หนุ่มวัยรุ่นเดินทางให้ปากคำตำรวจ !! หลังยกพวกตีกันในโรงพักช้างเผือก เผยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อนที่สถานบันเทิง

วันที่ 20 ม.ค. 63 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่ช่วงกลางดึกของวานนี้ (19 ม.ค.63) ที่ได้เกิดเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นยกพวกชกต่อยทำร้ายร่างกายกัน ภายในบริเวณรั้วโรงพัก สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ โดยมีการระบุว่ากลุ่มวัยรุ่นประมาณ 7-8 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งแล้วเกิดมีเรื่องกัน จากนั้น 1 ในฝ่ายนั้นได้เดินทางเข้ามาแจ้งความ แต่กลับถูกกลุ่มคู่อริตามมาหาเรื่อง จนกระทั่งเกิดความวุ่นวายในโรงพัก ตามที่มีข่าวปรากฎออกไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 14.00 น. วานนี้ ทางคู่กรณีที่ถูกทำร้ายร่างกาย บน สภ.ช้างเผือก ทราบชื่อเล่นคือ นายคิง อายุ 33 ปี และ นายตาม อายุ 29 ปี เป็นพนักงานส่งของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ได้เดินทางเข้าพบกับ พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก และพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยหนึ่งในผู้เสียหายคือ นายคิง อายุ 33 ปี ได้ให้ข้อมูลว่า ก่อนที่จะมีการชุลมุนกันบนโรงพักนั้นตนได้มีเรื่องกับกลุ่มวัยรุ่นที่มาเที่ยวสถานบันเทิงชื่อว่าร้าน “ฮอม” อยู่เยื้องกับตลาดเจเจมาร์เก็ต จากนั้นได้มีเรื่องชกต่อยกับกลุ่มวัยรุ่น ที่ตามมาที่โรงพัก โดยครั้งแรกตอนมีเรื่องกันนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจได้เดินทางไปแยกทั้งคู่ออกจากการทะเลาะกัน และให้ไปที่ สภ.ช้างเผือก เพื่อมาให้การสอบสวน จากนั้นตนจึงเดินทางมาที่โรงพัก ตามที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอก แต่แล้วทางคู่กรณีก็ตามมาพร้อมกับพวกอีกประมาณ 5-6 คน

โดยขณะนั้นกลุ่มตรงข้ามก็ขึ้นมาหาตนที่หน้าโต๊ะบันทึกประจำวัน แล้วใช้เท้าเหยียบบนเก้าอี้พร้อมกับขู่ให้ตนก้มกราบเท้า แต่หลังจากนั้นเพื่อนที่ตามมาก็ได้มีปากเสียงกัน และเกิดการทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้น โดยทางผู้เสียหายอ้างว่าถูกรุมทำร้าย จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ประจำอยู่บนโรงพักก็ได้มาแยกคู่กรณีออกไป นอกจากนี้ หลังจากทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งคู่กรณีออกไปนั้น ทางคู่กรณีมีกลุ่มเพื่อนประมาณ 20 คน เข้ามาที่โรงพัก ทำให้กลุ่มตนนั้นเกิดความกลัว จึงต้องขึ้นไปหลบอยู่บนชั้น 2 ของโรงพัก ซึ่งขณะนั้นมีตนกับน้องชาย ต้องปีนออกทางด้านหลังโรงพัก เพื่อหลบหนีออกจากโรงพัก

อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็จะได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้ก่อน จากนั้นจะได้มีการเรียกคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาสอบสวนและมีการแจ้งข้อหาอีกครั้ง ตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น