มท.ภ.3 ติดตามมาตรการป้องกันแก้ไขไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่จังหวัดเชียงราย

เมื่อวันที่ 5 พ.ย. 2562 ที่ห้องประชุมจอมกิตติ ศาลากลางจังหวัดเชียงราย พลโทฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 พร้อมด้วย พลตรี จิรเดช กมลเพ็ชร รองแม่ทัพภาคที่ 3 (1) ได้เดินทางไปติดตามการวางกรอบการดำเนินการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) จังหวัดเชียงรายประจำปี 2562-2563 มีนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นายอำเภอทั้ง 18 อำเภอ องค์กรภาคเอกชน เข้าร่วมชี้แจงการวางกรอบดำเนินการป้องกันและแก้ไขไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก โดยจังหวัดเชียงรายได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันจังหวัดเชียงราย (ศบก.จ.ชร.) ระดับจังหวัดที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย ศูนย์บัญชาการฯระดับอำเภอ ที่ทำการปกครองทั้ง 18 อำเภอ และศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ณ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 143 แห่ง สำหรับปัญหาพื้นที่รอยต่อระหว่าตำบลให้นายอำเภอ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์อำเภอเป็นผู้สั่งการ วางแผนควบคุมการเผา บูรณาการหน่วยป้องกันและแก้ปัญหาอย่างเข้มข้นจัดทำคำสั่งคณะทำงานขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าหมอกควันจังหวัดเชียงราย ระดับจังหวัดเพื่อติดตามสถานการณ์และกำหนดมาตรการควบคุมการเผาพื้นที่ต่างๆ ในเขตพื้นที่จังหวัด ตามสถานการณ์เกิดขึ้นจริง กรณีมีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานให้เร่งหาแนวทาง ตลอดจนวิธีป้องกันและแก้ไขปัญหาเป็นรายวัน
ทั้งนี้จังหวัดเชียงรายได้กำหนดพิ้นที่เสี่ยงไฟป่าและการเผาในที่โล่งแจ้ง จังหวัดเชียงราย ปี 2562-2563 จำนวน 14 อำเภอ 36 ตำบล โดยแบ่งเขตพื้นที่ความเสี่ยงตามสี คือสีแดง พื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า การเผาในที่โล่ง มากสูงสุด ให้ดำเนินการปฎิบัติอย่างเคร่งครัด พื้นที่เสี่ยงสีส้ม เป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า การเผาในที่โล่งสูง ให้ดำเนินการตามแนวทางที่กำหนด และพื้นที่สีเหลือง เป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดไฟป่า การเผาในที่โล่ง มีแนวโน้มยกระดับความรุณแรง ให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์และปฏิบัติตามคำแนะนำ โดยจังหวัดเชียงรายพื้นที่เสี่ยงสีแดง 8 อำเภอ 27 ตำบล ได้แก่อำเภอเมือง อำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป้า อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอเทิง อำเภอพาน อำเภอเวียงแก่น และอำเภอแม่จันพื้นที่เสี่ยงสีส้ม 4 อำเภอ 7 ตำบล ได้แก่ อำเภอเชียงของ อำเภอพญาเม็งราย อำเภอดอยหลวง และอำเภอเชียงแสน พื้นที่เสี่ยง สีเหลือง 2 อำเภอ 2 ตำบล ได้แก่ตำบลโป่งแพร่ อำเภอแม่ลาว ตำบลป่าตาล อำเภอขุนตาล โดยทางจังหวัดเชียงรายจะประกาศห้ามเผาทุกชนิดโดยเด็ดขาดตั้งแต่ เดือนมกราคม – เดือนเมษายน 2563 พร้อมจัดชุดลาดตระเวน เพื่อเป็นการป้องปรามผู้กระทำผิด โดยสนธิกำลังชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ชุดไฟป่า เจ้าหน้าที่ทหาร ในพื้นที่ และหากตรวจพบจุดความร้อนเกิดขึ้น ให้เพิ่มระดับความเข้มข้นในการปฏิบัติเน้นหนักในพื้นที่ตำบลที่เกิดจุดความร้อนซ้ำซากเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงพลโทฉลองชัย ชัยยะคำ แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่าที่ผ่านมาในพื้นที่เกิดความใกล้ชิดมากเกินไปสำหรับเจ้าหน้าที่ภาครัฐกับราษฏรในพื้นที่ จนไร้ความเกรงใจความเกรงกลัวต่อการกระทำผิด ทั้งนี้ทางกองทัพภาคที่ 3 จะได้จัดกำลังพลนอกพื้นที่เข้าประจำในพื้นที่ในห้วงระยะเวลาดังกล่าว ซึ่งจากการทดลองนำแผนนี้ ราษฏรให้ความเกรงกลัว ต่อการกระทำผิดทำให้เกิดจำนวนการลักลอบเผาป่าทั้งพื้นที่ทางการเกษตร หรือแม้แต่เผาเพื่อหาของป่าลดลงอย่างเป็นได้ชัดเจน ดังนั้นกองทัพภาคภาค 3 จึงได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการของหน่วยงานทหารที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อจะได้ประสานงานกับหน่วยทหารในพื้นที่ จัดส่งกำลังพลเข้าพื้นที่อย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังมีแผนการประชาสัมพันธ์ทางอากาศโดยในเครื่องบินขนาดเล็กติดเครื่องกระจายเสียงประกาศ ประกาศเสียงและภาษาชนเผ่า เพื่อให้ราษฏรชาวไทยภูเขาได้รับรู้ข่าวสารได้อย่างทั่วถึง

ร่วมแสดงความคิดเห็น