“ชิมช้อปใช้” ทำพิษ หนุ่มเข้าแจ้งความหลังแม่ลงทะเบียนแต่กลับไม่สำเร็จ หวั่นถูกสวมสิทธิ์

ช่วงเย็นวันที่ 28 ก.ย.62 รายงานข่าวแจ้งว่า ที่สถานีตำรวจช้างเผือก จ.เชียงใหม่ นายภาณุมาศ พุ่มพวง อายุ 36 ปี ที่อยู่เลขที่ 110 ม.4 ต.เขื่อนผาก อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ได้เดินทางหอบหลักบานเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กรณีที่ทางเจ้าตัวได้ใช้บัตรประชาชนของมารดาชื่อ นางอุไร กองแก้ว อายุ 59 ปี เพื่อนำไปลงทะเบียนใช้สิทธิ์ ในเว็บไซต์ “ชิมช้อปใช้” แต่ปรากฎว่าทางเว็บไซต์ ได้ส่งข้อความแจ้งว่า ดำเนินการไม่สำเร็จ เนื่องจากหมายเลขบัตรประชาชนหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือได้ถูกลงทะเบียนแล้ว ทั้ง ๆ ที่ทางตนและมารดาไม่เคยลงทะเบียนมาก่อนแต่อย่างใด ทางตนจึงเกรงว่าจะมีการแอบอ้างสิทธิ์และบัตรประชาชนของมารดาถูกนำไปใช้ลงทะเบียน จึงได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เพื่อเป็นหลักฐาน และขอให้มีการดำเนินการตรวจสอบ
โดยทาง นายภาณุมาศ พุ่มพวง เปิดเผยว่า จากกรณีที่ทางรัฐบาลได้มีการประกาศเรื่องของการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนใช้สิทธิ์ในเว็บไซต์ ชิมช้อปใช้.com เพื่อนำเงินเข้าในตัวของแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ซึ่งจะได้เงินจำนวน 1,000 บาท เพื่อใช้ไปท่องเที่ยวตามจังหวัดต่าง ๆ ที่ได้เลือกลงทะเบียนไว้ โดยหากมีการเติมเงินเข้าไปและมีการเลือกต่างจังหวัดที่ไม่ตรงกับทะเบียนบ้านก็จะได้เงินคืนอีก 15 เปอร์เซ็น จากเงินที่จ่ายไป ตนจึงเกิดความสนใจและได้ทำการลงทะเบียน โดยในตอนแรกได้มีการลงทะเบียนในส่วนของตัวเองก่อน ก็ปรากฎว่าสามารถลงทะเบียนผ่าน และครั้งต่อมาได้ลงทะเบียนให้กับญาติของตัวเองก็ผ่านปกติ จนกระทั่งได้มาลงทะเบียนให้กับมารดาของตัวเองโดยทำตามขั้นตอนเหมือนกันทุกอย่างและใช้บัตรประชาชนของมารดา แต่ปรากฎว่าไม่ผ่าน โดยทางเว็บไซต์แจ้งว่า ดำเนินการไม่สำเร็จ เนื่องจากหมายเลขบัตรประชาชนหรือหมายเลขโทรศัพท์มือถือได้ถูกลงทะเบียนแล้ว ทั้ง ๆ ที่ข้อมูลเบอร์โทร อีเมล และเลขบัตรประชาชนก็ยังไม่เคยใช้ ซึ่งตนก็ได้พยายามลงทะเบียนซ้ำหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ผ่านจึงสงสัยว่าอาจจะเกิดจากการผิดพลาดของระบบข้อมูล หรือไม่ก็อาจจะมีคนนำข้อมูลของมารดาไปอ้างสิทธิ์จริงจึงได้มาแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐานไว้ก่อน
ทั้งนี้ตนได้เริ่มลงทะเบียนข้อมูลของตัวเองก่อนตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา จากนั้นก็เว้นช่วงไป 1 คืน แล้วได้มาลงทะเบียนของฐาติอีกคนในคืนถัดมา แล้วหลังจากนั้นจึงลงทะเบียนของมารดาแต่ปรากฎว่าก็มีแต่ของมารดาเท่านั้นที่ถูกแจ้งว่าไม่ผ่าน อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่ทางตนได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วนั้น ในเบื้องต้นได้มีการลงบันทึกประจำวันและหลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็จะได้มีการประสานไปยังคอลเซ็นเตอร์ เพื่อสอบถามข้อมูลและหาข้อบกพร่องว่าเกิดจากอะไรจากนั้นก็จะได้แจ้งเรื่องให้กับตนทราบอีกครั้งหนึ่ง แต่จากการที่ตนได้โทรไปสอบถามกับทางเบอร์ของคอลเซ็นเตอร์ หมายเลข 02 111 1144 ก็พบว่าสายไม่ว่างซึ่งอาจจะมีการสอบถามจากประชาชนจำนวนมาก จึงตัดสินใจเข้ามาแจ้งความไว้ก่อนเพื่อความสบายใจ

ร่วมแสดงความคิดเห็น