เชียงใหม่เปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่

​วันนี้ (20 พ.ย.62) ที่ห้องประชุม 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายวิรุฬ พรรณเทวี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมเปิดศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 และการประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 3/2562 โดยมีส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 ของจังหวัดเชียงใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนน ควบคู่กับการสร้างเครือข่ายความร่วมมือของทุกภาคส่วนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม
​สำหรับแนวทางดำเนินงานของศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 ของจังหวัดเชียงใหม่ จะใช้ข้อสั่งการของ นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย  ซึ่งเดินทางมามอบนโยบายด้านความปลอดภัยทางถนนที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่เน้นย้ำให้ ศปถ.ทุกระดับ บูรณาการภาคีเครือข่าย และทำการประชาสัมพันธ์อย่างจริงจัง โดยเฉพาะ ศปถ.อปท.จะเป็นกลไกหลักด้านความปลอดภัยทางถนนในท้องถิ่น มีการตรวจสอบ แก้ไขจุดเสี่ยงตามหลักวิศวกรรมจราจร มีการจัดทำแผนบูรณาการด้านความปลอดภัยทางถนน รวมทั้งจัดทำระบบฐานข้อมูลกลางอุบัติเหตุทางถนน ให้สอดคล้องกับ ศปถ.จังหวัด โดยให้ ศปถ.อำเภอ ติดตามการดำเนินงานของ ศปถ.อปท.  ​ขณะที่ นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ มีข้อสั่งการเพิ่มเติม ขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้า สถานบริการ งดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเทศกาล มีการสำรวจจุดเสี่ยงในระดับตำบล และให้ ปภ. ตำรวจ และเขตพื้นที่การศึกษา กำหนดแผนงานบังคับใช้กฎหมายหมวกนิรภัยของเยาวชน รวมทั้ง
ให้ ศปถ.อำเภอ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะด้าน มีการจัดตั้ง ศปถ.อปท.ทุกพื้นที่ และ ศปถ.อปท.พิจารณา ตั้งข้อบัญญัติ หรือเทศบัญญัติในการเบิกจ่ายงบประมาณ โดยตั้งเป้า จังหวัดเชียงใหม่จะต้องไม่มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2563 ​ทั้งนี้ การป้องกันและแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุทางถนน เป็นนโยบายสำคัญที่ต้องขับเคลื่อนการดำเนินงานอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ทั้งในช่วงปกติและช่วงเทศกาลสำคัญ โดยเน้น (ร่าง) แผนบูรณาการป้องกันและ ลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 นำไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมในทุกระดับ เพื่อให้ประชาชนทุกคนในพื้นที่มีความปลอดภัยในการสัญจร ขณะเดียวกันต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

ร่วมแสดงความคิดเห็น