คาดร่างกฎหมายอากาศสะอาดแล้วเสร็จปลายเดือนนี้ พร้อมส่งถึงมือนายกรัฐมนตรี

วันที่ 10 พฤศจิกายน 2562 พลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ รองประธานณะกรรมการสาชิกวุฒิสภา ประธานที่ประชุม, นายยงยุทธ สาระสมบัติ สมาชิกวุฒิสภา, นายปรีชา บัวริรันต์เลิศ สมาชิกวุฒิสภา, นางวิภาวัลย์ วรพุฒิพงค์ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 และอาจาร์ยไพสิฐ พาณิชย์กุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประชุมเร่งการนำเสนอร่างกฎหมายอากาศสะอาด (ร่างที่ 2) ที่ Harmonize Hotel เชียงใหม่
พลเอกสกนธ์ สัจจานิตย์ รองประธานณะกรรมการสาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า คณะรัฐบาลได้มีมัติให้สมาชิก สว. ลงพื้นที่ในการรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งได้รับมอบหมายให้มารับฟังความคิดเห็นของ ประชาชนภาคเหนือตอนบน 8 จังหวัด จากการลงพื้นที่ตลอด 3 เดือน พบว่าปัญหาที่เจอได้แก่ เรื่องของหมอกควัน และอากาศสะอาด ที่เรียกว่า pM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาในภาคเหนือทั้ง 8 จังหวัด ทั้งเป็นผู้รับเคราะห์ และถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้สร้างปัญหาขึ้นมา ซึ่งจากการที่ได้รับฟังทั้งจากทุกจังหวัดทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน ปัญหาที่รับทราบคือ ผู้ขับเคลื่อนในการขจัดปัญหาดังกล่าว มีเพียงภาครัฐเท่านั้น ในข้อเท็จจริงปัญหาต่าง ๆ มาจากประชาชนและเอกชนร่วมด้วยกัน เมื่อได้รับฟังปัญหาแล้วต้องมาร่วมกันคิดและแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ ทำให้มีการร่วมพูดคุยกับทางหอการค้าฯ จังหวัดต่าง ๆ ในภาคเหนือตอนบน มีความเห็นตรงกันว่า ภาคเอกชน ต้องเป็นผู้ริเริ่มในการแก้ไขปัญหาร่วมกับภาครัฐ เพิ่อให้มีอากาศที่สะอาด จากการที่มองเห็นว่าหลายประเทศมีการใช้เรื่องของกฏหมายอากาศสะอาดแล้ว แต่จังหวัดเชียงใหม่ (ประเทศไทย) มีกฏหมายฉบับเดียว คือ กฏหมายสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่ครอบคลุมในกฎหมายอากาศสะอาด
หอการค้า มหาวิทยาลัย และสว. ได้ร่วมกันคิดว่าต้องมีกฏหมายอากาศสะอาดขึ้นมาเพื่อชาวภาคเหนือ ซึ่งคณะกรรมการจัดทำในการขับเคลื่อน ปัญหาเหล่านี้ มีภาครัฐและเอกชนร่วมกัน ดั้งนั้น เมื่อหอการค้ามีมัติ รัฐบาลก็ขานรับส่วนหนึ่ง และได้มีการพูดคุยกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ในภาคเหนือ ร่วมกันร่างกฎหมายดังกล่าวขึ้นมา โดยจะมีการนัดพบปะพูดคุยกันในครั้งที่ 2 เพื่อหารือว่าอากาศสะอาดนั้นควรมีลักษณะเป็นอย่างไร และในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2562 ผู้ร่างและผู้เกี่ยวข้องจะมีการจัดกิจกรรมร่วมรับฟังความคิดเห็น ที่มหาวิทยาลัยพะเยา พร้อมทั้งมีการขอความร่วมมือลงลายชื่อ จากประชาชนอย่างน้อย 10,000 รายชื่อ เมื่อเรียบร้อยแล้วจะจัดทำเป็นหนังสือส่งให้ทางหอการค้าไทย (กรุงทพฯ) เพื่อรวบร่วมเป็นหนังสือปกขาว นำเสนอให้กับคณะรัฐมนตรีต่อไป
อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ การร่างกฎหมายอากาศสะอาดจะออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ และส่งถึงมือนายกรัฐมนตรี ประธานรัฐสภา เพื่อดำเนินการไปตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ หวังว่า คณะทำงาน และผู้ที่อยู่ในภาคเหนือตอนบนจะเป็นผู้ร่างกฎหมายช่วยกัน เพื่อเป็นการส่งต่ออากาศที่ดีถึงลูกหลานในอนาคต

ร่วมแสดงความคิดเห็น