หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล บรรยายพิเศษ ณ วังวรดิศ โรงเรียนดำรงราชานุภาพ

“ข้าราชการ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน และลูกหลานเยาวชนทุกๆ คณะที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมวังวรดิศ ต่างพากันแสดงทัศนคติว่า อยากแลเห็นบ้านเมืองไทยมีความร่มเย็นเป็นสุข เลิกลุแก่อำนาจ วัดรอยเท้าผู้ใหญ่ วางอำนาจบาตรใหญ่ หลงลืมตัวเป็นวัวลืมตีน ไม่อิจฉาให้ร้ายผู้คนเป็นว่าเล่น ลบหลู่ดูหมิ่นบรรพชน แต่สมควรใช้ ‘อำนาจ’ พร้อมกับมี ‘ความรับผิดชอบและวุฒิภาวะ’ เป็นที่ตั้งโดยปราศจากอคติ ในบริบทที่ความรับผิดชอบกับอำนาจหน้าที่เดินไปเป็นทางคู่ขนาน ไม่แยกออกจากกัน ไม่ล้ำเส้น ไม่สุดโต่ง ไม่ให้ร้าย ไม่แบ่งแยกแล้วปกครอง หรือ ‘Divide and Rule’ ที่กลายเป็นความล้มเหลวทางระบบการเมืองการปกครองโดยสิ้นเชิง ยุติการใส่ร้ายป้ายสีบุคคลอื่น อิจฉาตาร้อน ทำมากกว่าพูด หาใช่พูดมากกว่าทำ ต่างคนต่างต้องมีวิริยภาพ ขวนขวายศึกษา มีความแม่นยำทางหลักวิชาการทั้งในเชิงการศึกษาเปรียบเทียบและงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ การใช้ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศที่ไพเราะทั้งสำเนียงและหลักไวยากรณ์ ไม่ผลีผลาม รู้จักการยับยั้งชั่งใจ ต่างทำงานในหน้าที่ความรับผิดชอบให้ดีที่สุด ประการสำคัญ คือ การเป็นกำลังใจ การเป็นแบบอย่างที่ดีแก่กัน อ่อนน้อมถ่อมตน เป็นสุภาพชน ไม่ทะลึ่งตึงตัง อย่าสำคัญตนผิด อย่านิยมการให้ผู้คนมาประจบประแจงเอาใจตามที่บรรพชนสั่งสอนอบรมเราทุกคนไว้ว่าเป็นสิ่งไม่พึงกระทำ ชนรุ่นเก่าผู้มีบุญคุณใหญ่หลวง ชนรุ่นใหม่ต่างมีความรู้-รัก-สามัคคี, เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา เราทำความดีด้วยหัวใจ เพื่อความหวังต่อชนรุ่นในอนาคต หรือ ‘Future Generation’ ได้พบกับความสำเร็จในการดำรงรักษาประเทศชาติ ตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี มีระบบการปกครองที่สร้างสรรค์และประชาธิปไตยที่มีระเบียบ หรือ ‘Procedural Democracy’ โดยการจัดการความขัดแย้ง หรือ ‘Conflict Management’ กล่าวคือ กระบวนการลดผลเสียและเพิ่มผลดีของความขัดแย้งอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเรียนรู้ร่วมกันและเพิ่มพูนประสิทธิผลของการเรียนรู้ในองค์กร หรือ ‘Organizational Learning’ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐยึดหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด ไม่ฝักใฝ่พรรคการเมืองอย่างเปิดเผย มีความประหยัดในการครองตน กล่าวคือ มีความพอเพียง เสมอต้นเสมอปลายในคุณความดี เจียมเนื้อเจียมตัว ไม่โลภโมโทสัน ไม่ทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นคนดีคนเดิมที่ใครๆ ต่างชื่นชอบและจดจำ เป็นแบบอย่างแห่งพลังศรัทธาให้กับสังคมของคนในชาติ และลูกหลานเยาวชนสืบไปเป็นนิรันดร์”