จ.แพร่เปิดเวที “กัญชากับวิถีไท” ผู้สนใจร่วมงานกันคับคั่ง แม้ว่าจะมีฝนตกก็ไม่เป็นอุปสรรค

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2562 ที่ศูนย์ประชุมและแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนาตะวันออกและกลุ่มประเทศ GMS บ้านกอเปา ต.ทุ่งโฮ้ง อ.เมืองแพร่ จ.แพร่ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ นายกอบจ.แพร่ ได้มอบหมายให้ นายวัฒนา ผาทอง รองนายก อบจ.แพร่ เป็นประธานเปิดเวทีเสวนา “กัญชากับวิถีไท” โดยมีผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนาและอบรมเกือบ 2,000 คน สูงกว่าเป้าหมายลงทะเบียน 1,000 คน โดยผู้ที่เข้ารับการอบรมสัมมนามีทั้งในผู้ที่อาศัยในจังหวัดแพร่และต่างจังหวัด

นายวัฒนา ผาทอง รองนายก อบจ.แพร่ กล่าวว่า เวทีกัญชากับวิถีไท เป็นเวทีให้ความรู้ต่อประชาชน และสร้างการมีส่วนร่วมในการเข้าถึงยาที่ผลิตจากกัญชา ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่จังหวัดแพร่มีผู้สนใจและเกิดการพัฒนาเป็นไปตามกฎหมาย ข้อสำคัญ ยาที่ทำจากกัญชาต้องเป็นยาของชุมชนและคนส่วนใหญ่ได้เข้าถึงมากกว่าปล่อยให้เป็นยาที่ต้องซื้อหาด้วยราคาสูง หรืออยู่ในมือผู้ผลิตที่เป็นนายทุน

ในการอบรมวันนี้มีวิทยากร เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกัญชา ได้แก่ นายแพทย์สมนึก ศิริพานทอง กรรมการสมาคมดีเลชั่นแห่งประเทศไทย และพญ.อรพรรณ์ เมธาดิลกกุล นายกสมาคมแพทย์อาชีวเวชศาสตร์และสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย บรรยายเรื่อง “มุมมองของหมอกับกัญชา ปัญหา อนาคตกัญชาไทย”
พ.ต.ท.(ญ.) ดร.ฐิชาลักษณ์ ณรงค์วิทย์ สมาคมพิทักษ์สิทธิข้าราชการ บรรยายเรื่อง “กฎหมายที่เกี่ยวข้องและร่าง พ.ร.บ.ยาเสพติดให้คุณ”  ศาสตราจารย์ ดร.อรรถ นนทจักร ประธานที่ปรึกษาสถาบันวิจัยภูพาน บรรยายเรื่อง “ตำรับยากัญชาภูมิปัญญาวิถีไท” อาจารย์ประทีป แตงทอง ที่ปรึกษาวิสาหกิจชุมชนพัฒนาสมุนไพรครบวงจรแห่งประเทศไทย ให้ความรู้เรื่อง “ยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติงานไร่กัญชา;แปลงต้นแบบ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำด้วยเทคโนโลยีมาตรฐานสากล” และอาจารย์ประทีป อินแสง รองประธานวิสาหกิจชุมชนพัฒนาสมุนไพรครบวงจรแห่งประเทศไทย เล่าถึงแนวทางการขับเคลื่อนและการจดแจ้งวิสาหกิจชุมชนพัฒนาสมุนไพรครบวงจรแห่งประเทศไทย

ในโอกาสเดียวกันนี้นายรักเกียรติ สารทอง ประธานวิสาหกิจวิสาหกิจชุมชนพัฒนาสมุนไพรครบวงจรแห่งประเทศไทย และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนพัฒนาสมุนไพรครบวงจรจังหวัดแพร่ พร้อมคณะ ได้เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงทิศทางการพัฒนากัญชาเพื่อการแพทย์ ที่กำลังถูกปลดล็อก โดยล่าสุด 30 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ลงนามในประกาศกระทรวงสาธารณสุข ยกเลิกกัญชาจากรายชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2562 ด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ

แพทย์หญิงอรพรรณ์ เมธาดิลกกุล นายกสมาคมแพทย์อาชีเวชศาสตร์และสิ่งแวดล้อมแห่งประเทศไทย (สพอท.) กล่าวในช่วงแถลงข่าวว่า ถือเป็นโอกาสดีที่มีประกาศกระทรวงดังกล่าว เป็นการปลดล็อกกัญชาออกจากยาเสพติดให้โทษ ซึ่งปัจจุบันการห้ามทางกฎหมายขัดแย้งต่อการพัฒนากัญชาเป็นยารักษาโรค ทำให้ประชาชนสับสน นำไปสู่การใช้ที่ไม่ถูกต้องจนเกิดอันตราย และเป็นโอกาสดีที่จังหวัดแพร่ เป็นจังหวัดแรกที่มีเวทีทางวิชาการกับแนวทางอนุญาตของรัฐ ดังนั้นผู้ที่ใช้กัญชาอย่างถูกต้องจึงเป็นเรื่องสำคัญ

 

นายประทีป อินแสง กล่าวว่า การอนุญาตหรือปลดล็อกกัญชา เป็นโอกาสที่จะพัฒนากัญชาเพื่อการรักษาโรค ผ่านกลุ่มวิชาชีพแพทย์แผนปัจจุบัน ทันตแพทย์ สัตวแพทย์ เภสัชกร แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกติ์ และหมอพื้นบ้าน ที่มีสิทธิในการใช้สมุนไพรกัญชารักษา ซึ่งจะพัฒนาไปสู่เศรษฐกิจและสุขภาพในท้องถิ่นต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น