เหมืองแม่เมาะ เปิดเวทีเสวนาระดมความคิด ร่วมหาแนวทางแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก

การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.แม่เมาะ) โดยเหมืองแม่เมาะ บูรณาการร่วมกับ ที่ว่าการอำเภอแม่เมาะ เปิดพื้นที่จัดเวทีเสวนาแบบบูรณาการ “แม่เมาะ เหมาะหนา ร่วมอู้จ๋าปัญหาหมอกควัน” ร่วมกันนำคณะผู้บริหารตัวแทนหน่วยงานภาคีเครือข่ายจากทุกภาคส่วน เข้าระดมความคิดหาแนวทางกลวิธีในการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็กทั้ง PM10 และ PM2.5 ให้เกิดความยั่งยืน ภายใต้โครงการ “รณรงค์ไม่เผาป่า ลดหมอกควันจังหวัดลำปาง” โดยได้มีการจัดการเสวนาขึ้น ที่ ศาลาอเนกประสงค์สวนเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา กฟผ.แม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง มีนายนิมิตร ผดุงศิลป์ไพโรจน์ นายอำเภอแม่เมาะ เป็นประธานเปิดเวทีการเสวนาระดมความคิด โดยมีผู้บริหารหัวหน้าหน่วยงานทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่จากส่วนราชการ และรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้, สำนักงานบริหารพื้นที่อนุรักษ์, สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กฟผ.แม่เมาะ, หน่วยงานตำรวจในเขตท้องที่, ตลอดจนตัวแทนจากองค์กรภาคีเครือข่าย ทั้งภาคเอกชน ผู้นำชุมชนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนชาวบ้านจากชุมชนต่างๆ ในเขตท้องที่ 5 ตำบล รอบโรงไฟฟ้า รวมจำนวนกว่า 200 คน เข้าร่วมในการประชุมเสวนา พร้อมกับนำเสนอข้อคิดแนวทางวิธีในการดำเนินงานป้องกันแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็กทั้งนี้ สำหรับการจัดเวทีเสวนาดังกล่าว เป็นผลสืบเนื่องมาจากในช่วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน ของทุกปีที่ผ่านมา จังหวัดลำปางมักเกิดสถานการณ์ไฟป่ารุนแรง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ชุมชนบริเวณรอบๆ โรงไฟฟ้า และตามแนวเชิงเขาในเขตพื้นที่ป่าต่างๆ จนทำให้ในทุกๆ ปี หลายพื้นที่หลายอำเภอได้เกิดปัญหาหมอกควันหนาแน่นปกคลุมทั่วบริเวณ ทั้งในเขตอำเภอเมือง แม่เมาะ แม่ทะ และอำเภออื่นๆ ที่ใกล้เคียง ซึ่งได้ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจในพื้นที่ นักท่องเที่ยวหดหาย สายการบินลงจอดไม่ได้ และที่สำคัญได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชน อันเนื่องมาจากค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศทั้ง PM10 และ PM2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน ประชาชนต้องเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ จากปัญหาผลกระทบดังกล่าว หน่วยงานทุกภาคส่วนในพื้นที่อำเภอแม่เมาะ ได้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญ จึงได้จัดเวทีเสวนาแบบบูรณาการในครั้งนี้ขึ้น เพื่อระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ จากผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ซึ่งจะได้นำเสนอต่อผู้บริหารของจังหวัด รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในทุกๆ ระดับ เพื่อที่ทางหน่วยงานองค์กรต่างๆ จะได้นำไปใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการและแก้ไขอย่างมีส่วนร่วม ซึ่งจะทำให้การแก้ไขปัญหาเห็นผลได้อย่างเป็นรูปธรรมและเกิดความยั่งยืน โดยในการเสวนาครั้งนี้ผู้ร่วมเวที ต่างเห็นร่วมกันว่าในการแก้ไขปัญหาจะต้องให้ชุมชนท้องถิ่นเป็นฐาน และใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งในการดำเนินงาน ให้ชาวบ้านเป็นกำลังหลักในการสอดส่องดูแลเฝ้าระวังพื้นที่ไม่ให้เกิดไฟไหม้ป่า หรือคอยสอดส่องการดำเนินการใดๆ ที่อาจส่งผลกระทบก่อให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก และให้หน่วยงานส่วนราชการรวมถึงหน่วยงานของรัฐ เป็นส่วนกำลังเสริมคอยรับแจ้งเหตุสถานการณ์ เตรียมพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในเรื่องของกำลังคน เครื่องมืออุปกรณ์ และการเข้าถึงพื้นที่อย่างรวดเร็วทันท่วงที รวมถึงให้หน่วยงานระดับจังหวัดมีการกระจายอำนาจลงสู่หน่วยงานระดับท้องถิ่น เพื่อให้การบริหารจัดการงบประมาณเป็นไปอย่างคล่องตัว อีกทั้งส่วนราชการต้องเป็นหน่วยงานหลักในการที่จะรณรงค์ให้ความรู้สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องสร้างจิตสำนึกรักและหวงแหนผืนป่าให้แก่ประชาชนในชุมชนท้องถิ่น ทั้งคอยช่วยเหลือในการคิดพัฒนาพื้นที่ป่าเพื่อให้ชุมชนได้ประโยชน์ ชาวบ้านมีอาชีพและมีรายได้จากการมีป่า ตลอดจนต้องเป็นหน่วยงานหลักทางด้านกฎหมาย โดยต้องเคร่งครัดในระเบียบวิธีการปฏิบัติเพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนชาวบ้านด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น