คณะสมาชิกวุฒิสภา ลงพื้นที่ จ.พะเยา ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหา ตามโครงการสมาชิกวุฒิสภา พบประชาชน

พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะรองประธานกรรมการ คนที่ 1 พร้อมด้วย นายจิรชัย มูลทองโร่ย กรรมการ และคณะฯ เดินทางไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติภูซาง อ.ภูซาง จ.พะเยา เพื่อติดตามความคืบหน้าการปฏิรูปประเทศ ในด้านต่าง ๆ ของ จ.พะเยา หลังจากที่คณะสมาชิกวุฒิสภาฯ ได้เดินทางมาที่ จ.พะเยา ตามโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชน ในพื้นที่จังหวัดภาคเหนือ (ตอนบน) ก่อนหน้านี้ เพื่อรับทราบปัญหา รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ได้ให้ไว้กับทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ

โดยมี นายวุฒิชัย เสาวโกมุท รองผู้ว่าฯ พะเยา หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับ และรายงานผลการดำเนินการ รวมถึงปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ ในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องการค้าชายแดน หลังจากที่ทางการไทยมีการยกระดับด่านบ้านฮวก เป็นด่านชายแดนถาวร ขณะที่ด้านปางมอญ เมืองคอบ สปป.ลาว ยังคงเป็นด่านประเพณี ส่งผลให้เกิดปัญหามูลค่าทางการค้าชายแดนลดลง จากความไม่เสมอภาค หรือเท่าเทียมกันของระดับด่าน รวมถึงข้อกฎหมายต่าง ๆ ที่บังคับใช้แตกต่างกันนั้น

พล.อ.สกนธ์ สัจจานิตย์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะรองประธานกรรมการ คนที่ 1 กล่าวหลังจากเดินทางไปรับทราบปัญหา และตรวจความเรียบร้อยด่านชายแดนถาวร บ.ฮวก อ.ภูซาง ว่า เรื่องนี้ได้เสนอให้ทางจังหวัด ได้มีการพูดคุยกันกันให้ชัดเจนว่า มีความต้องการอย่างไร และ สว.จะมีข้อเสนอแนะว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร ตามความเห็นของจังหวัดที่เสนอมา

จากการติดตามในพื้นที่ ยังพบปัญหาที่ต้องปรับปรุงแก้ไข และพัฒนาอีกหลายด้าน บนความถูกต้อง และมีแนวทางที่ชัดเจน

จากนั้นคณะได้เดินทางไปยัง ม.พะเยา เพื่อติดตามการปฏิรูปประเทศ และยุทธศาสตร์ชาติ รวมถึงรับฟังข้อมูลข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และความคืบหน้าในการดำเนินงานจากทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเด็นปัญหากว๊านพะเยา ปัญหาหมอกควันไฟป่า รวมถึงรับฟังการบรรยายจากผู้บริหารม.พะเยา ในด้านพลังงาน และสิ่งแวดล้อมความเป็นเลิศ ทางด้านการศึกษา ความร่วมมือในการปฏิรูปประเทศ ปัญหา และข้อเสนอแนะต่าง ๆ

พ.ต.ต.ยงยุทธ สาระสมบัติ ที่ปรึกษาคณะกรรมการ ซึ่งรับผิดชอบกับกำดูแลพื้นที่ จ.พะเยา ระบุว่า ในส่วนของกว๊านพะเยา ปัญหาที่เกิดขึ้นในเรื่องของการพัฒนานั้น โดยเฉพาะในเรื่องของข้อกฎหมาย เมื่อพิจารณาดูแล้ว พบว่า การแก้ไขปัญหาในเรื่องของข้อกฎหมายนั้น ไม่ยากยุ่งยากมากนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นพระราชกิจฎีกา กฎกระทรวง และประกาศ ซึ่งเป็นกฎหมายอนุบัญญัติ ซึ่งได้ให้ข้อเสนอแนะกับทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ให้ทำการยกร่างกฎหมาย โดยคณะนิติศาสตร์ ม.พะเยา ได้ทำการศึกษา เมื่อศึกษาเสร็จแล้ว ให้ส่งเข้าคณะกรรมการพัฒนากว๊านพะเยา ซึ่งหากถ้าคณะกรรมการระดับจังหวัดเห็นชอบ ก็จะเข้าสู่กระบวนการสัมมนา ระดมความคิดเห็น ทั้งหน่วยงานราชการ และชุมชน ในเรื่องของข้อกฎหมายว่า มีข้อขัดข้องอย่างไร หากมีความเห็นตรงกัน ก็ให้ทางจังหวัดเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในส่วนกลาง และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี หากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ ก็จะได้รับการพิจารณาแก้ไขกฎหมายต่อไป

ด้านนายจิรชัย มูลทองโร่ย กรรมการ กล่าวว่า การเดินทางลงพื้นที่ที่ จ.พะเยาในครั้งนี้ ก็เพื่อติดตามความคืบหน้า การแก้ไขปัญหาของพื้นที่ จ.พะเยา และ จ.เชียงราย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทางคณะสมาชิกวุฒิสภา ตามโครงการดังกล่าว ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.พะเยา เมื่อคราวที่แล้ว และได้มีข้อเสนอแนะกับทางจังหวัด ให้ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะในเรื่องของ การพัฒนาด่านชายแดน ที่พบว่าปริมาณการค้าขายในพื้นที่ชายแดนบ้านฮวก อ.ภูซาง  มีมูลค่าลดลง ปัญหาหมอกควัน และภัยแล้ง รวมถึงการติดตามยุทธศาสตร์แผนแม่บท และการปฏิรูปประเทศ โดยเฉพาะในเรื่องของการค้าชายแดนที่ขณะนี้ ด่านชายแดนบ้านฮวกซึ่งเป็นด่านถาวร ด่านปางมอญ เมืองคอบ เป็นด่านประเพณี ซึ่งมีข้อกฎหมายที่แตกต่างกัน ทำให้ประสบปัญหาในเรื่องของการค้าชายแดนที่มีมูลค่าลดลง ทางคณะ สว. ก็ได้มีข้อแนะนำให้ จ.พะเยา มีการพูดคุยกัน กับทางการ สปป.ลาว สร้างความสัมพันธ์ หาแนวทางในการยกระดับให้เป็นด่านถาวรในระดับเดียวกัน ส่วนคณะกรรมการในการขับเคลื่อนยกระดับด่านชายแดน ระดับจังหวัด ก็ให้มีการประชุม และขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่องด้วย คณะจะเดินทาง เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ยัง จ.เชียงราย ต่อไป