ศิลปากรที่ 7 แจง ยังไม่อนุญาตขายสินค้าบนลานท่าแพ ย้ำข่วงวัฒนธรรมไม่ใช่ตลาดนัด

วันที่ 26 ต.ค. 62 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกระแสข่าวในเรื่อง จะมีการจัดล็อคเพื่อให้พ่อค้า แม่ค้า กลับมาขายสินค้า บริเวณพื้นที่ข่วงประตูท่าแพ เหมือนดั่งเช่นก่อน ปี 2557 สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่ ได้รับมอบหมายจากจังหวัดเชียงใหม่ ให้กำกับดูแลพื้นที่ให้สงวนไว้ เพื่อการศึกษา ศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี จิตอาสาและงานราชพิธีนั้น
สำนักฯ ขอเรียนให้ทราบว่า ได้รับการประสานจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ โดยได้ประชุมหารือกันหลายภาคส่วน ในวันที่ 24 ตุลาคม 2562 สำนักฯ ได้สนับสนุนในแนวคิดในการสร้างมูลค่าเพิ่มในการใช้พื้นที่ข่วงประตูท่าแพ และได้ให้ข้อแนะนำในการพัฒนาข่วงประตูท่าแพ ให้เป็น “ข่วงวัฒนธรรมที่แท้จริง” ไม่ใช่ตลาดนัด ห้ามมิให้ใครกระทำเพื่อเอาสมบัติมรดกทางวัฒนธรรม มาเป็นแหล่งกอบโกย หาผลประโยชน์ และสำนักฯ ได้ทบทวนและมีแนวคิดว่า หากจะมีการดำเนินการใด ๆ จะต้องให้ข่วงวัฒนธรรมประตูท่าแพ เป็นในแนวทางดังนี้

1.ข่วงประตูท่าแพ จะต้องเป็นข่วงวัฒนธรรมที่แท้จริง ที่จะให้จัดกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องเฉพาะ การศึกษา การศาสนา ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี จิตอาสาและงานราชพิธี
2.ในการเป็นข่วงวัฒนธรรม จะต้องรักษาความเป็นเอกลักษณ์ หรือ แลนด์มาร์คของเมือง คำนึงถึงภาพลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่เป็นสำคัญ
3.หากมีกิจกรรมที่เป็นพาณิชย์ จะอนุโลมให้เฉพาะสินค้าที่เกี่ยวข้องกับชุมชน วัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถิ่น ชาติพันธุ์ สินค้าที่เป็นการส่งเสริมโดยรัฐ ทั้งนี้จะต้องมีการออกแบบวางผังการจัดพื้นที่ข่วงวัฒนธรรม โดยจะต้องไม่บดบังจุดสำคัญของข่วงประตูท่าแพ และมีพื้นที่สาธารณะในการจัดกิจกรรมอื่น ไม่ใช่ตลาดนัด
4.ไม่อนุญาตให้ขายสินค้าอื่นเช่น สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ, สินค้าประเภทเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์, สตรีทฟู้ด, อาหารปรุงสำเร็จในที่, อาหารสัตว์ เว้นแต่อาหารที่ดำรงความเป็นไทย ความเป็นอัตตลักษ์ของท้องถิ่น ชาติพันธุ์ ที่บรรจุสำเร็จ
5.ห้ามไม่ให้มีการกางเต้นท์ผ้าใบ หรือสิ่งก่อสร้างแปลกปลอมอื่น ห้ามติดป้ายโฆษณาอื่นใดที่สื่อไปถึงการโฆษณาเพื่อการพาณิชย์อื่น นอกจากป้ายแสดงสินค้า หรือป้ายนิทรรศการแสดงความเป็นมา ที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมนั้น ๆ
6.ผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม จะต้องแต่งกายด้วยชุดผ้าพื้นเมือง ชุดชนเผ่า การจัดวางสินค้าจะต้องใช้วัสดุที่เป็นธรรมชาติ เช่น วางบนแคร่ไม้ไผ่ แขวนบนมู่ลี่ไม้ไผ่ ใช้ร่มผ้าฝ้ายดิบเพื่อป้องกันแดด น้ำค้าง ไม่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากโฟมและพลาสติก เป็นต้น
7.ให้ใช้พื้นที่ได้เฉพาะวันอาทิตย์ หลังจากเวลา 12.00 น. เป็นต้นไป จนถึงเวลา 24.00 น. และหากวันอาทิตย์ใด ตรงกับที่ส่วนราชการจะต้องใช้พื้นที่ในการจัดงานราชพิธี หรือจัดงานตามขนบธรรมเนียมประเพณี หรือกิจกรรมจิตอาสา จะต้องงดใช้พื้นที่ในการจัดกิจกรรมข่วงวัฒนธรรม ทุกครั้ง
8.ไม่อนุญาตให้จอดรถบนข่วงประตูท่าแพ ในช่วงจัดกิจกรรม ข่วงวัฒนธรรม ยกเว้นเพื่อการขนถ่ายลงวัสดุที่เกี่ยวข้องเท่านั้น
9.ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะต้องรักษาความสะอาด หรือจ่ายค่าธรรมเนียมในการรักษาความสะอาด ตามระเบียบส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
10.ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียม ค่าเช่าล็อคหรือค่าเช่าแผง แต่อย่างใด
11.การออกแบบ วางผังการจัดพื้นที่ ในการใช้ประโยชน์ในพื้นที่อย่างเป็นระบบ มีการประชาสัมพันธ์ และรับฟังแนวความคิดของประชาชนชาวเชียงใหม่โดยรวมเป็นสำคัญ
12.ต้องมีคณะกรรมการทั้งภาครัฐและประชาชน กำกับดูแลอย่างเป็นระบบ

ทั้งนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ ผลได้ ผลเสีย ยังไม่มีการอนุญาตให้ดำเนินการในพื้นที่แต่อย่างใด
ที่มา : สำนักศิลปากรที่ 7 เชียงใหม่

ร่วมแสดงความคิดเห็น