รวบอดีตตำรวจ พัวพันยาเสพติด คาบ้านพัก ตรวจประวัติเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน กลับไปผันตัวค้าย้าบ้าอีก สุดท้ายคอตกกลับเจ้าคุก

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ก.ย. 62 พ.ต.อ.สุรพงษ์ บุญยืน ผกก.สภ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการกวากล้างยาเสพติดในพื้นที่ และจับกุมผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายสำคัญคือ นายกีรติ พิชัย หรือ จ่าติ่ง อายุ 45 ปี อดีตสิบตำรวจตรี สังกัดสถานีแห่งหนึ่ง โดยทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้ ภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง ไม่มีเลขที่ ม.9 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 115 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกสีฟ้า ดำเนินคดีในข้อหา “มียาบ้าไว้ในครอบครอง เพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”
โดยทาง พ.ต.อ.สุรพงษ์ บุญยืน ผกก.สภ.สันทราย เปิดเผยว่า การจับกุมผู้ต้องหารายนี้ สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 62 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.สันทราย ได้สืบทราบว่า นายกีรติ พิชัย หรือ จ่าติ่ง เป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งได้นำยาบ้ามาลักลอบจำหน่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่น และผู้ใช้แรงงานที่เสพยาเสพติด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ดำเนินการสืบสวน จนกระทั่งทราบในเวลาต่อมาว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้กบดานตัวอยู่ภายในบ้านพักแห่งหนึ่ง ไม่มีเลขที่ ม.9 ต.สันทรายน้อย อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ จึงได้เฝ้าติดตามดูพฤติกรรม จนกระทั่งมั่นใจว่าผู้ต้องหานั้น กระทำการในลักษณะดังกล่าวจริง
จากนั้นจึงได้นำหมายค้น จ.เชียงใหม่ที่ ค 374/2562 ลงวันที่ 24 ก.ย. 62 เข้าดำเนินการตรวจค้นภายในบ้านพักหลังดังกล่าว ซึ่งในการเข้าตรวจค้นนั้นได้พบกับ นายกีรติ พิชัย หรือ จ่าติ่ง อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว และจากการตรวจค้นก็พบของกลางภายในห้องนอน ซึ่งทางเจ้าตัวรับสารภาพว่าเป็นยาบ้าของตนที่ได้นำมาลักลอบจำหน่ายจริง จึงได้ทำการจรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน และได้นำตัวมาสอบสวนที่ สภ.สัน ทราย
โดยเบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า นายกีรติ พิชัย หรือ จ่าติ่ง ได้เคยถูกจับกุมตัวในคดียาเสพติดมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2558 ซึ่งได้มีการลงโทษให้ออกจากหน้าที่ราชการ และตัดสินจำคุก โดยเพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน และไม่หลาบจำ จากนั้นก็ได้มากระทำการในลักษณะดังกล่าวอีกครั้ง จนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสืบทราบ และถูกจับกุมในที่สุด อย่างไรก็ตาม คดีนี้ถือเป็นคดีที่สำคัญเนื่องจากผู้กระทำความผิดนั้นเคยเป็นอดีตตำรวจ ที่กลับไปกระทำผิดเสียเอง อีกทั้งก็เคยถูกจับกุมดำเนินคดีมาแล้ว ซึ่งจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการสอบสวนขยายผล เพื่อจับกุมขบวนการที่อยู่เบื้องหลัง และจะได้นำตัวผู้ต้องหาส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น