ผู้ใจบุญ! หลั่งไหลช่วยเด็กหญิงพิการ ยอดเงินพุ่ง 3 แสนบาท”นฤทัต”ช่วยตลอดชีพ

จากกรณีที่”เชียงใหม่นิวส์ออนไลน์”ได้นำเสนอข่าว ดญ.ปิยะพร หลวงแก้ว อายุย่างเข้า 5 ขวบ แม่ตาย พ่อทอดทิ้ง ถูกไฟไหม้มือจนพิการตอนเล็ก อยู่กับนางแจแว วัย 55 ปีเป็นยายชีวิตลำบากอย่างมาก และเรียนอยู่ชั้น อนุบาล 2 โรงเรียนบ้านขุนตื่น ต.สบโขง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ต่อมาทาง พล.ต.ต.พิเชษฐ์ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ ได้สั่งการให้ ตำรวจ สภ.อมก๋อย เข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นและรายงานมาให้ทาง กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ทราบเป็นการด่วน โดยทางตำรวจท้องที่ก็ได้ดำเนินการทันและให้การช่วยเหลือเด็กน้อยดังกล่าวในเบื้องต้น นอกจากนี้ยังมี หน่วยงานของทางอำเภออมก๋อย และเอกชนหลายรายเข้าทำการช่วยเหลือย่างเต็มที่ และมีนักธุรกิจชื่อดังของเชียงใหม่ ได้มีความประสงค์ ขอบริจาคเงินเป็นทุนการศึกษาให้กับ ดญ.ปิยะพร เดือนละ 3,000 บาท โดยจะมอบให้ทุกเดือนไปตลอดชีวิตของน้องปิยะพร เลย ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว

ข่าวคืบหน้าเวลา 11.00 น วันที่ 8 พย 62 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจาก หัวหน้าสำนักปลัด อบต.สบโขง อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ว่า ตอนนี้ได้มีหลายหน่วยงานเข้าทำการช่วยเหลือน้องปิยะพร อายุ 5 ขวบกันจำนวนมาก และทางหน่วยงานของทางโรงเรียนและทางฝ่ายปกครองรวมทั้ง อบต.สบโขง ยังได้เปิดบัญชีเป็นบัญชีกองทุนเพื่อช่วยเหลือ ดญ. ปิยะพร หลวงแก้ว ขึ้นมาอีกด้วย เป็นบัญชีของธนาคาร ออมสิน สาขาอมก๋อย เลขที่บัญชี 020300482252 ตอนนี้มียอดเงินบริจาคช่วยเหลือน้องเขามาขณะนี้ยอดอยู่ที่ 300,000 บาทแล้ว โดยบัญชีดังกล่าวนี้ ในการเบิกเงินออกจากบัญชี จะมีครูจากโรงงเรียนที่น้องศึกษาอยู่จำนวน 2 ท่าน และยาย ที่ดูแลน้องเป็นผู้ร่วมกันเซ็นต์ชื่อเพื่อเบิกเงินในบัญชีออกมาได้

นอกจากนี้น้องปิยะพร ยังได้รับเบี้ยคนพิการจากภาครัฐเดือนละ 800 บาทอีกด้วย โดยเป็นบัญชีของ ธกส. โดยเบี้ยคนพิการที่ทางภาครัฐช่วยนั้น ทางยายของน้องจะเป็นผู้มาเบิกเองคนเดียว ตอนนี้มีคนหลั่งไหลทะยอยโอนเงินเข้ามาช่วยเหลือน้องเขาอย่างต่อเนื่อง บางรายก็แจ้งความประสงค์จะนำสิ่งของบริโภคอุปโภคเพื่อเข้าไปให้การช่วยเหลือน้องเขาถึงที่บ้าน และที่โรงเรียนเลย เด็กนักเรียนคนอื่นพลอยได้รับอนิสงค์ไปด้วย

ทางด้านนายนฤทัต เจริญเศรษฐศิลป์ นักธุรกิจชื่อดัง เจ้าของเชียงใหม่ซูอควาเรียม ในสวนสัตว์เชียงใหม่ และเป็นเจ้าของคลีนิคเสริมความงาม “เฮลล์มีคลีนิก” ได้เปิดเผยว่า “ตนเห็นข่าวน้องแล้วรู้สึกสงสารน้องเขาเป็นอย่างมาก แม่ก็เสียชีวิต พ่อก็ทอดทิ้งไปมีเมียใหม่ ตอนอายุ 10 เดือน และในช่วงนึงก็ถูกไฟไหม้จนต้องตัดมือทิ้ง เพื่อรักษาชีวิต ฐานะก็ยากจน ตนจึงได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอช่วยเหลือเงินให้กับน้องเป็นรายเดือน เพื่อเป็นทุนการศึกษาและการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันของน้อง โดยจะให้กับน้องเขาเดือนละ 3,000 บาท โดยให้ทุกเดือนไปตลอดชีวิตของน้องเลย เริ่มตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป”

“เมื่อดูจากสภาพความเป็นอยู่น้องเขาคงลำบากจริง ๆ ตอนนี้น้องเขายังเด็กอยู่ ยังไม่รู้อะไร ต่อไปในอนาคตน้องเขาต้องโตขึ้น การดำรงชีวิตอยู่ต้องลำบากแน่ ผมเห็นแล้วสงสารจริง ๆ ครับ และยินดีให้การช่วยเหลือตลอดไป น้องเขาเลือกเกิดไม่ได้ เกิดมาก็ต้องมาประสบกับชะตากรรมแบบนี้ มาช่วยน้องเขากันเถอะครับ”

“ทางด้านเจ้าหน้าที่ภาครัฐ ทหาร ตำรวจ และข้าราชการองค์การท้องถิ่น และฝ่ายปกครองเข้าไปสำรวจชีวิตความเป็นอยู่ของน้องถึงที่บ้านพบว่า น้องเขามีแมวเป็นเพื่อน และรักแมวมาก กับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียนก็จะเล่นตามประสาเด็ก ๆ กับเพื่อน ๆ น้องเพิ่งอายุย่างเข้า 5 ขวบ ฐานะยากจน แม่เสียชีวิต พ่อไปมีเมียใหม่และไม่เคยกลับมาหาลูกคนนี้เลย อยู่กับยาย ถูกไฟไหม้มือเมื่อตอนเกิดได้ 10 เดือน จนพิการ น้องเขามีความอดทนสูง”

ร่วมแสดงความคิดเห็น