ยื่นตรวจสอบสหกรณ์บริหารไม่โปร่งใส

ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์เครือข่ายบำนาญ พร้อมสมาชิกผู้แทนอำเภอ 7 อำเภอ เข้ายื่นหนังสือ ขอเปิดประชุมใหญ่วิสามัญตามข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอนจำกัด พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2557 เพื่อให้ทบทวนแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์อัตราการจัดสรรเงินปันผลและเฉลี่ยคืนที่ชอบธรรม การพิจารณาอนุมัติจัดสรรกำไรสุทธิ 2562 เมื่อเวลา 10.00 น. (วันที่ 9 ม.ค.) ที่สำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน จำกัด นายสมจิต สุวรรณบุษย์ ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์เครือข่ายบำนาญ พร้อมสมาชิกผู้แทนอำเภอ 7 อำเภอ เข้ายื่นหนังสือ ขอเปิดประชุมใหญ่วิสามัญตามข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอนจำกัด พ.ศ. 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2557 เพื่อให้ทบทวนแก้ไขปรับปรุงหลักเกณฑ์อัตราการจัดสรรเงินปันผลและเฉลี่ยคืนที่ชอบธรรม การพิจารณาอนุมัติจัดสรรกำไรสุทธิ 2562 มีนายสงวน ศรีสวัสดิ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน เป็นผู้รับหนังสือจากผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ฯ

นายสมจิต สุวรรณบุษย์ ผู้แทนสมาชิกเครือข่ายบำนาญ กล่าวว่า หลังจากที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน จำกัด โดยคณะกรรมการบริหารงานได้ดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 1 ปี ก็ได้จัดประชุมสมัยสามัญประจำปี เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งมีการแถลงผลการดำเนินงานของสหกรณ์ ทำให้สมาชิกเกิดข้อสงสัยในการบริหารงานของสหกรณ์ ในรอบปี ซึ่งผลการดำเนินงานมีรายได้กำไรสุทธิประจำปีลดลง เหลือเพียง 77,724,564.61 บาท ซึ่งต่างจากผลกำไรสุทธิปี 2561 จำนวน 123,501,623.55 บาท ส่งผลให้การจัดสรรเงินปันผลลดลงเหลือ 4% จากที่เคยได้ 5.75% และเงินเฉลี่ยคืน จาก 12% ลดลงเหลือ 8% ขณะเดียวกันสมาชิกก็สงสัยที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนำเงินไปให้สหกรณ์การเกษตรเมืองแม่ฮ่องสอนกู้ยืมอีกกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งเกรงว่าจะเกิดการหนี้สูญ เนื่องจากว่า สหกรณ์การเกษตรเมืองแม่ฮ่องสอนก็ไม่สามารถจะคืนเงินกู้ให้ได้เป็นเวลานานแล้ว และยังทราบข่าวว่า มีการเปลี่ยนแปลงเอกสารกู้ยืมเงินเป็นการฝากเงิน จึงเป็นข้อกังวลของมวลสมาชิกและคณะกรรมการบริหารงานก็ไม่ได้ชี้แจงให้สมาชิกรับทราบซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอย่างมาก โดยสมาชิกก็ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการให้กู้ยืมเงิน เมื่อเป็นอย่างนี้คณะกรรมการจะต้องรับผิดชอบในส่วนนี้ด้วย และต้องไปดูว่าใครไปทำนิติกรรมในการอนุมัติเงินกู้ทั้งหมด ไม่ใช่โยนภาระให้กับสมาชิก ซึ่งเป็นข้อกังวลของสมาชิก จะต้องมาประชุมและทบทวนกันใหม่ โดยเฉพาะเงินปันผลและเฉลี่ยคืน ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นก็ควรจะลดเช่นการศึกษาดูงานที่จะต้องใช้เงินจำนวนมากก็ควรจะลดลงบ้างนำเงินจำนวนนี้ไปใช้จ่ายที่จำเป็นให้กับสมาชิกจะดีกว่า เพราะทุกคนเดือดร้อน

นายสมจิต กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาเมื่อ 28 ธันวาคม 2562 ได้เปิดประชุมสมัยสามัญโดยมีผู้แทนของสมาชิกเข้าประชุมและนำข้อประชุมไปชี้แจงให้สมาชิกรับทราบ และสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ฯรู้ว่าตัวเองถูกหักเงินปันผลก็เกิดความไม่พอใจ และไม่เข้าใจว่าผู้แทนสมาชิกที่ร่วมประชุมทำไมไปรับมติของที่ประชุมในการหักเงินปันผลและเฉลี่ยคืน ดังนั้นสมาชิกจึงได้ลงชื่อกันกว่า 600 คน เพื่อให้สหกรณ์เปิดการประชุมสมัยวิสามัญตามข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน พ.ศ.2542 และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 1-6 ข้อ 48 ขอเสนอเปิดประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อพิจารณาทบทวนมติของสหกรณ์ฯภายใน 30 วัน นายสงวน ศรีสวัสดิ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน จำกัด ตำแหน่งเดิมเป็นผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน จำกัด หลังจากที่ได้ลาออกและลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานกรรมการในการประชุมใหญ่สามัญเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมาได้รับการเลือกตั้งเข้าดำรงตำแหน่งประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอนจำกัด หลังจากรับหนังสือแล้ว ได้กล่าวว่า จะนำข้อเรียกร้องของสมาชิกที่ได้ยื่นหนังสือเข้าที่ประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาในการเปิดประชุมอีกครั้ง

สหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน จำกัด ได้เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2507 มีสมาชิก 336 คน มีทุนดำเนินงาน 11,080 บาท ปัจจุบันมีสมาชิก 6,721 คน ทุนดำเนินงานกว่า 3,500 ล้านบาท รายการหักค่าเผื่อเงินฝากสหกรณ์อื่น สงสัยจะสูญโดยเฉพาะสหกรณ์การเกษตรเมืองแม่ฮ่องสอน จำกัด จึงเดินทางมายื่นหนังสือดังกล่าว โดยมี นายสงวน ศรีสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน จำกัด เป็นผู้รับมอบหนังสือดังกล่าว และได้แจ้งจะดำเนินการเปิดการประชุมใหญ่วิสามัญ ภายใน 30 วัน กลุ่มเครือข่ายบำนาญขุนยวม พอใจ และสลายตัวเดินทางกลับ เมื่อเวลา 1030 เหตุการณ์ทั่วไปปกติ

นายประเสริฐ วิริยะภาพ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า สหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน เรามีกำไรทุกปี และปีที่ผ่านมามีกำไรมากถึง 130 ล้านบาท และช่วงที่ผ่านมาสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน ได้นำเงินไปฝากช่วยเหลือสหกรณ์การเกษตรเมืองแม่ฮ่องสอน จำนวน 20 ล้านบาท พร้อมอัตราออกเบี้ย 24 ล้านบาท รวมเป็น 44 ล้านบาท ต่อมาเมื่อปี 2553 สหกรณ์การเกษตรเมืองแม่ฮ่องสอน มีปัญหา เกิดการทุจริตขึ้น แต่สหกรณ์การเกษตรเมืองก็ยอมรับว่าเป็นหนี้อยู่ และดอกเบี้ยก็นำเข้าบัญชีให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูอยู่ตลอดเวลา ทำให้การจัดการเงินปันผลในปีนี้ มีปัญหาตรงที่ พระราชบัญญัติสหกรณ์ของกรมตรวจบัญชีสหกรณ์บอกว่า ถ้าสหกรณ์ไหนเอาเงินไปฝากไว้ที่สหกรณ์อื่นแล้วและยังถอนไม่ได้ จะต้องตั้งเงินกำไรที่มีอยู่ไว้สงสัยหนี้จะสูญ ทำให้เงินที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน ที่นำไปฝากและช่วยเหลือไว้กับสหกรณ์การเกษตรเมืองแม่ฮ่องสอนรวมดอกเบี้ย 44 ล้านบาทนั้น จะไม่สามารถนำมาจ่ายให้เป็นเงินปันผลให้กับสมาชิกได้ก็ต้องเอาเก็บไว้ก่อน ส่วนที่เหลือถึงเอามาเป็นปันผลให้สมาชิก ซึ่งเราไปทำความเข้าใจกับสมาชิกแล้วเพื่อไม่ให้สมาชิกเดือดร้อน หลายคนก็ไม่เข้าใจ และเราก็ไม่ได้เอาเงินไปฝากที่สหกรณ์การเกษตรที่เดียว มันเป็นไปตามความร่วมมือของสหกรณ์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ก็ติงมาว่า ถ้าสหกรณ์ออมทรัพย์ใดที่จะช่วยกันได้ก็ให้ช่วยกัน เมื่อสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอนมีสภาพคล่องก็เลยเข้าไปช่วยเหลือสหกรณ์การเกษตรในแต่ละอำเภอ แต่ละสหกรณ์ก็ไม่มีปัญหา มามีปัญหาอยู่ที่สหกรณ์การเกษตรเมืองแม่ฮ่องสอนเท่านั้น เราก็เข้าใจถึงความจำเป็น แต่จะต้องอยู่ในข้อบังคับและมติที่ประชุมของคณะกรรมการ ปัจจุบันสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน มี เงินสำรองเรามีอยู่ 180 ล้าน และเงินหมุนเวียนเรามีอยู่ 3,400 กว่าล้านบาท หากสมาชิกจะมาถอนเราก็ไม่ขัดข้อง หรือจะมาถอนออกไปสัก 100 ล้าน ก็ไม่มีปัญหา เรามีเงินพร้อมอยู่เสมอ อยู่ที่ความไม่เข้าใจของสมาชิก ส่วนการประชุมตามข้อเรียกร้องของสมาชิก เมื่อรับหนังสือจะต้องแจ้งให้สมาชิกทราบภายใน 30 วัน เพราะเรียกประชุมแต่ละครั้งจะมีค่าใช้จ่ายตามมาพอสมควร

ร่วมแสดงความคิดเห็น