จากกรณีที่ช่วงบ่ายวันที่ 27 ต.ค.62 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุคนเสียชีวิตภายในตึกแถวซอยตรงข้ามวัดพระธาตุศรีจอมทอง ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ หลังทราบเรื่องจึงได้เข้าทำการตรวจสอบโดยที่เกิดเหตุมีการปิดประตูมิดชิด แต่มีกลิ่นเน่าเหม็นโชยออกมาจากในตัวตึก ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งกับทางญาติมาทำการงัดประตูเข้าไปเพราะใช้คีย์การ์ดในการปลดล๊อคประตู ซึ่งตรวจสอบพบว่ามีศพหญิงถูกมัดมือมัดเท้า ยัดอยู่ในตู้เย็นถูกโบกด้วยปูนทับอีกชั้นเพื่ออำพรางศพ และคาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบเก็บข้อมูลในที่เกิดเหตุ และในเวลาต่อมา ทราบชื่อผู้ตายคือ นางสาววรรณี จิระเจริญยิ่ง อายุ 58 ปี ซึ่งมีภูมิลำเนาเป็นคนต่างจังหวัด แต่มาเช่าตึกดังกล่าวเพื่อปฏิบัติธรรมที่วัดพระธาตุศรีจอมทอง ตามที่ได้มีการนำเสนอข้อมูลเบื้องต้นไปแล้วนั้น
สำหรับความคืบหน้าล่าสุด จากการตรวจสอบและรวบรวมข้อมูลในที่เกิดเหตุนั้นพบว่าภายในบริเวณตึกมีกล้องวงจรปิด แต่ได้ถูกคนร้ายที่ก่อเหตุทำการถอดปลั๊กที่เชื่อมต่อออกทั้งหมดเพื่อป้องกันการตรวจสอบหลักฐาน อีกทั้งยังทราบว่าทรัพย์สินของผู้ตายได้หายไปคือ รถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับบลิวซีรีย์ 3 ที่คาดว่าหลังคนร้ายก่อเหตุแล้วนั้นน่าจะได้ใช้รถคันดังกล่าวขับหลบหนีออกจากนอกพื้นที่ไป และในเบื้องต้นจากเบาะแสที่มีในขณะนี้คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุนั้นน่าจะเป็นคนใกล้ตัวที่รู้จักกับผู้ตาย และสาเหตุการลงมือนั้นน่าจะมาจากการมุ่งประสงค์ต่อทรัพย์ เนื่องจากผู้ตายนั้นเป็นคนค่อนข้างมีฐานะพอสมควร และมักจะทำบุญเพราะจากการตรวจสอบประวัติยังพบว่าได้เคยถวายรถตู้ให้ทางวัด พระธาตุศรีจอมทองไว้ใช้ในกิจของสงฆ์จำนวน 1 คัน อีกด้วย
ขณะเดียวกันจากการสอบถามทางด้าน พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภาค 5 เผยว่า ความคืบหน้าของคดีที่เกิดนั้น ในขณะนี้ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน รวมทั้งเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้เร่งรวบรวมเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุแล้ว โดยจาการตรวจสอบในขณะนี้ทราบเบาะแสมาว่า ผู้ตายนั้นเป็นนักปฏิบัติธรรมและชอบทำบุญกับทางวัดพระธาตุศรีจอมทอง โดยได้มาเช่าตึกที่เกิดเหตุอยู่อาศัยและมักจะไปปฏิบัติธรรมที่วัด โดยก่อนจะมาเจอผู้ตายเป็นศพถูกฆ่ายัดในตู้แช่โบกปูนทับนั้นทางญาติได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อกับผู้ตาย แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ และคิดว่าผู้ตายนั้นน่าจะปิดโทรศัพท์เพราะอยู่ในระหว่างปฏิบัติธรรม ประกอบกับชาวบ้านในระแวกก็ไม่มีใครพบเห็นผู้ตายมาพักใหญ่
จนกระทั่งในวันนี้ชาวบ้านในระแวกก็ได้กลิ่นเหม็นคละคลุ้งออกมาจากในตึก และพยายามตรวจสอบดูแต่ก็พบว่าบ้านนั้นได้ถูกปิดเงียบสนิท และรถยนต์ของผู้ตายก็ไม่อยู่ จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้เข้าทำการตรวจสอบ จนกระทั่งมาพบว่าผู้ตายกลายเป็นศพถูกฆ่าอย่างสยดสยอง
อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นนี้ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายที่ก่อเหตุฆ่าผู้ตายนั้นน่าจะเป็นคนรู้จักหรือคนใกล้ตัวที่เกี่ยวข้องกับผู้ตาย ซึ่งอาจจะมาพักอาศัยกับผู้ตายก่อนเกิดเหตุ เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ตายไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับผู้ใด จากนั้นคาดว่าน่าจะเห็นว่าผู้ตายเป็นคนมีฐานะจึงวางแผนฆ่า และได้ทำการอำพรางศพก่อนจะใช้รถของผู้ตายหลบหนีออกนอกพื้นที่ โดยตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานก็ได้มีการตรวจสอบร่องรอยและลายนิ้วมือของบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุนอกเหนือจากร่องรอยของผู้ตาย รวมไปถึงภาพจากกล้องวงจรปิดในระแวกใกล้ที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบรถของผู้ตายที่คนร้ายใช้ขับออกไปจากที่เกิดหตุอย่างละเอียดแล้ว โดยคาดว่า คดีนี้น่าจะรู้ตัวคนร้ายและจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีกันต่อไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น