สัมผัสลมหนาวและสายหมอกของอรุณแรกบน “ภูชี้ฟ้า”

“ภูชี้ฟ้า” ได้ชื่อว่าเป็นยอดดอยมหัศจรรย์ เมื่อเวลาที่ได้ยืนอยู่บนชะง่อนหินที่ยื่นล้ำออกไปในเขตประเทศลาว เสมือนหนึ่งว่าเป็นนกที่กำลังเตรียมจะโผบิน การเดินทางขึ้นไปยังภูชี้ฟ้าถือได้ว่าสะดวกสบายกว่าแต่ก่อนเยอะ จากที่เคยสัญจรไปมาลำบากถนนเต็มไปด้วยฝุ่น เส้นทางแคบและชันซึ่งกว่าจะเดินทางมาถึงภูชี้ฟ้าต้องใช้เวลานานเป็นวัน ปัจจุบันมีเส้นทางขึ้นไปยังภูชี้ฟ้าได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นทางจากอำเภอเทิง ผ่านหมู่บ้านปางค่า หรือเส้นทางขึ้นที่บ้านเชงเม็ง ซึ่งเป็นเส้นทางที่ยากลำบากทางขึ้นแคบและเต็มไปด้วยฝุ่นจากการสร้างถนน แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ศึกษาเส้นทางมาก่อน จะนิยมขึ้นที่บ้านฮวก กิ่งอำเภอภูซาง ผ่านตลาดนัดไทย-ลาว ซึ่งจะเปิดซื้อขายสินค้ากันทุกวันที่ 10, 20 และ 30 ของเดือนทางสายนี้จะลาดยางเป็นช่วงๆ ไม่ชันนัก ตลอดเส้นทางนักท่องเที่ยวยังสามารถเก็บเกี่ยวความงามจากป่าและทิวทัศน์สองข้างทางได้อีกด้วย จากบ้านฮวกจนถึงบ้านร่มฟ้าไทย ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร ถ้าไม่รีบเร่งนักก็ใช้เวลาเดินทางในช่วงนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง บริเวณภูชี้ฟ้ามีรีสอร์ทเกิดขึ้นมากมาย ทั้งเจ้าของที่เป็นคนไทยและต่างชาติ เพื่อรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวที่ทะลักขึ้นภูชี้ฟ้าในช่วงวันหยุดเทศกาลยาวๆ ถึงปีละเกือบแสนคน จึงไม่แปลกใจว่าที่นี่จะมีรีสอร์ท ตั้งแต่ระดับหรูเลิศไปจนถึงกระต๊อบ ที่สนนราคาค่าเช่าต่อคืน ไม่ถึงร้อยบาท สำหรับนักท่องเที่ยวประเภทค่ำไหนนอนนั่นหรือพวกที่หลงไหลไอดินกลิ่นป่า สามารถหาที่กางเต๊นท์พักแรมได้ ซึ่งจำกัดวงอยู่ในเฉพาะบริเวณเขตที่ทำการอุทยานฯ เท่านั้น ดังนั้นไม่ว่าจะนอนรีสอร์ทหรูเลิศหรือนอนในเต็นท์ ตื่นเช้ามาก็ต้องเดินขึ้นไปชมทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดภูเหมือนกันหลังจากไต่ความสูงจนถึงปลายยอดของภูชี้ฟ้า เหลือบมองไปเบื้องล่างก็เสมือนว่ายืนอยู่บนหลังคาโลก ทว่าแท้จริงแล้วเบื้องใต้ภูชี้ฟ้า คือ เมืองเชียงตอง แขวงบ่อแก้ว ของลาว ซึ่งกินอาณาเขตขึ้นมาจนถึงปลายยอดของภูชี้ฟ้าถอยร่นลงไปจนถึงหน่วยจัดการต้นน้ำ กรมป่าไม้ใกล้ตีนภูนั้นต่างหาก ถึงจะเป็นพื้นที่บ้านร่มฟ้าไทย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ทุกครั้งที่ขึ้นไปยืนอยู่บนปลายยอดของภูชี้ฟ้า ก็พึงต้องสำเหนียกว่านี่เรากำลังเหยียบอยู่บนแผ่นดินเพื่อนบ้าน ที่สถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศอันราบรื่นขณะนี้เสริมส่งให้มีการผ่อนปรน เพื่อการท่องเที่ยวได้เท่านั้น แต่ใช่ว่าจะทำอะไรได้ตามอำเภอใจทะเลหมอกที่ขาวโพลนของภูชี้ฟ้า แตกต่างจากห้วงสมุทรก็ตรงที่มันเป็นทะเล ซึ่งสงบงันอย่างเจียมตน ด้วยอาจรู้ตัวว่า พลันเมื่อมีไอร้อนจากผืนดินมากระทบ ความเป็นทะเลแห่งสายหมอกก็จะมลายหายไปในไม่ช้า จนเมื่อแสงแดดเริ่มทาบทอที่ขอบฟ้า ความอบอุ่นจากไอแดดที่สาดส่องมายังโลก สร้างสีสันให้โลกกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ในช่วงฤดูหนาวทิวทัศน์และทะเลหมอกบนภูชี้ฟ้าจะสวยงามที่สุด อากาศหนาวเย็นมาก บางปีอุณหภูมิลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง นักท่องเที่ยวมีโอกาสพบน้ำค้างพบน้ำค้างแข็งปรากฏตามใบไม้และพื้นหญ้า ถ้าเป็นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ก็จะเห็นดอกเสี้ยวหรือชงโคป่าบานสะพรั่งอวดดอกสีขาวอยู่ทั่วไปการเดินทางขึ้นไปชมความสวยงามของยอดภูชี้ฟ้ามีเส้นทางอยู่สองแห่ง คือ จากอำเภอเทิงใช้เส้นทางสายเทิง-ปางค่าระยะทางประมาณ 24 กิโลเมตร จากนั้นจะเป็นทางลูกรังค่อนข้างชันขึ้นไปถึงภูชี้ฟ้าอีก 19 กิโลเมตร แล้วเดินทางต่อขึ้นไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตรก็จะถึงยอดภูชี้ฟ้า ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งนักท่องเที่ยวจะนิยมขึ้นที่บ้านฮวก ทางค่อนข้างดีมีลูกรังเป็นบางช่วง จนถึงบ้านร่มฟ้าไทยระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร บริเวณเชิงเขามีที่พักของหน่วยฯฉก. 327 กองทัพภาคที่ 3 ซึ่งอนุญาติให้นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์นอนได้ นอกจากนั้นตามหมู่บ้านเชิงภู ยังมีรีสอร์ทและบ้านพักให้บริการแก่นักท่องเที่ยวในราคาประหยัด

บทความโดย
จักรพงษ์ คำบุญเรือง

ร่วมแสดงความคิดเห็น