สคร.1เชียงใหม่ “เปิดอาคารห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ด้านการควบคุมโรค”

ในวันพุธ ที่ 18 กันยายน 2562สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ “เปิดอาคารห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ด้านการควบคุมโรค”โดยมีนพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นประธานและนพ.สุเมธ องค์วรรณดี ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ กล่าวรายงาน

สถานการณ์โรคและภัยในปัจจุบัน นับวันจะทวีความรุนแรงและซับซ้อนหลากหลายมิติ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ ดังนั้นเราจึงต้องมีการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงและต้องเพิ่มขีดสมรรถนะให้สูงขึ้น สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความคุ้มค่าเทียบได้กับมาตรฐานสากล เพื่อรองรับกับสถานการณ์โรคและภัยที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะบริบทพื้นที่ภาคเหนือตอนบนมีสภาพทั้งเป็นพื้นที่ภูเขาการเดินทางค่อนข้างลำบากและมีพื้นที่หลายแห่งติดกับชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ประชากรมีการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานและมีแรงงานต่างด้าว ส่งผลต่ออุบัติการณ์โรคและภัยสุขภาพ

กรมควบคุมโรคจึงได้มีนโยบายยกระดับโครงสร้างพื้นฐานการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์และสาธารณสุข โดยกำหนดการสร้างห้องปฏิบัติการอ้างอิงแห่งชาติด้านการป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพเพื่อวิจัยทางคลินิกและเวชกรรมป้องกัน ซึ่งสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นด้านการพัฒนาระบบสุขภาพที่ทันสมัยสนับสนุนกำรสร้างสุขภาวะที่ดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่าอาคารห้องปฏิบัติการควบคุมโรคหลังนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและสนับสนุนหน่วยงานภาคีเครือข่าย ในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 1 เชียงใหม่ความพิเศษและแตกต่างจากห้องปฏิบัติการทั่วไปรวมทั้งลักษณะงานของห้องปฏิบัติการ
​1.เป็นห้องปฏิบัติการโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม ตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการเพื่อการเฝ้าระวังและสอบสวนตรวจโลหะหนัก ตรวจด้วยเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ธาตุ (Atomic Absorption Spectrometry ,AAS)เครื่องแรกของภาคเหนือ
2.ได้รับการรับรองระบบบริหารงานคุณภาพตามมาตรฐานงานเทคนิคการแพทย์ ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์โดยสภาเทคนิคการแพทย์
​3.เครื่องมือตรวจวิเคราะห์ได้รับการตรวจสอบให้สามารถทำงานได้ถูกต้องและตรงตามมาตรฐานทุกปี
4.เป็นศูนย์ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีการตรวจวิเคราะห์ห้องปฏิบัติการด้านวัณโรค โรคเอดส์ โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคมาลาเรีย โรคเท้าช้าง โรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม
5.ตรวจค้นหาการดื้อยาของเชื้อโรค
6.สนับสนุนช่วยเหลือยืนยันผลการตรวจของห้องปฏิบัติการของโรคพยาบาลในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้ทราบผลการตรวจนอกเหนือจากผลการตรวจขั้นพื้นฐาน ​