ยวข้องกับการอุ้มเรียกค่าไถ่ดังกล่าวหรือไม่ จากการสอบถามของทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยต่อญาติของนายสิงห์แก้ว คาดการณ์ว่าสาเหตุของการอุ้มลักพาตัวอาจจะเกี่ยวข้องกับธุรกิจจำนวน 3 ธุรกิจได้แก่การซื้อขายน้ำตาลที่ต้องมีการจัดหาไปให้กับผู้ซื้อแต่ที่ผ่านมาเกิดปัญหาทางธุรกิจวงเงินกว่า 13 ล้านบาทจนมีการฟ้องร้องกันอยู่ และธุรกิจการซื้อขายต้นไม้ใหญ่ ไม้ดอกไม้ประดับมูลค่าประมาณ 300,000 บาท รวมถึงธุรกิจสร้างโรงฆ่าสัตว์ใน สปป.ลาว ที่มีกรลงนามร่วมก่อสร้างกันเมื่อเดือน มี.ค.2562 ที่ผ่านมา
ร่วมแสดงความคิดเห็น