จับได้แล้ว!! ต้นเหตุไฟป่าออสเตรเลีย สูญเสียพื้นที่กว่า 30 ล้านไร่

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา ทางหนังสือพิมพ์เดอะออสเตรเลีย (The Australian) ได้รายงานข่าว มีประชาชนถูกจับกุมฐานวางเพลิงได้หลายร้อยคน ในพื้นที่รัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW) ควีนสแลนด์ วิกตอเรีย เซาท์ออสเตรเลีย และแทสมาเนีย

ในรัฐนิวเซาท์เวลส์เพียงรัฐเดียว มีผู้ถูกแจ้งข้อหาหรือตักเตือน เนื่องจากมีส่วนพัวพันกับเหตุไฟป่าจำนวน 183 คน นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2019 โดยในจำนวนนี้มี 24 คน ที่มีความผิดฐานเจตนาวางเพลิง ส่วนในรัฐวิกตอเรียมีผู้ถูกจับกุม 43 คน และในรัฐควีนสแลนด์ ซึ่งเป็นรัฐที่เหตุไฟป่าวิกฤตที่สุด ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2019 มีผู้ถูกจับกุมฐานเจตนาวางเพลิง จำนวน 101 คน โดยร้อยละ 70 เป็นวัยรุ่น

สำหรับเหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงปัจจุบันนี้ได้รวมแล้วคร่าชีวิตผู้คน และสัตว์ป่าเกือบ 500 ล้านตัว! นับเป็นเหตุการณ์ที่น่าหดหู่อย่างยิ่ง โดยขณะนี้มีพืื้นที่ถูกเผาไหม้กว่า 30.36 ล้านไร่ เผาผลาญแล้ว 2 รัฐ คือ นิวเซาท์เวลส์, วิกตอเรีย

ด้านนายเจมส์ ออกลอฟ (James Ogloff) ผู้อำนวยการ ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์พฤติกรรม (Forensic Behavioural Science) มหาวิทยาลัยสวินเบิร์น (Swinburne University) ระบุว่าไฟป่าที่ลุกลามในออสเตรเลียนี้ เกิดจากคนลอบวางเพลิงถึงประมาณ ร้อยละ 50

“คนกลุ่มนี้ชอบเวลาเห็นไฟ ชอบเวลาจุดไฟ และบ่อยครั้งพวกเขาตื่นเต้นไปกับข้อมูลที่เผยว่าไฟลุกไหม้หรือลุกลามไปแค่ไหน” ออกลอฟให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวนิวส์ คอร์ป (New Corp) ของออสเตรเลีย

รศ.เจเน็ต สแตนลีย์ (Janet Stanley) จากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์น (University of Melbourne) ระบุว่า กลุ่มคนที่ลอบวางเพลิงหรือไฟร์บักส์ (firebugs) ส่วนใหญ่เป็นชายวัยรุ่นอายุ 12-24 ปี หรือวัยชราอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยกล่าวว่า “คนกลุ่มนี้ไม่มีจุดร่วมอื่นใด นอกเสียจากพวกเขามีประวัติที่ไม่ค่อยดี เติบโตขึ้นมาพร้อมกับความบอบช้ำทางจิตใจ ทั้งยังเผชิญกับการถูกเมินเฉย และการทารุณกรรมบ่อยครั้งนับตั้งแต่เด็ก”

ทั้งนี้ เบรนดอน โซคาลุก (Brendon Sokaluk) อดีตอาสาสมัครผจญเพลิง ถูกตัดสินจำคุก 17 ปี 9 เดือน จากการวางเพลิงจนก่อให้เกิดไฟป่าในรัฐวิกตอเรีย เมื่อปี 2009 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไป 10 รายในเหตุไฟป่าแบล็ก แซทเทอร์เดย์ (Black Saturday) หนึ่งในเหตุไฟป่าที่รุนแรงที่สุดของออสเตรเลีย

ร่วมแสดงความคิดเห็น