ดักรวบแก๊งต้มตุ๋น หลอกขายสินค้า คาด่านห้วยไร่ ก่อนเผ่นกลับอีสาน รับว่าเพิ่งมาก่อเหตุที่จ.แพร่ครั้งแรก

ผู้สื่อช่าวรายงานมาจากจ.แพร่ เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 16 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา ตามที่ผู้สื่อข่าวจ.แพร่ ได้เสนอข่าวกรณีที่นางคำมี โพธา อายุ 78 ปี บ้านเลขที่ 4 บ้านดอนดี ม.7 ต.กาญจนา อ.เมืองแพร่ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ กับ พ.ต.ต.พิชิต เสคา สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองแพร่ว่าถูกหญิงชายสองคน มาจากต่างจังหวัดพูดภาษากลางปนอีสาน มาถามขายน้ำยาซักผ้า และให้จับรางวัลชิงโชค ปรากฏว่าได้ หัวเตาแก็ส สองเตา เป็นรางวัล และให้ซื้อเตาแก็สในราคา 1,999 บาท พร้อมกัยเสียค่าภาษีเพิ่มอีก
ต่อมานางคำมี โพธา ได้ตรวจสอบพบว่ามีราคาตามท้องตลาดแค่ 500-600 บาท จึงได้นำความแจ้งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ และมีแบะแส ว่าใช้พาหนะเป็นรถยนต์กระบะโตโยต้าแค็ป วีโว่ ติดโครงหลังคาหลังสีขาว ทะเบียน ผย 8696 ขอนแก่น และมีคนพบยังขับวนเวียนอยู่ในจังหวัดแพร่ สภ.เมืองแพร่ได้แจ้งเบาะแสไปยังสภ.ต่างๆให้ทำการตรวจสิบ
พ.ต.อ.ชลทฤษ ชัชวาลย์ ผกก.แพร่ จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.จรูฯ ถิ่นอ่วน รองผกก.สส.สภ.เมืองแพร่ พ.ต.ต.ดิเรก กาศจักร สว.สส.สภ.เมืองแพร่ และตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองแพร่ เร่งคลี่คลายคดีตามจับกุมแก๊งต้มตุ๋นรายนี้ให้ได้ เกรงว่าจะไปก่อเหตุที่อื่นอีกและ ประสานทุกด่านตรวจ ตรวจสอบรถและกลุ่มบุคตลต้องสงสัย เพื่อไม่ให้ออกนอกพื้นที่
ตนกระทั้งเวลา 18.00 น. วันนี้ 16 กันยายน 2562 ขณะที่ พ.ต.ท.นิรันดร อินผูก สวญ.สภห้วยไร่ อ.เด่นชัยจ.แพรร่มอบหมายให้ พ.ต.ท.ฐตภณ ทองวิภาวภรรณ สวป.สภ.ห้วยไร่ นำกำลังตั้งจุดจรวจที่ด่านห้วยไร่ สกัดรถคันดังกล่าวได้ขณะจะเดินทางผ่านด่านตรวจห้วยไร่ พบเป็นชายสามคน หญิงสองคน จึงนำตัวมาพบพนักงานสอบสวน เจ้าของคดี สอบสวน
ต่อมานางคำมี โพธา แม่เฒ่า ผู้เสียหายมาดูตัว และยืนยันว่า นายกันยา ทองนาค อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 70 ม.9 บ.สวนอ้อย ต.กวางโจน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ และนางบุญหอม เติมศิลป์ อายุ 38 ปี บ้านเลขที่ 3 ม.7 ต.ท่าทอง อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ สองสามีภรรยา เป็นคนหลอกขายสินค้าโดยใช้กลอุบาย เป็นเตาแก็สสองหัว ให้กับตนเอง ในราคา 1,999 บาทจริง ทั้งสองคนก็ยอมรับว่าขายสินค้าให้จริง โดยซื้อหัวเตาแก็สชนิดสองหัว มาในราคา 600 บาท และมาเราขายตามหมู่บ้านในชนบท ที่ลูกค้าจะเป็นผู้สูงอายุ โดยมีลูกชายอายุ 19 ปี พร้อมลูกสะใภ้ และเพื่อนบ้านที่เป็นชายอีกคน ออกตระเวนไปตามจังหวัดต่าง ๆ และทำวิธีนี้ แต่ในจังหวัดแพร่เพิ่งทำรายเดียว และโดนตำรวจ สภ.เมืองแพร่ ตามจับกุมได้ นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน ดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น