ชาวบ้านน้ำโท้ง ต.นาครัว อ.แม่ทะ ลงแรงส่งเสริมการท่องเที่ยวดึงดูดนักท่องเที่ยว ด้วยชุมชนเอง

ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ได้มีประชาชนนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ พากันนำบุตรหลาน ครอบครัวเข้ามาเที่ยวชมขัวแตะ หรือสะพานไม้ไผ่ ที่สร้างจากตลิ่งทอดยาวไปกลางน้ำ บริเวณท้ายฝายน้ำล้น ที่กั้นลำน้ำจาง บ้านน้ำโท้ง หมู่ 1 ต.นาครัว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง โดยมีศาลาไม้ไผ่ ตั้งอยู่กลางน้ำ ท่ามกลางทุ่งดอกบัวอย่างสวยงาม นายชำนาญ เมืองใจ ผู้ใหญ่บ้านน้ำโท้ง หมู่ 1 กล่าวว่า หมู่บ้านแห่งนี้ มีอาชีพแกะสลักเป็นส่วนใหญ่ ที่ผ่านมาประชาชนทั่วจะรู้จักกันแต่เพียงแค่หมู่บ้านหลุก ที่เป็นหมู่บ้านแกะสลักเท่านั้น ทั้งที่หมู่บ้านน้ำโท้งแห่งนี้ อยู่ติดกับบ้านหลุกและแกะสลักไม้เช่นกัน จึงมีการประชุมลูกบ้านหาแนวทางที่จะให้ประชาชนทั่วไปหรือนักท่องเที่ยวได้ รู้จักชื่อเสียงของหมู่บ้านที่มีอาชีพสลักไม้ เห็นว่าบริเวณที่แห่งนี้ มีดอกบัวอยู่เต็มท้องน้ำจำนวนมาก และกำลังผลิดอกอย่างสวยงาม โดยที่ประชุมหมู่บ้านได้มีมติ ลงความเห็นว่า ต้องสร้างสิ่งดึงดูดใจขึ้นมา 1 แห่ง คือ การสร้างขัวแตะ หรือสะพานไม้ไผ่ หลังจากเห็นตัวอย่างจากหลายแห่งที่มีการสร้างขัวแตะก็ได้รับการตอบรับอย่างดี จึงมีแนวคิดสร้างขัวแตะไปกลางน้ำและมีศาลาที่พัก โดยได้ออกแบบเป็นศาลาไม้ไผ่เอามาสานกัน เป็นประติมากรรมศาลาไม้ไผ่ที่สวยงาม ซึ่งได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในการจัดหาอุปกรณ์สิ่งก่อสร้างต่างๆ มา ร่วมแรงร่วมใจกันก่อสร้างจนเกือบสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยไม่ได้ใช้งบประมาณจากส่วนราชการต่างๆ แต่อย่างใด เพราะชุมชนทำเองลงขันกันเองทำให้เกิดความรักความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่บ้าน ชาวบ้านร่วมกันเป็นผู้ต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี ซึ่งต่อไปหากสร้างเสร็จแล้วก็จะมีการนำสินค้าโอทอป หรือผลิตภัณฑ์งานแกะสลัก มาวางขายและให้เป็นที่รู้จักต่อไป รวมไปถึงสินค้าในท้องถิ่นต่างๆมาไว้ให้บริการได้ทั่วถึง เพื่อสร้างชื่อเสียงของหมู่บ้านและส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างมูลค่าเศรษฐกิจให้มาคึกคักอีกครั้ง ซึ่งจะมีการเปิดบริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 ต.ค. 62 นี้ ด้านนายธวัช แก้วเกิด นายกเทศมนตรีตำบลนาครัว กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีที่ชุมชนสามัคคีกันสร้างสันสิ่งดีให้เกิดขึ้นมา ด้วยพลังชุมชนโดยไม่หวังพึ่งพางบประมาณจากภาครัฐมาสนับสนุน ดึงจุดเด่นที่ซ่อนตัวออกมาได้อย่างชัดเจน และขัวแตะหรือสะพานไม้ไผ่ชมทุ่งดอกบัวแห่งนี้ กำลังเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยมีประชาชนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชมอย่างไม่ขาดสายเฉลี่ยวันละไม่ต่ำกว่า 200-300 คน แต่เพื่อความไม่ประมาท ทางตนเองได้สั่งการให้กองช่างเทศบาลตำบลนาครัว เข้ามาตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง และให้คำแนะนำรูปแบบการสร้างรากฐานที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้มีคำแนะนำแจ้งผู้ที่จะเดินข้ามขัวแตะไปยังศาลาไม้ไผ่ จะรับน้ำหนักได้ครั้งละไม่เกิน 50 คน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนนักท่องเที่ยวที่มาให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด ขณะเดียวกันก็จะมีการจัดระเบียบการจอดรถเพราะถนนแคบเส้นทางนี้มีรถสัญจรเยอะจะต้องมีการติดตั้งป้ายแจ้งเตือนต่างๆ ชัดเจนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น