ขอเรียกร้อง สันนิบาตเทศบาลฯ แก้ปัญหาท้องถิ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการสมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย เข้าพบ นายซูการ์โน มะทา ประธานคณะกรรมาธิการการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นและการบริหารราชการรูปแบบพิเศษ ยื่นหนังสือเรียกร้อง 5เรื่อง ประกอบด้วย เรื่อง พรบ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างพ.ศ. 2562 ที่จะมีผลบังคับใช้ 1 มกราคม 2563 ซึ่งสำนักงบฯ คาดว่าท้องถิ่นจะจัดเก็บรายได้มากขึ้นทั้งนี้รายได้ที่เพิ่มขึ้นนั้นจะเพิ่มเฉพาะอปท.ที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งหลักร้อยแห่งเท่านั้น แต่อปท.ที่มีขนาดเล็ก7,000 กว่าแห่งจะมีรายได้ในการจัดเก็บลดลง เพราะพื้นที่อปท.ขนาดเล็กและขนาดกลางไม่มีองค์ประกอบที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีมูลค่าเกิน 50 ล้านหากพบว่าท้องถิ่นจัดเก็บรายได้ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้จากเดิม 75,750 ล้านบาท โดยประมาณการไว้ 115,990 ล้านบาท จะมีส่วนต่างที่สูงขึ้น 40,240 ล้านบาท จึงขอเรียกร้องให้หามาตรการเยียวยาและชดเชยรายได้ให้ท้องถิ่นด้วย อีกเรื่องคือ ขอให้ยกเลิกการตั้งงบอุดหนุนของอปท.เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายขยายเขตไฟฟ้า และประปาสาธารณะ เนื่องจากเป็นบริการสาธารณูปโภคพื้นฐาน
ปรับปรุงหลักเกณฑ์ เงื่อนไขขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้มีความเหมาะสมเป็นธรรม และเพื่อเป็นขวัญกำลังใจเป็นเครื่องหมายแสดงการเชิดชูเกียรติแห่งการทำความดี อาทิ นายกเทศมนตรีตำบลขอพระราชทานสาย1ชั้นประถมาภรณ์มงกุฎไทย(ป.ม.) นายกเทศมนตรีเมือง ขอพระราชทานสาย2ชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก(ป.ช) , ระดับนคร ขอพระราชทานสาย3ชั้นมหาวชิรมงกุฎ(ม.ว.ม) แก้ไขกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2500 โดยนายกเทศมนตรีที่อยู่ในตำแหน่ง 16 ปีขึ้นไป ให้ได้รับบำนาญ15,000บาท , ถ้า 16 ปี ได้10,000บาท , ถ้า 12 ปีให้ได้ 7,500 บาท 8 ปี ได้ 5,000 บาท เพราะเงินดังกล่าว ใช้เงินจากเงินประมาณการรายรับในงบประมาณรายจ่ายประจําปี สมทบกองทุนฯในอัตราไม่เกินร้อยละสาม ปัจจุบันสมทบไม่เกินร้อยละสอง สมาคมฯ จึงขอให้พิจารณาแก้ไข
จากนั้นคณะได้เข้าพบนายประยูร รัตนเสนีย์ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น(สถ.) ยื่นหนังสือเสนอให้สถ.ตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขระเบียบกฎหมายที่เป็นปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัติงานของท้องถิ่น10เรื่อง ประกอบด้วย 1.ขอให้ทบทวนการขับเคลื่อนการปฏิรูปการบริหารงานส่วนบุคคลท้องถิ่น การสรรหาบุคลากรของท้องถิ่น ตามคำสั่งคสช.ที่8/2560 ขอเสนอว่านักบริหารระดับสูงเป็นหน้าที่ของกท.หรือ สถ. หากเป็นตำแหน่งอำนวยการท้องถิ่น เป็นหน้าที่ กทจ.หรือเทศบาล
2.แก้ปัญหาการขาดแคลนครูผู้สอนของโรงเรียนสังกัดเทศบาล 3.เร่งแก้ระเบียบว่าด้วยค่าเช่าบ้านข้าราชการส่วนท้องถิ่น พศ.2548 ข้อ 6 (3 ) ควรให้ข้าราชการท้องถิ่นที่บรรจุในท้องที่เริ่มรับราชการครั้งแรกมีสิทธิได้รับค่าเช่าบ้านได้ เมื่อดำรงตำแหน่งครบ 2 ปีตามที่กำหนด ป้องกันการโยกย้าย การขาดแคลนบุคลากร ทำงานในอปท.นั้น ๆ
4.ขอให้ทบทวนประกาศฯ รับโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุเป็นพนักงานส่วนท้องถิ่น 5.ให้ทบทวนแนวทางการจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและเงินเบี้ยความพิการให้คนพิการ,.6.การออกระเบียบเบิกจ่ายทุนการศึกษาของผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น เพราะหน่วยตรวจสอบมีข้อทักท้วงว่าไม่มีกฎหมายหรือระเบียบรองรับ ทั้งๆที่การศึกษาอบรมส่งผลต่อประสิทธิภาพ จะได้นำความรู้ความสามารถในการศึกษาดังกล่าวมาใช้ในการพัฒนาท้องถิ่นต่อไป
7.กำหนดค่าตอบแทนให้แก่คณะกรรมการชุมชน ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายหรือระเบียบใดรองรับ ทำให้ท้องถิ่นไม่อาจจ่ายค่าตอบแทนคณะกรรมการชุมชนได้ 8.พิจารณาแนวทางกำหนดค่าตอบแทนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการจัดทำแผนพัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2548 และ 9.ปรับปรุงหลักเกณฑ์ เงื่อนไข การขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์แก่นายกเทศมนตรี
10. พิจารณาขึ้นเงินเดือนและสวัสดิการผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่น โดยเสนอว่าระดับ เทศบาลนคร ให้นายกเทศมนตรีปรับเงินเดือนเพิ่มขึ้น 10% รองนายกเทศมนตรี , ประธานสภา , รองประธานสภา , สมาชิสภา , เลขานุการนายกฯและที่ปรึกษานายกฯ ปรับเพิ่มขึ้น 10% ระดับเทศบาลเมือง ให้นายกเทศมนตรี ปรับเพิ่มขึ้น 15% รองนายกเทศมนตรี , ประธานสภา , รองประธานสภา , สมาชิกสภา , เลขานุการนายกและที่ปรึกษานายก ปรับเพิ่มขึ้น 20% ในระดับเทศบาลตำบล นายกเทศมนตรี ปรับเพิ่มขึ้น 20 – 25% รองนายกเทศมนตรี , ประธานสภา , รองประธานสภา ,สมาชิกสภา , เลขานุการนายกฯและที่ปรึกษานายกฯ ปรับเพิ่มขึ้น 30%
( ขอบคุณภาพประกอบจาก: สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทยและ สถ. )

ร่วมแสดงความคิดเห็น