ผู้ว่าฯ หญิงเมืองแพร่ พบปะชาวนาเร่งให้ความช่วยเหลือกรณีข้าวยืนต้นแห้งตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.แพร่รายงานว่า ตามที่ได้เกิดฝนทิ้งช่วงและปริมาณน้ำตามแหล่งน้ำต่างๆ มีไม่เพียงพอในพื้นที่ตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ ส่งผลให้ข้าวนาปี ปีการผลิต 2562 ไม่มีน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว จึงทำให้ข้าวยืนต้นแห้งเหี่ยวตาย ขณะออกรวงแต่ยังไม่ทันมีเมล็ด ทำให้เกษตรกรไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ นอกจากจะไม่มีข้าวไว้รับประทานแล้ว ยังทำให้เกิดหนี้สินที่กู้ยืมมาลงทุนในการทำนาตามมาอีกด้วย

โดยวันที่ 11 ธันวาคม 2562 ที่ศาลาอเนกประสงค์ บ้านนาพูน หมู่ 2 ตำบลนาพูน อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ นางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดแพร่ สำนักงานเกษตรจังหวัดแพร่ โครงการชลประทานแพร่ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่ นายอำเภอวังชิ้น องค์การบริหารส่วนตำบลนาพูน ได้พบปะพูดคุยกับกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อน หลังจากนั้นได้ลงไปดูนาข้าวพบว่า ต้นข้าวที่กำลังออกรวงได้ยืนต้นเหี่ยวตายหมด เพราะขาดน้ำหล่อเลี้ยงช่วงออกรวง เนื่องจากปัญหาภัยแล้งนางกานต์เปรมปรีด์ ชิตานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ในการช่วยเหลือเกษตรกรในเบื้องต้น ต้องให้ทางอำเภอทำเรื่องเสนอจังหวัด เพื่อประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น (อปท.) ถึงจะเข้ามาช่วยเหลือได้ แต่ก็เป็นการช่วยเหลือในเบื้องต้น ซึ่งทางจังหวัดต้องการช่วยเหลือในระยะยาวหรือการช่วยอย่างยั่งยืน โดยนำส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูในพื้นที่ ว่ามีอ่างเก็บน้ำ มีฝาย หรือไม่ ต้องการขุดสระขนาดเล็ก ขุดบ่อบาดาลเพื่อให้มีน้ำใช้อย่างยั่งยืน ประชาชนจะได้ไม่เดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้งในอนาคตนายมนัส คำหุ่น รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาพูน ซึ่งเป็นเกษตรกรในพื้นที่ กล่าวว่า ทุกๆ ปี น้ำในพื้นที่จะเพียงพอคือ มีฝนตกลงมาเติมให้พอใช้ แต่ปีนี้ไม่มีฝนตกในพื้นที่และในบริเวณเหนืออ่างเก็บน้ำ น้ำจึงมีน้อย จึงทำให้ข้าวแห้งเหี่ยวตาย และอีกต่อไปก็น่าจะมีผลกระทบต่อประชาชนโดยตรงโดยเฉพาะน้ำอุปโภค-บริโภค สำหรับหลักเกณฑ์การช่วยเหลือเกษตรกรนาข้าวนั้น เมื่อจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว อปท.สามารถช่วยเหลือเกษตรกรที่ลงทะเบียนการปลูกข้าวนาปีกับกรมส่งเสริมการเกษตร ในอัตราไร่ละ 1,113 บาท