(มีคลิป) จราจรเชียงใหม่ ขานรับนโยบาย “ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์” เริ่มตั้งแต่วันนี้ ยัน!!! จนท.ไม่มีสิทธิ์ยึดใบขับขี่

วันที่ 20 ก.ย. 62 รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า จากกรณีที่ทางด้านสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีนโยบายและประกาศผลการถแสดงใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับขี่ได้ตามที่กฎหมายบัญญัติ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีสิทธ์ในการยึดใบขับขี่ของผู้ขับขี่ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย. 62 เป็นต้นไป ตามที่ได้มีข้อมูลปรากฎในข่าวไปแล้วนั้น สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ในวันนี้ ทางด้าน พ.ต.ท.ศุภชัย จันทรา รองผกก.กลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงการเริ่มดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวว่า จากการที่ทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในแต่ละสถานี โดยเฉพาะกลุ่มงานจราจรตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและการบังคับใช้กฎหมาย โดยทางท่าน พ.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีนโยบายให้บุคลากรในแต่ละกองบัญชาการ ไปอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายที่จะมีผลในวันนี้ (20 ก.ย.62) ซึ่งหลักๆ ในส่วนของการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวนี้ที่หลายๆ ท่านอาจพอทราบข้อมูลแล้วบ้าง คือ เรื่องของการแสดงใบอนุญาตขับขี่ โดยหน้าที่ของผู้ขับขี่จะต้องแสดงใบอนุญาตซึ่งเป็นฉบับจริง หรือ smart card หรือจะเป็นอันเก่าที่ทางกรมการขนส่งออกให้ก็ได้ และในส่วนของอันที่สอง คือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในส่วนของ แอปพลิเคชัน ของกรมการขนส่งเช่นเดียวกัน แต่การดาวโหลดใบขับขี่ชนิดใหม่นี้
โดยหากเป็นใบขับขี่ชนิดเก่าจะไม่สามารถดาวโหลดได้เนื่องจากไม่มี QR Code ซึ่งเป็นแอปพลิเคชัน ของกรมการขนส่ง ซึ่งหากดาวโหลดมาแล้วจะต้องเข้าไปดำเนินการกรอกข้อมูลก่อนถึงจะโหลดแอปพลิเคชันดังกล่าวได้ ซึ่งในส่วนนี้หากพบทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการเรียกตรวจ และหากทางคนขับไม่สะดวกในการพกพาใบอนุญาตขับขี่ก็สามารถแสดงข้อมูลหลักฐานจากแอปพลิเคชันนี้ได้ แต่เคื่องโทรศัพท์จะต้องมีอินเตอร์เน็ต ซึ่งเมื่อเปิดแอปพลิเคชันแล้ว ก็จะมีการแสดงข้อมูลต่างๆ ที่ทางคนขับสามารถนำมาแสดงกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการตั้งจุดตรวจหรือมีการเรียกตรวจหลักฐานได้นอกจากนี้ ในวันนี้ (20 ก.ย.62) เป็นต้นไปทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่มีการเรียกเก็บหรือตรวจยึดใบอนุญาตขับขี่แต่อย่างใด และในส่วนของหน้าที่ของผู้ขับขี่คือหากมีการกระทำความผิดตามกฎจราจรก็จะถูกดำเนินการตามกฎหมายคำสั่งเช่นเดิม โดยในส่วนของมาตรการต่อไปต่างๆ หลังจากนี้นั้นทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็จะมีการแจ้งข้อมูลให้กับประชาชนทราบต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น