ดร.ภิญโญ ประกาศ เปิดตัวทีมงานลงสู้ ศึกเลือกตั้งนายกบอล

ประกาศเปิดตัวทีมงานพร้อมแล้ว ดร.ภิญโญเปิดตัวชิงเก้าอี้นายกส.บอล ลั่น CHANGE พัฒนาบอลไทยสู่บอลโลกดร.ภิญโญ นิโรจน์ เปิดตัวทีมงานชิงเก้าอี้ตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ อุปนายก 5 ท่าน ดร.ปัญญา หาญลำยวง, พล.อ.อ.อานนท์ จารยะพันธุ์, พล.อ.ราชรักษ์ เรียนพืชน์, นายสามารถ มะลูลีม, ดร.วิชัย ล้ำสุทธิ ส่วนสภากรรมการ 11 ท่าน ถือได้ว่าเป็นผู้ที่อยู่ในวงการฟุตบอลมาอย่างยาวนาน

วางคอนเซปต์และนโยบายหลักคือ CHANGE พัฒนาฟุตบอลไทยสู่ฟุตบอลโลก กำหนดยุทธศาสตร์สู่การเปลี่ยนแปลงให้ฟุตบอลไทย เพิ่มทีมไทยลีก เพิ่มเงินสนับสนุน เพิ่มเงินรางวัลทุกลีก งบประมาณเปิดเผยได้ ไม่มีกั๊ก

ดร.ภิญโญ นิโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคพลังประชารัฐ จังหวัดนครสวรรค์ อดีตผู้ก่อตั้งสโมสรถาวรฟาร์ม และอดีตรักษาการนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แถลงเปิดตัวทีมงาน และนโยบายในการชิงเก้าอี้ประมุข ส.บอล ครั้งนี้ที่ห้องปาริชาติ โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน พระราม 9 เมื่อวันศุกร์ที่ 24 ม.ค. 63

สำหรับตำแหน่งต่าง ๆ ของชุดผู้สมัครนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ประกอบด้วยตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ดร.ภิญโญ นิโรจน์, อุปนายก 5 ท่าน ดร.ปัญญา หาญลำยวง, พล.อ.อ.อานนท์ จารยะพันธุ์, พล.อ.ราชรักษ์ เรียนพืชน์, นายสามารถ มะลูลีม, ดร.วิชัย ล้ำสุทธิ

สภากรรมการ 11 ท่าน ประกอบด้วย นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล, ดร.จุฑา ติงศภัทย์, นายสุนทร มีสุวรรณ, นายชัยโชค พุ่มพวง, นายธีระพงษ์ วัฒนวงษ์ภิญโญ, นายสมศักดิ์ อรุณสุรัตน์, นายอติพล สุวรรณดี, นายคณบดี แย้มชุติ, นายภีมเดช อมรสุคนธ์, นายอนุชา ไชยเทศ และ นายสุพจน์ งดงามคอนเซปต์และนโยบายหลักของ ดร.ภิญโญ นิโรจน์ คือ CHANGE พัฒนาฟุตบอลไทยสู่ฟุตบอลโลก และมีสาระสำคัญดังนี้

  1. โครงสร้างสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย สิ่งไหนดีอยู่แล้ว จะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร โดยเฉพาะกุนซือใหญ่คนปัจจุบัน อากิระ นิชิโนะ ที่ทำดีอยู่แล้ว แต่สิ่งใดที่เห็นว่าควรมีการปรับปรุงให้ดีขึ้นก็จะดำเนินการปรับเปลี่ยน
  2. การพัฒนาการแข่งขันกีฬาฟุตบอลอาชีพ เพิ่มทีมไทยลีกจาก 16 เป็น 18 ทีม รวมถึงเพิ่มเงินรางวัลแชมป์ไทยลีก 10 ล้านบาทแบบเดิมไม่พอ เพราะทีมเขาลงทุนเป็น 100 ล้าน เพิ่มเงินสนับสนุนแต่ละลีกให้มากกว่าเดิม รวมถึงงบประมาณทุกอย่างสามารถเปิดเผยกับสโมสรสมาชิกได้
  3. การพัฒนาทีมชาติไทย พัฒนานักกัฬาทั้งชายและหญิงทุกระดับ โดยการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2 ครั้งต่อจากนี้ ปี 2021 และปี 2023 ไทยต้องเป็นแชมป์เหรียญทอง, เอเชียนเกมส์ ฟุตบอลชายต้องเข้า 4 ทีมสุดท้ายในปี 2022, ฟุตบอลหญิงต้องไปฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 ให้ได้
  4. การพัฒนาผู้ตัดสินกีฬาฟุตบอล ผู้ตัดสินต้องผลักดันให้ได้ไปทำหน้าที่ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายให้ได้
  5. การสร้างเครือข่ายระดับนานาชาติ สร้างความสัมพันธ์ในระดับนานาชาติทั้งผู้บริหาร ผู้ตัดสิน ผู้ฝึกสอน และนักฟุตบอลไปอบรมระหว่างประเทศ
  6. การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เสนอตัวเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลในระดับต่างๆ ที่มีความสำคัญ เพื่อสร้างโอกาสให้กับทีมชาติไทย และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศไทย ประเทศไทยต้องเป็นเจ้าภาพยู-17, ยู-19 ชิงแชมป์โลกรอบสุดท้าย คิงส์คัพต้องจัดให้ยิ่งใหญ่ เชิญทีมใหญ่ ๆ มา แพ้ชนะไม่เป็นไร ให้ไทยได้ประสบการณ์

โดย ดร.ภิญโญ นิโรจน์ ให้สัมภาษณ์ว่า ”ตอนนี้เริ่มเดินสายหาเสียงไปแล้ว ใช้วิธีการพบปะพูดคุย และใช้วิธีโทรหาต่อสายตรงบ้าง จาก 69 เสียงสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ถ้าสัก 35 เสียงเลือกและเชื่อในคอนเซปต์ของผม ก็น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงได้บ้าง”

”ยืนยันว่าไม่ได้เป็นนอมินีใคร ไม่ใช่ตัวแทน คุณวรวีร์ มะกูดี ที่มาตรงนี้เพราะเป็นคนฟุตบอล อยู่ในวงการมาอย่างยาวนาน เป็น ส.ส. มา 8 สมัย ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวแทนใคร ที่มาตรงนี้เพราะอยากพัฒนาฟุตบอลไทยจริง”

ร่วมแสดงความคิดเห็น