พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าวินาที ขณะที่นักปั่นเสือสันทรายถูกชนดับ

ความคืบหน้าจากกรณีที่ว่าที่ร้อยตรีสุพล ตาสิงห์ อายุ 60 ปี นักปั่นสมาชิกชมรมปั่นจักรยานเสือสันทราย เสียชีวิต จากอุบัติเหตุถูกรถยนต์ชนบนถนนเชียงใหม่-สันทราย(สายเก่า) หน้าเทศบาลตำบลสันทรายหลวง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 28 ก.ค. 62 ที่ผ่านมา ซึ่งว่าที่ร้อยตรีสุพล เป็น 1 ใน 2 นักปั่นที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและรอดชีวิต จากเหตุการณ์ที่เป็นข่าวครึกโครมเมื่อปี 2558 กรณีที่นักศึกษาสาวมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เมาแล้วขับรถยนต์ชนกลุ่มนักปั่นจักรยาน ที่กำลังปั่นจักรยานอยู่บนถนนเชียงใหม่-ดอยสะเก็ด อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเช้าตรู่วันที่ 3 พ.ค. 58 ซึ่งส่งผลให้นักปั่นเสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บสาหัส 2 คน
โดยกรณีการเสียชีวิตครั้งนี้ มีผู้ตั้งประเด็นสงสัยด้วยว่าคู่กรณีเมาแล้วขับหรือไม่ นายเพลิง เกรียงไกร อายุ 28 ปี พยานที่เห็นเหตุการณ์และเข้าไปให้การช่วยเหลือว่าที่ร้อยตรีสุพลเป็นคนแรก เปิดเผยว่าช่วงที่เกิดเหตุเป็นเวลาประมาณตีห้ากว่า บริเวณที่เกิดเหตุค่อนข้างมืด ตัวเองกำลังขี่รถจักรยานยนต์จะไปธุระ เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุเห็นรถยนต์เก๋งคันที่ชนขับสวนไปด้วยความเร็ว และเห็นรถจักรยานของว่าที่ร้อยตรีสุพล กระเด็นมาตามทาง ส่วนร่างของว่าที่ร้อยตรีสุพลได้กระเด็นตกลงไปข้างทางที่มีน้ำขังอยู่ ตัวเองจึงรีบจอดรถลงไปช่วยเหลือทันที เนื่องจากพอมีความรู้และประสบการณ์จากการเป็นอาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัยมาก่อน โดยนำร่างที่จมน้ำอยู่ขึ้นมาก่อน และตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ากระดูกแขนหักผิดรูป รวมทั้งชีพจรอ่อนมากและอาการสาหัสเพราะน่าจะถูกชนอย่างแรง จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาให้การช่วยเหลือ และนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน โดยตัวเองภาวนาให้ว่าที่ร้อยตรีสุพลปลอดภัย แม้ว่าจะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ซึ่งต่อมาทราบว่าเสียชีวิตทำให้รู้สึกเสียใจ และตั้งใจว่าจะไปร่วมงานศพหรือไปร่วมพิธีเผาศพให้ได้ส่วนคนขับรถยนต์เก๋งที่ชนซึ่งเป็นชายหนุ่ม และทราบต่อมาว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยนั้น หลังจากที่ขับชนประมาณ 5 นาที ได้ขับวนกลับมาจอดรถดูเหตุการณ์และลงจากรถมาในสภาพที่ตื่นตกใจ พร้อมโทรแจ้งประกัน และรอให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่รู้ตัวว่าขับชน กระทั่งขับไปแล้วเห็นกระจกหน้ารถแตกจึงย้อนกลับมาดู ซึ่งจากสภาพของคนขับรถที่ดวงตาแดงกล่ำและดูสะลึมสะลือ ประกอบกับช่วงเวลาที่เกิดเหตุเป็นช่วงเช้ามืด โดยความเห็นส่วนตัวเชื่อว่ามีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่น่าจะมีอาการมึนเมา แต่ตัวเองไม่ทันได้สังเกตว่ามีกลิ่นสุราหรือไม่ เนื่องจากใจจดจ่ออยู่กับอาการของว่าที่ร้อยตรีสุพลที่ถูกชนมากกว่า อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาทราบจากข่าวว่าทางคนขับรถยนต์ที่ชนยืนยันว่าหลับใน ซึ่งก็อาจเป็นไปได้เช่นกัน ทั้งนี้ตั้งแต่ที่เกิดเหตุตัวเองยังไม่ได้รับการติดต่อจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ไปเป็นพยานหรือให้ข้อมูลใดๆ ทั้งสิ้น แต่หากได้รับการติดต่อก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือและจะให้ข้อมูลทุกอย่างตามความจริงที่เห็นทั้งหมด ขณะที่รายงานข่าวเพิ่มเติมแจ้งว่า ในเรื่องของการตรวจวัดแอลกอฮอล์ของคู่กรณีที่ขับรถชนว่าที่ร้อยตรีสุพล นั้น ทางตำรวจได้ให้แพทย์ทำการตรวจวัดแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างรอผล.

ร่วมแสดงความคิดเห็น