ตำรวจทรัพยากรธรรมชาติ ภาค 5 ตรวจยึดพื้นที่บุกรุก และแผ้วถางป่า

เจ้าหน้าที่หัวหน้าชุด ชป.2 ตำรวจศูนย์ป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ภูธรภาค 5 ต้องเข้าทำการตรวจยึดพื้นที่ป่าถูกบุกรุก รวมทั้งลักลอบตัดต้นไม้ในพื้นที่ป่าสงวน สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย ตรวจยึดไม้กระยาเลยท่อน จำนวนกว่า 30 ท่อน รถแบคโฮ 1 คัน รวมถึงพื้นที่ป่าที่บุกรุกกว่า 10 ไร่ 47 ตารางวา

หัวหน้าชุด ชป. 2 รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ภูธรภาค 5 ต้องเข้าทำการตรวจยึดไม้กระยาเลยท่อน จำนวนกว่า 30 ท่อนปริมาตร 1.10 ลูกบาศก์เมตร พร้อมทั้งรถแบคโฮสีเหลือง ยี่ห้อโคมัตสุ รุ่นพีซี 200 จำนวน 1 คัน และตรวจยึดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติที่ถูกบุกรุก จำนวน 10 ไร่ 47 ตารางวา หลังถูกผู้ลักลอบ บุกรุกแผ้วถางป่าโดยใช้รถแบคโฮในการเปิดพื้นที่ และตัดต้นไม้จำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการวางแผน เข้าทำการตรวจจับกลุ่มผู้บุกรุกดังกล่าว พบผู้ต้องหา 2 รายคือ นายเตือน ศรีวิราชอายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 1 ต.งิม อ.ปง จ.พะเยา และนายหย่วน กองแก้วอายุ 67 ปี ซึ่งอดีตเคยเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และผู้นำ อปท.ท้องที่ ใน อ.เชียงม่วน

ซึ่งเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม หลังสืบทราบว่ามีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ บริเวณในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ยม บ้านป่าแขมเหนือ หมู่ที่ 8 ต.บางมาง อ.เชียงม่วน จ.พะเยา เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการวางแผนที่จะเข้าดำเนินการ จับกุมและสามารถตรวจยึดพื้นที่ถูกบุกรุกกว่า 10 ไร่ รวมทั้งของกลางซึ่งเป็นรถแบคโฮ 1 คัน และต้นไม้ที่ถูกตัดโค่น กว่า 30 ท่อน เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการจับกุมและตั้งข้อหาตาม พ.ร.บ.ป่าไม้พ.ศ.2484 มาตรา 54 ร่วมกันแผ้วถาง ก่อสร้างแผ้วถาง หรือเผาป่าหรือกระทำด้วยการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 4 ฐานร่วมกันยึดถือครอบครองทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในที่ดินก่อสร้างแผ้วทาง เผาป่าหรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่ป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดและจับกุมเพื่อดำเนินคดีต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น