เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2563 เวลา 15.00 น. ที่ห้อง ICU อายุรกรรม โรงพยาบาลน่าน นพ.วสันต์ แก้ววี รองผู้อำนวยการฯ ฝ่ายการแพทย์ รพ.น่าน ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว จากกรณีทาง รพ.น่าน รับผู้ป่วยเป็นเพศชาย จำนวน 1 ราย อายุ 86 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเชียงแล1 หมู่ 4 ตำบลริม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ป่วยด้วยโรคไข้หูดับ หรือ Streptococcus suis ซึ่งจากการซักประวัติสอบสวนโรคจากญาติผู้ป่วย ทำให้ทราบว่า สาเหตุเกิดจากการที่ผู้ป่วยรับประทานเนื้อหมูดิบ โดย รพ.น่านรับผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และผู้ป่วยมีอาหารหนัก ต้องเข้ารับการรักษาที่แผนกผู้ป่วยหนัก (ICU) จนถึงปัจจุบัน โดย รพ.น่านผลเพาะเชื้อชี้มีเชื้อโรคหูดับหรือโรค Streptococcus suis สำนักงาน สาธารณสุขจังหวัดน่าน และโรงพยาบาลน่านแจ้งเตือนให้หน่วยงานสาธารณสุขของจังหวัดน่านทุกหน่วยงานเฝ้าระวัง และจัดทีม SRRT ควบคุมโรคคอยระวังเหตุ และย้ำเตือนการบริโภคอาหารโดยเฉพาะเนื้อหมูที่ปรุงสุก ทั้งนี้หากพบอาการผิดปกติให้เข้ารับการรักษาที่หน่วยบริการสาธารณสุขใกล้บ้านได้ทันที
ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว จากกรณีทาง รพ.น่าน รับผู้ป่วยเป็นเพศชาย จำนวน 1 ราย อายุ 84 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านเชียงแล 1 หมู่ 4 ตำบลริม อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ป่วยด้วยโรคไข้หูดับ หรือ Streptococcus suis ซึ่งจากการซักประวัติสอบสวนโรคจากญาติผู้ป่วย ทำให้ทราบว่าสาเหตุเกิดจากการที่ผู้ป่วยรับประทานเนื้อหมูดิบ โดย รพ.น่านรับผู้ป่วยตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2562 และผู้ป่วยมีอาหารหนัก ต้องเข้ารับการรักษาที่แผนกผู้ป่วยหนัก (ICU) จนถึงปัจจุบัน อาการที่ส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลท่าวังผาด้วยอาการหอบและเป็นไข้ เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2562 เวลาประมาณ 10.00 น. ทางโรงพยาบาลท่าวังผา แพทย์ผู้รักษาลงความเห็นว่าควรส่งรักษาต่อ จึงส่งตัวเข้ารับรักษาที่โรงพยาบาลน่านในช่วงบ่าย 31 ธันวาคม 62 แพทย์โรงพยาบาลน่านรับรักษาต่อ และทำการส่งตรวจทางพยาธิวิทยา โดยผลการตรวจทราบแน่ชัดเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2563 ยืนยันว่า ผู้ป่วยติดเชื้อ โรคหูดับ หรือโรค Streptococcus suis ปัจจุบันผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอยู่ที่ห้อง ICU โรงพยาบาลน่าน อาการล่าสุดผู้ป่วยรู้สึกตัว แต่หายใจเองไม่ได้ ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทั้งผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเดิมอยู่แล้ว โดย นพ.วสันต์ แก้ววี รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลน่าน ฝากเตือนถึงค่านิยมการบริโภคเนื้อหมูแบบดิบ ไม่ปรุงให้สุกก่อน เป็นการเสี่ยงต่อการติดเชื้อ โรคหูดับ หรือโรค Streptococcus suis ซึ่งเชื้อโรคนี้มีอยู่ในสัตว์อยู่เป็นปกติอยู่แล้ว
ทั้งนี้จากการสอบสวนโรคได้ข้อมูลว่า ผู้ป่วยได้ทานลาบหมูดิบ โดยลูกของผู้ป่วยได้ซื้อมาจากตลาดแห่งหนึ่งในอำเภอท่าวังผา และนำมาประกอบอาหารทำเมนูลาบ เพื่อรับประทานกันก่อนเทศกาลปีใหม่คือช่วงเย็นของวันที่ 26 ธันวาคม 2562 โดยทุกคนในครอบครัวนำมาผัดคั่วให้สุกแล้วรับประทาน แต่ตัวผู้ป่วยของทานแบบดิบ หลังทาน เช้าวันรุ่งขึ้นเกิดอาการป่วยจึงนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลท่าวังผา และส่งต่อการรักษาที่โรงพยาบาลน่าน แต่คนในครอบครัวที่ทานลาบที่ปรุงสุกแล้ว ไม่พบอาการ นพ.วสันต์ กล่าวว่า โรคนี้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย สเตร็ปโตค็อกคัส ซูอิส (Streptococcus suis) สามารถติดต่อได้ 2 ทาง คือ 1. การสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อ รวมทั้งเนื้อหมู เครื่องในและเลือดหมูที่เป็นโรค โดยติดต่อสู่คนทางบาดแผล รอยขีดข่วนตามร่างกายหรือทางเยื่อบุตา 2. เกิดจากการบริโภคเนื้อหมู หรือเลือดหมูที่ปรุงดิบ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ ที่มีเชื้ออยู่ โดยผู้ป่วยจะมีอาการหลังรับประทาน 3-5 วัน จะมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะอย่างรุนแรง เวียนศีรษะจนทรงตัวไม่ได้ อาเจียน คอแข็ง หูหนวก ท้องเสีย ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ขอให้รีบพบแพทย์ทันที และบอกประวัติการกินหมูดิบให้ทราบ เพราะหากมาพบแพทย์และวินิจฉัยได้เร็ว จะช่วยลดอัตราการหูหนวกและการเสียชีวิตได้
ทั้งนี้ ฝากเน้นย้ำพี่น้องประชาชน สำหรับวิธีการป้องกันโรคที่สำคัญ คือ งดการรับประทานเนื้อหมูดิบ หรือสุก ๆ ดิบ ๆ ให้กินหมูสุกเท่านั้น โดยปรุงเนื้อหมูให้สุกทั่วถึงจนเนื้อไม่มีสีแดง ไม่เติมหรือใส่เลือดดิบในอาหาร ส่วนการเลือกซื้อเนื้อหมู ควรเลือกซื้อเนื้อหมูที่สด ไม่มีสีแดงคล้ำหรือมีเลือกคั่งมาก ๆ ผ่านร้านค้าที่มีใบรับรองการนำเนื้อสุกรจากโรงงานฆ่าสัตว์ที่มีมาตรฐาน ไม่รับประทานเนื้อหมูที่ตายเอง สำหรับผู้ที่สัมผัสกับหมูที่ติดโรค โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู ควรสวมรองเท้า บู๊ทยาง สวมถุงมือ รวมถึงสวมเสื้อที่รัดกุมระหว่างทำงาน หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง ทางด้าน นพ.ดิเรก สุดแดน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลท่าวังผา/ รักษาการนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดน่าน กล่าวว่า ได้ออกคำสั่งแจ้งเตือนให้หน่วยงานสาธารณสุขของจังหวัดน่านทุกหน่วยงานเฝ้าระวัง และจัดทีมควบคุมโรค SRRT คอยระวังเหตุ และย้ำเตือนการบริโภคอาหารโดยเฉพาะเนื้อหมูที่ปรุงสุก ทั้งนี้หากพบอาการผิดปกติให้เข้ารับการรักษาที่หน่วยบริการสาธารณสุขใกล้บ้านได้ทันที
ร่วมแสดงความคิดเห็น