หนุ่มแพร่ จอดปิกอัพข้างทางลง แล้วไปนั่งกินเตี๋ยว จู่ๆสาวขับเก๋งพุ่งชนท้ายรถพังยับ ส่วนรถยนต์สาวคู่กรณีด้านหน้าพัง คนนั่งมาด้วยบาดเจ็บ

วันที่ 22 ตุลาคม 2562 เวลา 03.20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์รับแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191 ภูธร จ.ลำปาง ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า มีอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนท้ายรถยนต์ปิกอัพ หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวป้าลาว บ้านป่าแลว หมู่ที่ 13 ถนนลำปาง – แม่ทะ ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งชาย-หญิง หลายรายติดอยู่ภายในรถยนต์เก๋ง
หลังรับแจ้งจึงประสานเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ ออกตรวจสอบให้การช่วยเหลือจากนั้น ร.ต.อ.ชย ณัฐ เตชะผาติกุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.เขลางค์นคร จึงรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ บริเวณหน้าร้านก๋วยเตี๋ยวก็พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้าแจ๊ส สีขาว หมายเลขทะเบียน กบ – 1740 ลำปาง สภาพหน้ารถพังยับ โดยเสียหลักขึ้นไปอยู่บนหน้าร้านเสริมสวย ในรถมีผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ภายในรถ 4 ราย ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้อ อีซูซุ สีดำ หมายเลขทะเบียน บน – 669 ลำปาง สภาพด้านท้ายพังยับเช่นกัน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายภัทรวัฒน์ ใจไว อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192 หมู่ที่ 7 ต.ปงป่าหวาย อ.เด่นชัย จ.แพร่ เป็นช่างซ่อมบำรุง กฟผ.แม่เมาะ ได้ขับรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้อ อีซูซุสีดำ หมายเลขทะเบียน บน – 669 ลำปาง โดยมีเพื่อนมาด้วย จำนวน 2 คน ได้พากันมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านป่าลาว บ้านป่าแลว หมู่ที่ 13 ถนนลำปาง-แม่ทะ ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง โดยจอดรถยนต์ปิกอัพ ไว้บริเวณข้างถนนหน้าร้าน ขณะกำลังนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่นั้น
ได้มีรถยนต์เก๋งแจ๊ส สีขาว มี น.ส.นารีรัตน์ อ๊อดปลูก อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 หมู่ที่ 7 ต.วอแก้ว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เป็นคนขับ โดยมีเพื่อนชายนั่งมาด้วย 2 คน และเพื่อนหญิงอีก 1 คน รวม 4 คน ได้ขับพุ่งเข้าชนท้ายรถยนต์กระบะของนายภัทรวัฒน์ ที่จอดอยู่อย่างจังจนเสียงดังสนั่น จนทำให้รถยนต์ปิคอัพกระเด็นไถลไปจอดห่างจากจุดเดิม ประมาณ 50 เมตร ส่วนรถยนต์เก๋งได้กระเด็นไปอยู่หน้าร้านเสริมสวย ส่งผลให้รถทั้งสองคันพังเสียหายยับเยิน และคนภายในรถยนต์บาดเจ็บ
ก่อนที่เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ จะได้เข้าช่วยเหลือนำตัวออกมาจากตัวรถ และปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บเบื้องต้น และรีบนำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลลำปาง ส่วนสาเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวน สภ.เขลางค์นคร จะได้ทำการสอบสวนโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น