สังเวย 2 ศพ ประเดิม 7 วันอันตราย เก๋งชนท้าย จ.ย.ย.ดับ บนถนนเชียงใหม่-ฮอด เตือน ปชช. ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง

เมื่อช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.20 น. วันที่ 28 ธ.ค. 62 ร.ต.อ.มานิต ทองคำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุ รถยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ บริเวณ ถนนสายเชียงใหม่-ฮอด กม.9-10 ม.7 ต.หนองควาย หลังทราบเรื่องจึงรุดเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่กู้ภัย โดยเมื่อไปถึงพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อวอลโว่ สีน้ำตาล หมายเลขทะเบียน ขย 7563 เชียงใหม่ สภาพด้านหน้ารถพังยับเยิน ใกล้กันในที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน จนบ 506 เชียงใหม่ ถูกชนพังเสียหายล้มอยู่ โดยบริเวณกลางถนนพบศพชาย 2 ราย นอนเสียชีวิตสภาพศพ มีบาดแผลฉกรรจ์หลายจุด เลือดไหลท่วมร่าง ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตรายแรก ซึ่งเป็นคนขับขี่ ทราบชื่อคือ นายวรวิทย์ ผดุง อายุ 38 ปี ที่อยู่ 52/2 ม.4 ต.สันผักหวาน อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ส่วนผู้ที่ซ้อนท้ายมาด้วยที่เสียชีวิตอีก 1 ราย ทราบชื่อคือ นายสายัณห์ ชำนาญยุทธ อายุ 44 ปี ที่อยู่ 97 ม.4 ต.สันผักหวาน อ.หางดง จ.เชียงใหม่

ขณะเดียวกันตรวจสอบทางด้านคนขับรถยนต์เก๋งวอลโว่ ทราบชื่อคือ นายเปรม ตันติศักดิ์ อายุ 20 ปี ที่อยู่ 94 ม.13 ต.หนองตอง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ โดยจากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุทราบว่า รถจักรยานยนต์ได้ขับมาตามเส้นทางที่เกิดเหตุ และจะเปลี่ยนช่องทางเพื่อจะกลับรถ จากเลนซ้ายขึ้นไปด้านขวา แต่ไม่ทันมองด้านหลัง ซึ่งมีรถยนต์เก๋งขับตามมาด้วยความเร็วสูง จึงทำให้คนขับรถไม่ทันชะลอความเร็ว ทำให้เกิดชนเข้าอย่างจังจนร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย กระเด็นและเสียชีวิตในที่สุด

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการบันทึกข้อมูลในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน และได้ให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ส่งไปยังแผนกนิติเวช โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อทำการชันสูตรสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง ส่วนคนขับรถยนต์เก๋งได้เชิญตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย หลังจากนั้นจะได้แจ้งทางญาติผู้เสียชีวิตให้มารับศพ เพื่อนำกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป พร้อมทั้งได้ฝากแจ้งเตือนประชาชน ว่าในช่วงนี้เป็นช่วงใกล้เทศกาลส่งท้ายปีเก่า-ต้อนรับปีใหม่ และเป็นช่วงของการรณรงค์ 7 วันอันตราย จึงอยากให้ขับขี่รถด้วยความระมัดระวัง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดด้วย