น้ำตาคลอเบ้า แม่หอบเอกสารขอความเป็นธรรม หลังลูกชายถูกไฟดูดตายระหว่างเรียนที่ศูนย์พัฒนาฝีมือ

แม่หัวใจสลายทนทุกข์สุดกลั้น ร้องขอความเป็นธรรม หลังลูกชายคนเดียวต้องเสียชีวิตจากการถูกไฟดูดระหว่างเรียนทำอาหารที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานเชียงใหม่ นานกว่า 6 เดือน ไร้การเหลียวแลและเยียวยา  ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “กฤษฎาภรณ์ จันทร์แลง” ได้โพสต์ข้อความว่า “180 วันแล้วกับการสูญเสีย ที่ยังไม่ได้รับการดูแลเยียวยาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลย แม่จะร้องสื่อไหนดีที่ขอความเป็นธรรมให้กับลูกชาย” โดยโพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจจำนวนมากรวมทั้งมีการแชร์ต่อด้วย

นอกจากนี้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายหนึ่งได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า เมื่อหลายเดือนก่อนลูกชายเพียงคนเดียวของผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “กฤษฎาภรณ์ จันทร์แลง” ไปสมัครเข้าเรียนเพื่อทำอาหารสร้างอาชีพให้กับตัวเอง เพื่อเลี้ยงพ่อแม่ ที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ แม่ริม โดยวันที่ 5 ของการเรียน เกิดเหตุไฟดูดภายในศูนย์พัฒนา ทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ซึ่งทางศูนย์ฯ รับปากว่าจะรับผิดชอบ และใส่ซองทำบุญวันสวดศพเพียงครั้งเดียว แต่หลังจากนั้นไม่มีความคืบหน้าใดๆ อีกทั้งตั้งแต่เกิดเหตุทางศูนย์ฯ ได้ปิดบังเรื่องราวนี้มาตลอดจนไม่มีการนำเสนอข่าวเรื่องนี้เลย ในขณะที่พ่อแม่ต่างอยู่ในสภาพทนทุกข์หัวใจแตกสลาย จึงต้องการเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับการเสียชีวิตของลูกชาย
ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว คือ นางกฤษฎาภรณ์ จันทร์แลง อายุ 49 ปี เจ้าของร้านขายอาหารแห่งหนึ่งย่านสามกษัตริย์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ซึ่งวันนี้ (12 ก.ย. 62) ได้นำเอกสารหลักฐานต่างๆ เข้ายื่นร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเชียงใหม่ โดยเปิดเผยว่า ลูกชายชื่อนายศิรสิทธิ์ ฟูเต็มวงค์ อายุ 19 ปี เป็นลูกชายเพียงคนเดียว ชื่นชอบการทำอาหารมาก หลังจากที่เรียนจบจากวิทยาลัยอาชีวศึกษาเชียงใหม่ แล้วต้องการจะเรียนรู้และพัฒนาฝีมือเพิ่มเติมจึงได้ไปสมัครเรียนทำอาหารที่ศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อหวังจะนำมาประกอบอาชีพเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวในอนาคต

อย่างไรก็ตามปรากฏว่าในวันที่ 8 มี.ค.62 ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการเรียนลูกชายต้องเสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าดูดระหว่างช่วยทำความสะอาดอุปกรณ์ในช่วงเรียนทำอาหารที่ศูนย์ฯ ดังกล่าว อย่างคาดไม่ถึงและสร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับครอบครัวอย่างมาก ซึ่งตั้งข้อสังเกตว่าระบบความปลอดภัยและการเดินสายไฟฟ้าที่ใช้อยู่มีปัญหาหรือไม่อย่างไร
โดยความรู้สึกของตัวเองนั้น แม้ว่าจะทราบดีว่าทำอย่างไรก็ไม่มีทางทำใหลูกชายฟื้นกลับมามีชีวิตได้แล้วและจำเป็นต้องใช้ชีวิตต่อไป แต่ในฐานะที่เป็นแม่และมีลูกชายเพียงคนเดียว รู้สึกทุกข์ทนทรมานอยู่ตลอดเวลา และไม่มีวันใดที่ไม่คิดถึงลูกชายเลย อีกทั้งบางครั้งรู้สึกผิดเพราะเป็นคนสนับสนุนให้ลูกไปเรียนและเหมือนส่งให้ลูกไปตาย ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับปากว่าจะดูแลรับผิดชอบความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมดอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามปรากฏว่าตั้งแต่ที่ลูกชายเสียชีวิตไป ทางศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดเชียงใหม่ ทำเพียงการใส่ซองทำบุญงานศพลูกชายเพียงครั้งเดียวจำนวน 1,000 บาท เท่านั้น
และหลังจากนั้นจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วไม่เคยมีการติดต่อพูดคุยแสดงความรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น เหมือนกับจะปล่อยให้เวลาผ่านไปและเรื่องราวทั้งหมดเงียบหายไปเอง ทั้งนี้เคยสอบถามไปแล้วแต่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะอย่างน้อยควรจะมีเหตุผลที่ดีมาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องที่ทำให้ลูกชายของตัวเองต้องมาเสียชีวิตหรือการกระทำใดๆ ที่ช่วยเยียวยาจิตใจกันได้บ้าง ไม่ใช่นิ่งเฉยไปเลย จึงตัดสินใจลุกขึ้นเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับการเสียชีวิตของลูกชาย เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้กับคนอื่นๆ อีก

ร่วมแสดงความคิดเห็น